Nov-2018
รีวิวโรงแรมเปิดใหม่ Grande Centre Point PATTAYA – ที่พักที่ทุกครอบครัวต้องไปเช็คอิน
รีวิวโรงแรมเปิดใหม่ Grande Centre Point PATTAYA
ที่พัก ที่ทุกครอบครัวต้องไปเช็คอิน
เวลาพาครอบครัวไปเที่ยว คุณต้องการอะไร ที่พักที่สบายเหมือนบ้าน ที่ให้ลูกเล่นน้ำ เข้าคิดส์คลับ มีห้างให้ลูกไปกินข้าว เดินเล่น ช้อปปิ้ง ให้เด็กได้ปลดปล่อยพลังงาน ทั้งหมดที่ว่ามามีอยู่ในนี้ Grande Centre Point PATTAYA โรงแรมเปิดใหม่ใจกลางพัทยา อยู่บนห้าง Terminal 21 Pattaya
เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ห้างใหม่กริ๊บอย่าง Terminal 21 Pattaya พึ่งเปิดและแน่นอนว่ากลายเป็น Landmark แห่งใหม่ของเมืองพัทยาแห่งนี้ และนอกจากห้างแล้วในอาทิตย์ต่อมาก็มีการเปิดตัวโรงแรมแห่งใหม่ที่อยู่บนห้างด้วยนั่นก็คือโรงแรม Grande Centre Point PATTAYA นั่นเอง โรงแรมแบรนด์หนึ่งที่ได้ชื่อว่าเป็นที่ชื่นชอบของการพาครอบครัวเที่ยว และยิ่งที่นี่ได้ทาง Land and House มาเป็นผู้บริหาร ยิ่งทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างตอบโจทย์การพักผ่อนอย่างเต็มที่เลยละ
ครอบครัวเรามีโอกาสไปพักที่นี่ในวันเปิดตัวพอดี ซึ่งในวันเปิดตัวถือว่าเป็นวันที่มีอัตราเข้าพักสูงมากๆถ้าเทียบกับหลายๆโรงแรมที่ครอบครัวเราเคยไปมา แอบๆถามพนักงานได้ยินมาว่ามีอัตราเข้าพักร่วม 80% เลยนะ สำหรับราคาเปิดตัวอยู่ราวๆ 3,xxx บาท ซึ่งราคาอาจจะแตกต่างไปในแต่ละวันลองตรวจสอบตามเว็บไซต์ที่แต่ละคนถนัดได้เลยจ้า
- เช็คราคาและจองที่พักผ่าน expedia.co.th
- เช็คราคาและจองที่พักผ่าน agoda.com
- เช็คราคาและจองที่พักผ่าน Booking.com
แน่นอนว่าวันที่ไปมีรถมหาศาลเพราะคนยังเห่อกับห้างใหม่อย่าง Teminal 21 อยู่ แต่เรื่องที่จอดรถไม่มีปัญหาเพราะมีการกั้นที่จอดรถเฉพาะสำหรับแขกโรงแรมที่ชั้น 2 ดังนั้นที่จอดถือว่าเหลือๆเลยหล่ะ แต่ตอนวันรถเข้ามาให้วนไป Drop ของลงที่หน้าโรงแรมก่อนนะ แล้วทางโรงแรมจะให้บัตรสำหรับขึ้นไปจอดรถบนชั้นจอดของโรงแรมอีกทีหนึ่ง
หลังจากจอดรถเสร็จแล้วลงมาเช็คอินกันได้เลย ที่ล็อบบี้จะตกแต่งออกโทนสีฟ้า เปรียบเสมือนว่าเราลงมาอยู่ในโลกใต้ท้องทะเล อย่างไร อย่างนั้น ข้างๆเค้าท์เตอร์เช็คอินจะมีส่วนของ Welcome Drink ให้บริการซึ่งมีทั้ง น้ำเปล่า น้ำหวาน และชากาแฟบริการ รวมถึงมีหนังสือพิมพ์และนิตรสารให้อ่านรอระหว่างทำการเช็คอินด้วย
ใกล้ๆล็อบบี้ตรงทางที่จะเดินไปยังห้าง Teminal 21 ก็จะมี Business Lounge ให้มานั่งทำงานหรือคุยธุรกิจส่วนตัวได้
ลิฟท์ที่นี่มีให้ใช้งาน 5 ตัว การจะไปชั้นต่างๆจะต้องใช้ Key card ในการไป และในส่วนของห้องพักจะไปใช้เฉพาะชั้นที่เราพักเท่านั้น เท่าที่ใช้ถือว่าลิฟท์เร็วจี๋เลยละ
ที่แต่ละชั้นจะมี Facility ที่เหมือนกันคือจะมี ตู้กดซื้อน้ำซื้อขนม รวมไปถึงมีบริการน้ำแข็งฟรีด้วย ซึ่งตรงนี้ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของโรงแรมเครือนี้ที่มีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นอยู่ ซึ่งของที่ซื้อจากตู้กดนี่คือราคาแทบจะเท่าที่ซื้อจาก 7-eleven เลยนะ ครอบครัวเราเสียเงินกับตู้กดนี้ไม่น้อยเลย เพราะเป็นของใหม่ที่น้องโฟกัสไม่เคยเห็นนางเลยชอบ และชวนพ่อไปหบอดเงินซื้อของไม่หยุดเลย ฮา…
ห้องพักของโรงแรมทุกห้องจะเป็นแบบ Seaview ทั้งหมด หลักๆจะมี 3 แบบคือ Superior Seaview / Deluxe Seaview / Panoramic Suite Seaview แต่จะมีเพิ่มเติมเล็กน้อยคือ ห้อง Deluxe จะมีบางห้องที่เป็นห้องหัวมุม และห้อง Deluxe จะมีแบบห้อง Connection ด้วยซึ่งเราสามารถเลือกห้องแบบ Connection ได้ตั้งแต่ตอนจอง รวมถึงห้องแบบ Panoramic Suite Seaview นั้นก็จะสามารถ Connection กับห้อง Deluxe กลางเป็นห้องแบบ Two-Bedroom Panoramic Suite ได้ด้วย ดังนั้นถ้าแบ่งตามที่โรงแรมแบ่งไว้จะมี 6 Type ดังนี้
- Superior Seaview
- Deluxe Seaview
- Deluxe Corner Seaview
- Deluxe Family Connecting
- Panoramic Suite Seaview
- Two-Bedroom Panoramic Suite
Superior – Deluxe seview Room
วันที่เราไปเราพักห้องแบบ Superior Seaview ซึ่งเอาจริงๆแล้วมีขนาดเท่ากับห้องแบบ Deluxe เลยต่างกันตรงที่ห้อง Deluxe จะมีอ่างอาบน้ำให้ด้วยเท่านั้นเอง แต่สิ่งที่ห้อง Superior ได้เพิ่มมาคือพื้นที่ด้านนอก เพราะไม่เสียพื้นที่ในห้องน้ำไปให้กับอ่างอาบน้ำนั่นเอง ซึ่งก็เลยมีการใส่ Sofa bed เพิ่มขึ้นมาให้ซึ่งทางโรงแรมสามารถปรับให้เป็นเตียงเสริมได้เลย ซึ่งห้องทั้งหมดที่ว่ามาก็จะมีให้เลือกทั้งแบบ Double และ Twin โดยห้อง Double เตียงจะเป็น Size 7′ เลยนะคือใหญ่โตดีงาม
ภาพข้างบนจะเป็นห้อง Superior ซึ่งด้านนอกจะมี โซฟาเบดด้วย ส่วนภาพข้างล่างนี้จะเป็นเตียงห้องแบบ Deluxe จะเห็นว่าไม่มีโซฟาเบด ส่วนฝั่งตรงข้ามเตียง จะเป็นทีวี เหมือนกันทั้ง 2 ห้อง ทีวีที่มีให้ก็ดีงามนะ เพราะมีช่องของ True Vision ให้ดูซึ่งมีช่องสำหรับดูบอลอย่าง Bein sport 1-2 ด้วยซึ่งถือว่าดีกว่าหลายโรงแรมที่ซื้อแพคเกจถูกๆมาแล้วไม่มีบอลให้ดู
สำหรับห้อง Connecting ก็จะเป็นการจับคู่ห้อง Twin กับห้อง Double เหมือนโรงแรมทั่วๆไป
อ้อที่นี่ทุกห้องจะมี Mini bar ให้และขนมน้ำต่างๆฟรีทุกรายการ และเติมให้ทุกวันด้วยนะ
มาดูห้องน้ำกันบ้างอย่างที่บอกข้อแตกต่างของห้อง Superior / Deluxe จะอยู่ที่ห้องน้ำที่ห้อง Deluxe จะมีอ่างอาบน้ำเพิ่มมาด้วยนั่นเองนอกนั้นจะเหมือนกันหมดที่โรงแรมนี้โถส้วมใช้เป็นแบบ Washlet หรือฝารองอัตโนมัติแบบญี่ปุ่นด้วยนะ มีระบบอุ่นฝารองนั่งให้อุ่นด้วยคือดีงาม
Panoramic Suite Seaview
สำหรับห้อง Panoramic Suite Seaview จะอยู่สุดตึกของโรงแรมซึ่งจะมีชั้นละ 2 ห้องมุมซ้ายขวา ฝั่งนึงจะเห็นวิวอ่าวพัทยา อีกฝั่งหนึ่งจะเห็นวิวหาดวงศ์อมาตย์ ลักษณะห้องจะออกแนว Studio มีทั้งส่วนโต๊ะอาหารอยู่บริเวณด้านหน้า และมีเป็นโซฟาชุดใหญ่อยู่ด้านหน้าทีวี แต่ตรงกำแพงฝั่งที่แขวนทีวีจะไม่ได้มีโต๊ะยื่นออกมาเหมือนห้อง Superior / Deluxe แต่ก็นะสามารถไปใช้ตรงโซฟาหรือโต๊ะกินข้าวได้อยู่แล้ว สำหรับ Minibar จะมีขนมมากกว่าห้องธรรมดาเล็กน้อย นอกนั้น Facility ต่างๆจะใกล้เคียงกัน
สำหรับห้องน้ำถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของห้องแบบนี้เลยนะกับวิวพาโนรามาสวยๆของพัทยา ที่สามารถแช่น้ำไปชมวิวไปได้อย่างฟินๆเลยละ
Floor F (acility) – แหล่งรวมความบันเทิงของทุกครอบครัว
สำหรับจุดเด่นของโรงแรมอยู่ที่ Facility ส่วนกลางซึ่งจะรวมตัวกันอยู่ที่ชั้น F น้องโฟกัสชอบมากเพราะบอกว่านี่เป็นชั้นของเค้า F(ocus) ฮา…ก็จริง สิ่งที่มีในชั้นนี้ประกอบไปด้วย
- ห้องอาหารห้องใหญ่ Waves & Wind
- The Fit Club
- Kids Club
- Amphitheatre
- Sky bridge
- Water Park
มาดูคิดส์คลับกันก่อนดีกว่า คิกส์คลับที่นี่ตดแต่งไว้สวยงาม ขนาดไม่ใหญ่นัก จุเด็กได้ซัก 10-20 ครอบครัวพร้อมๆกัน จุดเด่นอยู่ที่เรือโจรสลัดที่อยู่ตรงกลางห้องที่เด็กๆชอบมาวิ่งเล่นและปีนป่ายกันอย่างสนุกสนานเลยละ
ของเล่นมีไม่มากนัก แต่ก็โอเคนะ เพราะเด็กๆจะตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศห้อง นอกจากนั้นก็จะมีเครื่องเล่นเกมส์ของเด็กโต และมีนิทานสำหรับเบบี๋ด้วย เราชอบพาน้องโฟกัสมาเล่นที่คิดส์คลับนะเพราะเป็นที่ที่เค้าได้เจอเด็กวัยเดียวกัน ได้ไปเล่นได้ไปสร้างความสัมพันธ์ภาษาเด็กๆดีเลยล่ะ
ส่วน Amphitheatre เป็นเหมือนลานกว้างๆ ที่มี Stand ให้นั่งให้จัดกิจกรรม คอนเสิร์ทได้อะไรแบบนั้น แต่วันที่เราไปพื้นที่ตรงนี้ไม่ได้มีกิจกรรมอะไรเป็นพิเศษนะ
สำหรับ Sky bridge นี่ถือเป็นจุดชมวิวแห่งแรกของพัทยาที่ทำเป็นพื้นกระจกยื่นออกไปบนอากาศให้ไปประลองความกล้าท้าความเสียวกันได้
The Fit Club ที่นี่ใหญ่พอสมควรรวมถึงมี Trainer คอยดูแลอยู่ด้วย มีเครื่องออกกำลังกายพอสมควรที่สำคัญเปิดดึกถึง 4 ทุ่มแตกต่างจากหลายๆโรงแรมที่เปิดแค่ 1 ทุ่ม แถมที่เครื่องออกกำลังกายแต่ละเครื่องยังมีการเอาทีวีมาตั้งให้ดูได้อย่างส่วนตัวเลยละ แต่ถ้าจะให้ดีมันควรมี หูฟังให้อีกอย่างเพราะเวลาเปิดเสียงแล้วเสียงแอบตีกันเล็กน้อย เราได้มาใช้บริการที่นี่ทุกวันเลย ส่วนใหญ่ก็มาตอนมืดๆหลังจากพาน้องโฟกัสเข้านอนแล้วนั่นละ ด้านนอกห้องจะมีพวกโต๊ะพูลและเครื่องเล่นต่างๆ ให้เด็กเล็กเด็กโต มาสนุกกันได้ทั้งวันทั้งคืนเลย
มาที่ส่วนสำคัญอย่าง Water Park ของโรงแรมที่นี่ แน่นอนว่าไม่ได้ใหญ่โตอลังกาลงานสร้างแบบโรงแรมที่เน้นสวนน้ำ แต่ก็มีอะไรหลายอย่างให้เล่น มีที่ฉีดน้ำพุ่งๆให้เด็กๆวิ่งผ่าน มีถังน้ำยักษ์ที่คอยเทน้ำลงมา และมีสไลเดอร์ให้เล่น เราไปลองเล่นแล้วเห็นแบบนี้แต่ตอนลงมารู้สึกว่ามันเหวี่ยงแรงอยู่นะ
สำหรับใครที่ไม่ได้อย่างเล่นสวนน้ำก็จะมีส่วนของสระว่ายน้ำให้ไปลอยเล่นได้ น้ำโฟกัสชอบเล่นตรงนี้มากกว่า เพราะนางยังมีกลัวๆ ถังน้ำยักษ์อยู่ เลยพาลไม่กล้าไปเล่นอย่างอื่นในสวนน้ำไปด้วย อิพ่ออิแม่ เลยต้องมาลอยคอเล่นน้ำกับหนูโฟกัสแทน แต่เอาเถอะเราเห็นลูกมีความสุขเราก็แฮ้ปปี้แล้ว
สำหรับ Facility ส่วนอื่นๆนอกจากชั้น F ก็จะมีชั้น C(onference) 1 ชั้นเต็มๆไว้รองรับจัดสัมนาและงานเลี้ยงได้อย่างเต็มรูปแบบช่วงที่เราไปก็เห็นมีบริษัทมาใช้บริการแล้วนะ นี่ขนาดเป็นวันแรกที่เปิดตัวนะเนี่ย และมีชั้น M ที่จะมีบริการสปาให้สามารถไปนวดคลายความเมื่อยล้าได้
ห้องอาหาร Waves & Wind และ The Sky 32
ห้องอาหารนี้เป็นห้องอาหารหลักของโรงแรมมีใหบริการทั้งวัน มื้อเย็นบางวันอาจจะมีจัดบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดด้วยนะ ห้องอาหารที่นี่ก็ตกแต่งสวยงามตามธีมของโรงแรมคือใต้ท้องทะเลนั่นแหละ ที่มุมริมกระจกถือเป็นมุมนึงที่วิวดีใช้ได้เลยนะ
หลักๆที่เราจะใช้ห้องอาหารนี้กันก็คือมื้อเช้า ซึ่งอาหารเช้าที่นี่จะมีจัดอยู่ 2 ที่คือที่ห้องอาหารนี้และชั้น 32 ห้อง The Sky 32 ซึ่งถ้าอยากกินแบบมีตัวเลือกเยอะๆก็ต้องที่ห้องอาหาร Waves & Wind นี่แหละเพราะจะมีพื้นที่ที่มากกว่าสามารถจัดได้อลังกว่า แต่ห้องอาหารด้านบนจะออกแนวเนี้ยบ หรู กว่า
บุฟเฟ่ต์มื้อเช้าที่นี่ถือว่าจัดเต็มมากนะ วัตถุดิบที่ใช้เยอะและดีมาก รวมถึงมีเมนูอาหารที่หลากหลาย มีเมนูแนว Live Station หลายอย่างอยู่ ซึ่งเอาจริงๆ บุฟเฟ่ต์มื้อเช้านี้สามารถไปจัดขายเป็นบุฟเฟ่ต์เย็นตามโรงแรมในกรุงเทพฯได้สบายๆเลยละ
สำหรับตอนเย็นใครอยากจะโรแมนซ์เราก็แนะนำว่าช่วงพระอาทิตย์ตกขึ้นไปที่ Roof top ได้นะวิวพระอาทิตย์ตกคือดีงาม แต่เราไม่ว่างไงพาลูกไปเที่ยวเลยขึ้นมาถ่ายรูปบรรยากาศช่วงเช้าแทน ซึ่งเราว่าก็สวยดีนะ
ส่วนช่วงกลางวันเพื่อความประหยัดเราก็ออกไปเดินเล่นที่ Terminal 21 ที่นี่มีทั้ง Food Court ที่ราคาถูกมากๆ ครอบครัวเราไปฝากท้องมาหลายมื้อเลย นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารมากมายเต็มไปหมด มีวันนึงเรานัดเพื่อนๆอีก 3 ครอบครัวไปกินข้าวกันที่ร้านเสวย ซีฟู้ด พัทยา ซึ่งสาขานี้มีการนำอาหารท้องถิ่นทางภาคตะวันออก (Local Dishes) มาเสิร์ฟด้วย เรารีวิวไว้แล้วที่นี่ ไปอ่านกันได้นะ เสวย ซีฟู้ด พัทยา SAVOEY SEAFOOD CO. TERMINAL 21 PATTAYA – ซีฟู้ดอร่อยสด ชมวิว ชิลห้องแอร์
ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ทำให้เวลา 3 วัน 2 คืนของครอบครัวเราผ่านไปอย่างรวดเร็ว ผ่านไปโดยไม่จำเป็นต้องขับรถออกไปเที่ยวที่ไหนเลย เพราะการมาที่นี่ที่ โรงแรม Grande Centre Point PATTAYA นั้นตอบโจทย์ทุกความต้องการของครอบครัวเราหมดแล้ว
บทสรุปโรงแรมเปิดใหม่ Grande Centre Point PATTAYA
ที่พักที่ทุกครอบครัวต้องไปเช็คอิน
เป็นโรงแรมที่มีครบทุกอย่างที่คนมีครอบครัวต้องการเรียกมามาพักผ่อนที่นี่อยู่โรงแรมได้ทั้งวันโดยไม่ต้องออกไปไหน
- ตั้งอยู่ที่ Terminal 21 Pattaya สะดวก ทั้งช้อปปิ้ง ดูหนัง กินข้าว
- โรงแรมตกแต่งหรู เรียบ อยู่สบายใช้งานอุปกรณ์ต่างๆในห้องพักได้ง่าย สมแล้วที่ Land and House เป็นคนมาบริหารจัดการ
- ห้องน้ำให้โถส้วมอัตโนมัติ Washlet หรูหราไฮโซ
- ฟรี มินิบาร์ และเติมใหม่ทุกวัน
- มีน้ำให้ห้องละ 4 ขวด
- ฟรีน้ำแข็ง และมีตู้กดซื้อน้ำ ขนมทุกชั้น
- สวนน้ำ คิดส์คลับ ไม่ได้ใหญ่โตเวอร์วัง แต่มีครบทุกอย่างที่ คนมีครอบครัวต้องการ
- อาหารเช้าใหญ่โตเวอร์วัง อาหารจัดเต็ม หลากหลายและใช้วัตถุดิบดี
- วิวที่ The Sky 32 คือที่สุดของพัทยาแล้ว
- มี Sky Bridge จุดชมวิวกระจกใสแห่งแรกของพัทยา
- ราคาเปิดตัวห้องถูกสุดอยู่ราวๆคืนละ 3,xxx บาทถ้าใช้ Facility ครบๆแบบครอบครัวเราถือว่าไม่แพงเลยนะ
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เว็บไซต์โรงแรม https://www.grandecentrepointpattaya.com
- เช็คราคาและจองที่พักผ่าน expedia.co.th
- เช็คราคาและจองที่พักผ่าน agoda.com
- เช็คราคาและจองที่พักผ่าน Booking.com
- ตรวจสอบโปรโมชั่นของเอเยนซี่ต่างๆ –> http://www.travelplanetx.com/?p=5869
หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ ฝากคอมเม้นท์ ไลค์ แชร์ ก็จะเป็นกำลังใจอย่างยิ่ง หรือหากอยากติดตามประสบการณ์ดีๆไปกับพวกเราเพียง Bookmark http://www.travelplanetx.com หรือติดตามได้ที่ Facebook Fan Page: Travel Planet Xperiences ได้เลยจ้า