Nov-2018
Hungry Hub จัดให้ สุดยอดพรีเมี่ยมสเต็กกินไม่อั้น – Scalini Buffet @ Hilton Sukhumvit Bangkok
Hungry Hub จัดให้ สุดยอดพรีเมี่ยมสเต็กกินไม่อั้น
Scalini Buffet @ Hilton Sukhumvit Bangkok
จะดีมั๊ยถ้าจะได้กินสเต็กคุณภาพดี รสชาติอร่อยๆอย่างไม่อั้น วันนี้ Hungry Hub จัดให้แล้วกับ Scalini Buffet จากโรงแรม Hilton Sukhumvit Bangkok ที่ส่งดลีเด็ดบุฟเฟ่ต์โคตรพรีเมี่ยมสเต็กในราคาเบาๆ
Scalini ห้องอาหารดังจากโรงแรม Hilton Sukhumvit Bangkok พึ่งจัดเทศกาล MEAT & MUSCLE ที่นำโดย Flat Iron Steak & Foie gras ที่จานเดียวก็ราคาร่วม 800 บาทแล้ว แต่วันนี้ Hungry hub นำมาจัดดีลพิเศษ บุฟเฟ่ต์ สั่งได้ทุกเมนู ทุกอย่างในราคาเพียง 1,499 บาท หรือเพิ่มอีก 100 บาทเป็น 1,599 ก็จะได้เครื่องดื่มคือน้ำเปล่าและซอฟท์ดริ๊งค์อย่างไม่อั้นด้วยนะโดยโปรนี้กำหนดจำนวนจองขั้นต่ำ 2 คนนะ แต่ส่วนตัวคิดว่าถ้าไปเยอะๆ คนก็จะสนุกกว่า และสามารถเลือกชิมได้หลายเมนูมากขึ้น เราจึงยกแกงค์รวบรวมดาวรุ่งมาได้5 คนด้วยกัน
ซึ่งใครสนใจโปรนี้ไปที่หน้างานไม่ได้นะ เพราะเป็นดีลพิเศษต้องจองตรงผ่าน Hungry hub เท่านั้นซึ่งดีลนี้สามารถเลือกอร่อยไม่อั้นได้ 2 ชั่วโมง ใครสนใจจองทางนี้ได้เลย –> คลิกเพื่อจอง
การเดินทางมาโรงแรมก็ไม่ยาก ถ้าขับรถมาก็เลือกเข้าจากทางสุขุมวิทหรือเข้าจากพระราม 4 ก็ได้แต่รถอาจจะเยอะหน่อย หรือถ้าสะดวกนั่ง BTSก็สามารถลงที่สถานี พร้อมพงษ์ แล้วเดินเข้าซอยนิดนึงก็ถึงโรงแรม เมื่อมาถึงห้องอาหารโรงแรมตกแต่งได้สวยสมกับเป็น Hilton การจัดโต๊ะเป็นสัดส่วน ดูไม่แออัดบรรยากาศเหมาะกับการมาเป็นคู่ หรือจะมากับแกงค์เพื่อนก็ได้
โดยที่ห้องอาหารนี้เค้าจะจัดครัวเปิดไว้ที่ด้านหน้าของห้องอาหารเราสามารถเดินไปดูเดินไปชมได้เลยนะ
ซึ่งเราไม่รอช้าจัดแจงดูเมนูกันก่อนเลย โดยหลักๆ มีการแบ่งเมนูไว้เป็นกลุ่มตามนี้
- Light Weight Selection ที่เป็นโปรตีน 50 กรัมต่อจาน
- Middle Weight Selectionที่เป็นโปรตีน 100 กรัมต่อจาน
- Heavy Weight Selection ที่เป็นโปรตีน 200 กรัมต่อจาน
- Side Dishes
- Full Calories Dessert
โดยเมนูที่นี้จะเป็นเมนูสำหรับดีล Hungry Hub โดยเฉพาะเลย ซึ่งวัตถุดิบต่างๆจะไม่ต่างจากการสั่งทานแบบ A la carte เลยแต่จะมีข้อกำหนดต่างๆเพิ่มเติมเล็กน้อยตามนี้เลยจ้า
เราก็สั่งไปพอประมาณ โดยระหว่างที่นั่งรออาหารมาเสิร์ฟนั้น ก็นั่งทานขนมปังไปพลางๆ ก่อน โดยขนมปังนั้น ทางโรงแรมได้จัดมาอย่างเก๋ไก๋ ของจริงดูน่ารักเลย ตัวขนมปังมีหลายแบบให้เลือกและเราชอบอยู่ตัวนึง ที่เป็นขนมปังที่ด้านล่างชุ่มด้วยเนย หอมอร่อยมาก อบมาแบบฟูกรอบนิดๆ ต้องห้ามใจไว้ว่าไม่ทานเยอะ เพราะวันนี้เราจะเน้นเนื้อกัน อิอิ นอกจากนั้นเรายังสามารถเดินไปหยิบพวก Cold cut มาทานกันได้ด้วยนะ
นั่งรอไปซักพักอาหารก็มาเสิร์ฟจ้า มาดูจานที่เราออเดอร์กันว่ามีอะไรโดนๆ บ้าง
Light Weight Selection
- Angus Bone marrow 6” เป็นตัวไขกระดูก กับ Tuna Tartare ตกแต่งด้วยไข่นกกระทาดาว เนื้อจะออกคล้ายเจลลี่หน่อยๆ ปรุงมาได้หอมเนย ทานคู่กับไข่นกกระทาก็จะขลุกขลิกๆ หน่อย ซึ่งตัวไขกระดูกนี้เค้าว่าคนชอบก็จะชอบเลย เราชิมแล้วไม่ถูกปากเท่าไหร่ แต่เพื่อนที่ไปคนนึงเค้าชอบจานนี้มาก
- Tataki เนื้อติดมันสไลด์กริลล์มาแบบสุกแค่ขอบๆ ลักษณะเมนูนี้จะออกแนวสลัดเบาๆ น้ำสลัดซีอื้วญี่ปุ่นผสมเลมอน ทานแล้วก็หอมแบบสดชื่นๆ ดี เสิร์ฟมาในจานแบบอลังการ จานนี้มีเบิ้ลมา 2
- Baby Spinach Salad เป็นสลัดแบบน้ำใสเพื่อสุขภาพ และมีทูน่าที่กริลล์ขอบๆ มาเพิ่มโปรตีนเหมาะจะสั่งมาทานแกล้มกับสเต็ก เพื่อสลับรสชาติ
- Scalini Caesar Salad สลัดซีซาร์แบบทั่วไป โรยขนมปังกรอบ เบคอน และไก่กริลล์ รสชาติอร่อยดี เสียแต่จานนี้คลุกน้ำสลัดมาน้อยไปหน่อย
Middle Weight Selection
- Old school Beef Goulash soup รสชาติจะออกคล้ายซุปหรือสตูว์หน่อยๆ เนื้อหั่นเป็นชิ้น ต้มมาเปื่อยโดยเฉพาะถ้าใครชอบส่วนเอ็น จะมีชิ้นที่ติดเอ็นนิ่มๆ ดิ๋งๆ อยู่
- Lobster Bisque ซุปจะออกหวาน หอม ไม่เข้มนัก (ถ้าทานบางที่จะกลิ่นล็อปเตอร์จ๋ามาก อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละท่านว่าจะชอบแนวไหน) มีเนื้อล็อปสเตอร์มาเล็กน้อย ชิมกันคนละนิดหน่อยก็อร่อยกำลังดี
- Baked Paccheri with beef, sausage ragu and mozzarella เป็นเมนูที่พวกเราลังเลว่าจะสั่งหรือไม่สั่งดี แต่พนักงานเชียร์ว่าเป็นเมนูขายดี ก็เลยต้องลองบ้าง ลักษณะจะเป็นพาสต้าที่เป็นหลอดแบบใหญ่ๆ หน่อย ตัวเส้นหนึบๆ ดี (แต่เพื่อนบอกว่ามันสุกน้อยไปหน่อย แต่เราชอบความสุกระดับนี้นะ) กับชอบไส้กรอกที่อยู่ในซอสด้วย
- Boston Lobster and blue crab chitarra pasta เส้นพาสต้า ที่มี Lobster กับ Blue crab ในซอสมะเขือเทศ ให้เครื่องมาเยอะ และให้เส้นมาเยอะเช่นกัน มาในปริมาณที่ 1 คนอิ่มได้ดังนั้นถ้าไปกันน้อยอาจต้องเลือกสั่งหน่อยนะ
Heavy Weight Selection
- Crying Tiger หรือเสือร้องไห้นั่นเอง เนื้อติดมันกริลล์มาหอมกำลังดี เวลาเคี้ยวจะออกนุ่มและเด้งหน่อย และมีน้ำจิ้มแจ่วให้เลือกจิ้มได้ (ส่วนตัวเราชอบเสือร้องไห้แบบร้านส้มตำปากซอยมากกว่า แบบที่ย่างทีไฟลุก ขอบนอกเกรียมอ่ะ ไม่ใช่อันนี้ไม่อร่อยนะ แต่เราติดภาพเสือร้องไห้ว่าต้องเป็นแบบนั้นอยู่ )จานนี้มีเบิ้ล 2 เช่นกัน
- Flat iron steak & Foie gras เป็นจานที่พวกเราปลื้มที่สุด สั่งซ้ำถึง 6จานทีเดียว ตัวฟัวกราส์กริลล์มาได้กำลังดีมาก อร่อยแบบสุดๆ ส่วนสเต็กนั้นเป็นเนื้อส่วน Top chuck ที่กริลล์แบบเลือกความสุกได้ ซึ่งเราเลือกแบบ Mediumก็ได้มาตามที่ต้องการ ตัวเนื้อนุ่มกำลังดี จิ้มทานเปล่าๆ ก็อร่อย หรือเลือกทานกับซอส Blue cheeseหรือซอสทรัฟเฟิลก็ได้ (เราชอบแบบทานกับซอสทรัฟเฟิลสุด)
- Braised Beef Short ribs เป็นเนื้อตุ๋นแบบติดกระดูกที่มากันชิ้นใหญ่ๆ เลย ตัวเนื้อนุ่ม และซอสก็เข้าเนื้อดี เสิร์ฟพร้อมกับ Mushrooms Risotto ที่หอมเนยแต่รสไม่จัดนักเวลาทานคู่กันก็โอเคเลย
- Scalini Sunday Brunch’s BBQ Pork Ribs สำหรับเราจานนี้ไม่ผ่านเลย ตัวเนื้อออกแห้งและกระด้างไปหน่อย ซอสออกเปรี้ยวนิดเผ็ดหน่อย แต่ไม่รู้ว่าเพราะว่าเรามัวแต่ถ่ายรูปจนมันหายร้อนแล้วเลยไม่อร่อยหรือเปล่า
- Wood oven roasted lamb shoulder จานนี้จะต่างจากร้านอาหารอื่นๆคือทาง Scalini จะใช้เนื้อส่วนไหล่มาทำอาหาร ซึ่งเนื้อส่วนนี้จะหนึบๆ หน่อยและติดมัน ทางโรงแรมกริลล์มาได้หอมความสุกและความนิ่มกำลังดีกลิ่นแกะไม่แรงนัก
- Crusted Bone-in Baby Chicken เป็นไก่อบไซส์ครึ่งตัว กริลล์มาได้เนื้อนุ่มมากๆ หอมเครื่องปรุง อร่อยทีเดียว จานนี้มีเครื่องเคียงเป็นมันอบ ที่อบมาความสุกแบบกำลังหนึบๆ เลย
- Seabass, lemon butter sauce สเต็กปลากะพงชิ้นใหญ่ เคียงด้วยหอยมานิลา เสิร์ฟพร้อมเลมอนบัทเทอร์ซอสรสชาติดีแต่ไม่จัดนัก เหมาะกับสายสุขภาพ
Side Dishes
- Creamed Spinach with Garlic ผักโขมผัดกระเทียม อันนี้สั่งมาเป็นเครื่องเคียงทานกับสเต็กก็อร่อยดี
- Seasoned Steak Fries ก็ฟรายส์ปกติ รสมาตรฐาน ทอดมาร้อนๆ อร่อย แต่เราไม่เน้นเพราะหนักท้อง อิอิ
- Truffle Mashed Potato มันบดที่มีทีเด็ดตรงหอมกลิ่นทรัฟเฟิลด้วย จานนี้ถูกใจเราอาจเพราะปกติเราชอบทรัฟเฟิลด้วยล่ะ
Full Calories Dessert
- Scalini Tiramisu ทีรามิสุ จานนี้ปกติ ไม่ได้ปลื้มอะไร
- Chocolate Sambuca เป็นบราวนี่อุ่นๆ ตัวเนื้อเป็นช็อคโกแลตเข้มข้นเลย มีมูสช็อคโกแลตเล็กๆ ประดับจานมา เสิร์ฟพร้อมไอศครีม Sambuca ตักทั้ง 3 อย่างทานพร้อมๆ กันอร่อยดี แนะนำว่าจานนี้ควรชิม
- Ice cream selection วันที่ไปเราชิม ซ็อคโกแลต และซอร์เบต์(มะนาว) พบว่าไอศครีมไม่โดนเท่าไหร่รสทั่วไปมาก ส่วนวานิลลาที่ปกติก็ไม่ค่อยชอบอยู่แล้วนั้นรสแปลกไปหน่อย
Hungry Hub – Scalini Buffet @ Hilton Sukhumvit Bangkok
ดีลเด่น ดีลดี ดีลคุ้ม กิน 2 จานก็แพงเกินดีลแล้ว
- เวลาที่ห้องอาหารเปิด จันทร์ – อาทิตย์ มื้อเที่ยง 12:00 – 14:30น. มื้อค่ำ 18:00 – 23:00น. (Last order 22:30น.) สำหรับดีล Hungry Hub ทานได้ 2 ชม. โดยนับจากเวลาจองนะ
- ข้อกำหนดและเงื่อนไข อ่านได้ตามภาพเลย หลักๆ ก็จะคล้ายกับบุฟเฟต์ทั่วไป เช่น เด็กจ่ายเท่าไหร่ หรือถ้าทานไม่หมดจะมีการปรับอะไรพวกนี้
- ตอนที่สั่งรอบแรก อาหารที่สั่งจะค่อยๆ ทยอยมาเสิร์ฟ ทีละจาน ระยะห่างระหว่างจานไม่นานนัก เหมาะกับการค่อยๆ ทานไปเรื่อยๆ ซึ่งล็อตแรกเราสั่งเยอะอยู่จึงทำการเคลียร์ของให้หมดก่อน ในตอนหลังค่อยมีการสั่งเพิ่มทำให้มีการขาดตอนไปนิด(ไม่ได้นานไปแค่รู้สึกว่าขาดช่วง) น่าจะเพราะทำให้ออเดอร์โต๊ะอื่นอยู่ ดังนั้นถ้าไม่อยากให้ขาดช่วงอาจต้องบริหารเวลาในการสั่งนิดนึงเนื่องจากเรามีเวลาทาน 2 ชม. นั่นเอง
- จานเด็ดห้ามพลาด Flat iron steak & Foie gras / Tataki / Crying Tiger /
- Buffet ต้องจองล่วงหน้าผ่าน Hungry Hub เท่านั้น –> http://bit.ly/2BdU00g
หากคุณชอบรีวิวของเราเพียงแค่คอมเม้น แชร์ก็จะเป็นกำลังใจอย่างยิ่งหรือหากอยากติดตามประสบการณ์ดีๆไปกับพวกเราเพียงBookmark http://www.travelplanetx.com หรือติดตามได้ที่ Facebook Fan Page: Travel Planet Xperiences