Oct-2018
4 เส้นทางครบรส ครึ่งวันก็เปรี้ยวได้ เที่ยวลำปาง ไปได้ไม่มีเบื่อ
4 เส้นทางครบรส ครึ่งวันก็เปรี้ยวได้ เที่ยวลำปาง ไปได้ไม่มีเบื่อ
สายสปา สายบุญ สายประวัติศาสตร์ สายความรู้แสนสนุก
ลำปางเป็นเมืองที่หลายคนคุ้นชื่อ แต่ก็มักนึกไม่มีอะไรให้ไปเที่ยวบ้าง วันนี้เราจะมาแนะนำ 4 เส้นทางเที่ยวลำปาง ที่เที่ยวง่ายๆมีเวลาแค่ครึ่งวันก็พอแล้ว สามารถเลือก “เที่ยวลำปาง” ได้ตามใจชอบเลย
ด้วยความที่ลำปางมักเป็นเมืองทางผ่านของหลายๆคนที่เดินทาง ไม่ว่าจะไปเชียงใหม่ หรือเชียงราย เราจึงขอเสนอเส้นทางง่ายๆ ที่มีเวลาแค่ครึ่งวันก็สามารถมาเที่ยวได้แล้ว สามารถแวะเที่ยวได้ระหว่างการเดินทางไปยังจุดหมายหลัก มีอะไรบ้างไปดูกันเลยจ้า
1. เส้นทางสายสปา
พูดถึงบ่อน้ำร้อนในเมืองไทยคนมักจะนึกถึง ระนอง นึกถึงเชียงใหม่ แต่จริงๆแล้วที่ลำปางมี อุทยานแห่งชาติแห่งหนึ่งที่มีความสวยงามไม่แพ้ใคร แถมยังมีบ่อน้ำร้อนอย่างดีให้บริการพร้อมสามารถทำสปาได้ด้วยนะ ใช้แล้วที่ที่เราพูดถึงคือ อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน นั่นเอง
อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อนอยู่ห่างไปทางเหนือของ อ.ลำปางประมาณ 70 กิโลเมตร ซึ่งเส้นทางดังกล่าวสามารถเชื่อมต่อไปยังเชียงรายได้ไม่ยาก แต่จะเป็นถนนที่เล็กกกว่าเส้นหลักอย่างพหลโยธิน แต่ก็ใช้เวลาต่างกันไม่มาก ระหว่างทางก็จะมีวิวสวยๆให้ถ่ายรูปกันอย่างจุใจเลยละ
ไฮไลท์สำหรับสายถ่ายรูปคือช่วงเช้าที่พระอาทิตย์ขึ้น แสงสีส้มที่สาดลงมาที่บ่อน้ำแร่กับควันจากบ่อน้ำแร่นี่คือความสวยงามที่สุดอย่างหนึ่งที่ไม่มีที่ใดเหมือน
น่าเสียดายที่รอบล่าสุดที่ผมไปเจอฝนเลยไม่ได้ภาพแสงอาทิตย์สวยๆเหมือนที่เคยไปมาเมื่อ 9 ปีที่แล้ว แต่ในบรรยากาศฝนๆเราว่ามันก็ชุ่มชื้นสวยงามไปอีกแบบดีนะ
แต่สิ่งหนึ่งที่เพิ่มเติมมาจากรอบที่แล้วที่เราเคยมาคือ ตอนนี้ที่นี่มีการทำห้องแช่น้ำแร่ค่อนข้างจริงจังขึ้น ค่าแช่ก็ไม่แพงเลย แถมยังมีบริการให้เช่าผ้าขาวม้า ผ้าเช็ดตัวอีกด้วยนะ อ้อที่แช่น้ำร้อนเนี่ยจะมีทั้งส่วนกลางแจ้งและส่วนของห้องส่วนตัวเลยนะ แต่วันที่เราไปด้วยความที่ฝนตกในส่วนกลางแจ้งมันโดนน้ำฝนเข้าไปเยอะอุณหภูมิเลยไม่ได้ เราเลยไปแช่แบบห้องส่วนตัวแทน
และหลังจากการแช่น้ำร้อนเนี่ย ยังมีส่วนของบริการนวดไทยด้วยนะ ใครสนใจก็สามารถสอบถามจากเจ้าหน้าที่ได้เลย สำหรับที่นี่เวลาที่เหมากับการมาเที่ยวคือมาช่วงเช้าชมพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆ จากนั้นกินข้าวนั่งเล่นซักพักแล้วก็ไปแช่น้ำแร่ (ไม่ควรแช่น้ำแร่ทันทีหลังอิ่มนะ) ใครอยากจะฟินอยากจะสบายก็นวดไทยต่ออีกซัก 1 ชม. ก็จะหมดครึ่งวันเช้าพอดีจากนั้นก็เดินทางต่อได้เลย
ข้อมูลเพิ่มเติม
- เว็บไซต์อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน
- โทรศัพท์ 093-1375533, 089-8513355
- e-mail chaeson_np13@hotmail.com
- พิกัด GPS 18.836737, 99.470734
2. เส้นทางสายบุญ
สำหรับเส้นทางสายบุญ ต้องบอกว่าที่ลำปางจะมีความพิเศษอย่างหนึ่งคือ วัดส่วนหนึ่งได้รับอิทธิพลและถูกสร้างโดยชาวพม่า ซึ่งคำว่าวัดพม่านี้จะหมายถึงทั้งสถาปัตยกรรมภายนอก ที่สวยงามแปลกตารวมไปถึงพระประธานของวัดก็ล้วนเป็นสถาปัตบกรรมแบบพม่าด้วยเช่นกัน ซึ่งวัดเหล่านี้ล้วนแต่อยู่ในเมืองไม่ไกลจากกันมากสามารถเที่ยวได้โดยง่ายเลยหล่ะ น่าเสียดายช่วงที่เราไปมา (หน้าฝน 2561) เป็นช่วงที่หลายๆวัดอยู่ระหว่างการบูรณะ ซึ่งส่วนมากแล้วจะใช้เวลาอีก 3-6 เดือน แต่หลายแห่งเราก็เห็นเค้ารางเห็นความสวยงามที่เชื่อได้เลยว่าหลังจากซ่อมแซมบูรณะเสร็จแล้ววัดเหล่านี้จะต้องสวยงามมากๆอย่างแน่นอน มีที่ไหนบ้างไปดูกันเลยจ้า
วัดศรีรองเมือง — พิกัด 18.290710, 99.480743
จุดเด่นของวัดศรีรองเมืองคือ วัดนี้มีพระวิหารไม้สักทองที่ว่ากันว่าเหมือนวิมานของพระอินทร์และสวยงามที่สุดในจังหวัดลำปาง สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2447 โดยคหบดีชาวพม่าที่เข้ามาทำไม้ในเมืองลำปาง ของบริษัท บอมเมย์เบอร์ม่า ด้วยความที่หากินจากการโค่นต้นไม้ จึงได้สร้างวัดศรีรองเมืองนี้ได้เพื่อเป็นที่พึ่งทางจิตใจ ขอขมาต่อธรรมชาติ อีกทั้งเพื่ออธิษฐานขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในป่าคุ้มครองนั่นเอง
วัดศรีชุม — พิกัด 18.284504, 99.499736
จุดเด่นของวัดศรีชุมคือ ตัววัดนั้นสร้างด้วยไม้จากป่าฝั่งพม่าทั้งสิ้น แตกต่างจากวัดศรีรองเมืองที่ใช้ไม้จากฝั่งประเทศไทย วัดศรีชุมนั้นนอกจากจะมีความสวยงามแล้วที่นี่ยังมีมีพระบรมธาตุซึ่งเป็นพระบรมธาตุสีทองศิลปะแบบพม่าและมอญด้วย โดยที่ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อันเชิญจากพม่าจึงทำให้วัดแห่งนี้เป็นที่ เคารพสักการะ ของชาวเมืองลำปางมาช้านาน
วัดปงสนุก — พิกัด 18.294441, 99.496656
วัดปงสนุก สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยเจ้าอนันตยศ ซึ่งเป็นราชบุตรของพระนางจามเทวีแห่งหริภุญไชย (จังหวัดลำพูนในปัจจุบัน) เมื่อครั้งเสด็จมาสร้างเขลางค์นคร หรือจังหวัดลำปางในปัจจุบัน เมื่อปี พ.ศ.1223 แต่เดิมวัดนี้มีอาณาบริเวณกว้างขวาง มีพระภิกษุและสามเณรเป็นจำนวนมาก จึงได้มีการแบ่งการปกครองออกเป็น 2 ส่วนคือ วัดปงสนุกเหนือ กับ วัดปงสนุกใต้ เพื่อให้ช่วยกันดูแลได้อย่างทั่วถึง ซึ่งพื้นที่ภายในวัดได้มีการถมดินไว้ระหว่างพื้นที่ของวัดทั้งสองเรียกว่า “ ม่อนดอย ” เปรียบได้กับการจำลองเขาพระสุเมรุขึ้นมา โดยที่พื้นที่ด้านบนนี้จะมี พระเจดีย์ศรีจอมไคล วิหารพระนอน และวิหารพระเจ้าพันองค์ ลักษณะเป็นทรงโถงจตุรมุข อันเป็นเอกลักษณ์แห่งเดียวในประเทศไทยตั้งอยู่ข้าง บนนั้น ซึ่งวิหาร พระเจ้าพันองค์ หลังนี้เองที่ได้รับรางวัลการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมดีเด่นจากยูเนสโก้เมื่อปี 2008 ที่ผ่านมา ( Award of Merit Wat Pongsanuk; Asia-Pacific Heritage Awards for Culture Herritage Conservation from UNESCO Year 2008 )
วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม — พิกัด 18.301413, 99.509155
ความสำคัญของวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดารามคือ วัดนี้เคยเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกตนานถึง 32 ปีโดยเหตุเกิดครั้งสมัยปี พ.ศ. 1979 ที่จะมีการอัญเชิญพระแก้วมรกตจากเมืองเชียงรายสู่เชียงใหม่เมื่อถึงแยกที่จะเข้าเมืองลำปาง ช้างทรงพระแก้วมรกตเกิดแตกตื่นวิ่งไปทางเมืองลำปาง จนในที่สุดพระเจ้าสามฝั่งแกนจึงต้องยอมให้อัญเชิญพระแก้วมรกตประดิษฐาน ณ วัดพรแก้วดอนเต้าในที่สุด วัดนี้จึงเป็นที่นิยมในการมาทำบุญนั่นเอง
วัดพระเจดีย์ซาวหลังพระอารามหลวง — พิกัด 18.322328, 99.514985
คำว่าเจดีย์ซาวหลังนั้น ก็มาจากภาษเหนือที่ ซาว แปลว่า ยี่สิบ และ หลัง หมายถึง องค์ นั้นคือที่วัดแห่งนี้มีเจดีย์มากถึง 20 องค์ ตั้งอยู่ภายในตัววัด เจดีย์แต่ละองค์เป็นลักษณะสถาปัตยกรรมแบบเจดีย์พม่าขนาดเล็ก มีสีทองเป็นประกาย ตั้งอยู่บนฐานเหลี่ยม ยอดเจดีย์ตกแต่งประดับด้วยฉัตรอย่างสวยงาม มีความเชื่อกันว่าภายใน แต่ละเจดีย์มี พระเกศาธาตุบรรจุอยู่
นอกจาก 5 วัดพม่าที่อยู่ในตัวเมืองแล้วที่ลำปางยังมีวัดอีก 2 แห่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนเขลางค์นคร จังหวัดลำปางนั้นคือ วัดพระธาตุลำปางหลวง และวัดพระธาตุสันดอน
วัดพระธาตุลำปางหลวง — พิกัด 18.217471, 99.388944
วัดพระธาตุลำปางหลวงเป็นที่รู้จักกันดีสำหรับนักท่องเที่ยว ที่นี่เป็นวัดที่เก่าแก่ มีประวัติความเป็นมายาวนาน มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่แสดงความเป็นล้านนาอย่างเด่นชัดที่สุดวัดหนึ่ง องค์พระธาตุ (เจดีย์) นั้นยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนที่เกิดปีฉลูด้วย
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือที่นี่ยังมีเงาพระธาตุในซุ้มพระบาท เป็นหนึ่งใน Unseen Thailand ให้ได้ชมกันอีกด้วย
นอกจากนั้นบริเวณหน้าวัดนั้นยังมีรถม้าให้บริการทั้งถ่ายรูปและนั่งรถม้าอีกด้วย เรียกว่ามาที่เดียวเก็บสัญลักษณ์ของเมืองลำปางได้ครบๆเลย
วัดพระธาตุสันดอน — พิกัด 18.131282, 99.617801
จุดเด่นของที่นี่หาใช่ตัววัด หากแต่เป็น “ขัวแตะ” หรือสะพานไม้ที่ชาวบ้าน ร่วมกันคิดและลงมือทำโดยไม่ได้ใช้งบประมาณของรัฐเลยแม้แต่บาทเดียว โดยสะพานไม้แห่งนี้ทอดยาวกว่า 360 เมตรผ่านทุ่งนาและแม่น้ำเพื่อให้สามารถเชื่อมต่อกับถนนสาย 11 ได้โดยตรง ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้ทั้งพระและชาวบ้านในละแวกนั้นให้สามารถไปมาหาสู่กันได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
3. เส้นทางสายประวัติศาสตร์
เมืองลำปางนั้นเป็นหนึ่งในเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เพราะในสมัยก่อนนั้นก็เป็นหัวเมืองทางเหนือที่มีประชาชนมาตั้งรกรากอยู่มากมาย รวมไปถึงเป็นเมืองที่มีทรัพยากรธรรมชาติทางป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้ในอดีตมีคนจำนวนมาเข้ามาทำอุตสาหกรรมป่าไม้ (คล้ายๆกับจังหวัดภูเก็ตที่มีคนไปทำเหมืองดีบุกนั่นแหละ) ซึ่งปัจจุบันเราก็ยังสามารถพบอดีตและประวัติศาสตร์ได้มากมายทั่วเมืองลำปางเลยทีเดียว
ขี่รถม้าเที่ยวชมเมืองลำปาง
เอกลักษณ์อย่างแรกของเมืองลำปางคือในสมันก่อนนั้นมีการนำม้ามาใช้เป็นพาหนะในการเดินทาง ซึ่งรถม้าก็เป็นหนึ่งในนั้น ปัจจุบันแม้ไม่ได้มีการใช้รถม้าเพื่อการสัญจรแล้ว แต่เรายังคงพบเจอรถม้าที่คอยรับนักท่องเที่ยวให้มานั่งรถม้าชมเมืองได้อยู่ ซึ่งรถม้ากับการจราจรบนท้องถนนที่เมืองลำปางนั้นก็สามารถเข้ากันได้เป้นอย่างดี สนนค่าบริการอยู่ที่ ชั่วโมงละ 300 บาทโดยรถม้า 1 คันสามารถนั่งได้ 2 คน
บ้านเสานัก
ตอนได้ยินชื่อครั้งแรกก็แอบงงๆว่าคืออะไร ไปอ่านประวัติมาสรุปคือ บ้านที่มีเสาอยู่มากมาย(นัก) นั่นเอง มากขนาดไหนก็มากขนาดที่มีเสารบ้านมากถึง 116 ต้นซึ่งแต่ละต้นล้วนเป็นเสาไม้สักทั้งสิ้น ความโดดเด่นของบ้านหลังนี้อยู่ที่การผสมผสานสถาปปัตยกรรมล้านนาและพม่าเข้าด้วยกัน โดยระเบียงบ้านได้รับอิทธิพลสถาปัตยกรรมแบบพม่า ส่วนหลังคาและโครงสร้างโดยทั่วไปเป็นแบบล้านนา แต่เดิมบ้านเสานักเป็นสถานที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองและใช้เป็น สถานที่จัดขันโตกและงานพิธีมงคลต่างๆ
บ้านหลุยส์
บ้านหลุยส์เป็นบ้านของลูกชายแหม่มแอนนา เลียวโนเวนส์ ครูสอนภาษาอังกฤษในราชสำนักสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บ้านหลุยส์นี้เป็นบ้านโบราณจากยุคลำปางรุ่งเรืองเพราะมีการทำสัมปทานป่าไม้ เคยถูกทิ้งรกร้างไว้ แต่ปัจจุบันได้มีการเข้ามาบูรณะซ่อมแซมและมีการจัดนิทรรศการรวมไปถึงมีการจัดงาน ท่ามะโอ เรโทร แฟร์ ทุกวันเสาร์ที่ 3 ของเดือนอีกด้วย
หอประวัติศาสตร์นครลำปาง
หอประวัติศาสตร์นครลำปางเดิมเคยเป็นจวนผู้ว่ามาก่อน หลังจากที่จวนผู้ว่าเดิมเก่าแก่จึงได้มีการสร้างจวนผู้ว่าขึ้นมาใหม่และมีการปรับจวนผู้ว่าหลังเดิมให้เป็นหอประวัติศาสตร์นครลำปาง ซึ่งที่นี่ถือเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ ทางประวัติศาสตร์อีกแห่งหนึ่ง ของจังหวัดลำปาง ผู้ที่จะได้มาเยี่ยมชมและรับทราบถึง ประวัติความเป็นมา ของนครลำปาง ตั้งแต่ยุค พ.ศ.1223 นับจนถึงปัจจุบัน ซึ่งผ่านกาลเวลามานานถึง 1,335 ปี
สถานีรถไฟจังหวัดลำปาง
ตัวอาคารมีรูปแบบการก่อสร้างผสมผสานกันระหว่างสถาปัตยกรรมไทยภาคเหนือกับสถาปัตยกรรมยุโรป ที่นี่ได้รับการดูแลและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอตลอดมา ทำให้ยังคงรูปแบบและเอกลักษณ์เดิมอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ในอดีตเป็นศูนย์กลางของรถไฟที่จะต่อไปที่นครเวียงพิงค์ (จังหวัดเชียงใหม่) ในอนาคตที่นี่จะเป็นชุมทางที่สามารถนั่งรถไฟต่อไปยังเชียงรายได้ด้วยเช่นกัน
พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี
พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี พูดชื่อมาลอยๆอาจจะงงว่าที่นี่คืออะไร แต่หากบอกว่าที่นี่คือจุดกำเนิดของชามตราไก่ ทุกคนจะร้องอ๋อขึ้นมาทันที ที่ลำปางนั้นนอกจากเรื่องของงานป่าไม้ในอดีตแล้ว ทรัพยากรธรรมชาติอีกอย่าง ที่มีมากที่นี่คือ แร่ดินขาว ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการทำเซรามิคนั่นเอง
พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดีเป็นอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่ดีมากๆ สามารถเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์และที่มาของชามตราไก่ได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญไกด์ที่นี่คล่องมาก และเล่าเรื่องสนุกมากทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ (ตอนที่เราไปมีชาวญี่ปุ่นมาร่วมชมด้วย) นอกจากประวัติศาสตร์ต่างๆแล้วที่นี่ยังมีการสาธิตวิธีการทำชามและเซรามิคในรูปแบบต่างๆ รวมถึงมีการโชว์ชามตราไก่แบบ Limited Edition ทั้งชามตราไก่ที่เล็กที่สุด ชามตราไก่ที่บางที่สุด และชามตราไก่ที่แพงที่สุดที่ประดับด้วยทองคำ
4. เส้นทางสายความรู้แสนสนุก
ที่จังหวัดลำปางมีสถานที่แห่งหนึ่งที่เหมาะสำหรับครอบครัวมากๆคือที่ โรงไฟฟ้า/เหมืองถ่ายหินลิกไนต์ ซึ่งจัดเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีครบ ถึงจุดชมวิวหมอกยามเช้า และจุดชมวิวทุ่งบัวตองที่พร้อมจะบานสะพรั่งในช่วงต้นเดือน พ.ย.
นอกจากนี้ที่นี้ยังมี พิพิธภัณฑ์ศูนย์ถ่านหินลิกไนต์ศึกษา ให้เด็กๆเข้ามาเดินเล่นได้ด้วยนะ ซึ่งที่นี่เป็นอีกหนึ่งพิพธภัณฑ์ที่ดีมากๆทั้งในแง่ของความรู้ และในแง่ของการนำเสนอที่มีการนำเทคโนโลยีต่างๆมาให้เด็กๆได้สนุกไปอย่างไม่รู้เบื่อเลย
เราได้รีวิวไว้แล้วสามารถเข้าไปอ่านรีวิวได้เลยนะ เที่ยวสบายในวันชิวๆ เที่ยวแม่เมาะแม่เมาะ จ.ลำปาง
ทั้งหมดนี้คือ 4 เส้นทางครบรส เที่ยวง่ายๆ สำหรับจังหวัดลำปางที่มีเวลาเพียงครึ่งวันก็สามารถ เที่ยวลำปาง ได้แล้ว ซึ่งก็เหมาะสำหรับคนที่ใช้ลำปางเป็นเมืองทางผ่าน เพราะส่วนมากในการเดินทางเราก็มีเวลาเหลือๆอยู่แล้ว การแวะเที่ยวซักครึ่งวันก็นับเป็นการเปลี่ยนอิริยาบทที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว
สำหรับใครที่อยากจะเที่ยวลำปางแบบจัดเต็มก็สามารถเอาโปรแกรมทั้ง 4 เส้นทางนี้มารวมกันก็ได้ โดยใช้เวลา 2 วันหนึ่งคืน หรือ 3 วัน 2 คืนก็สามารถเที่ยวได้อย่างสบายๆแล้ว ซึ่งปัจจุบันเราสามารถใช้บริการ นกแอร์ ในการเดินทางไปยังจังหวัดลำปางได้ไม่ยากแถมนกแอร์ยังมีบริการมากถึง 4 เที่ยวบินต่อวัน ทำให้สามารถเลือกไฟลท์บินมาตอนเช้าและบินกลับตอนเย็นได้อย่างสบายเลย
นอกจากนั้นในปัจจุบันหากใครบินด้วยนกแอร์แบบ Nok X-tra และ Nok MAX นั้นยังสามารถสะสมไมล์เข้า ROP ของการบินไทยได้ด้วยนะ ง่ายๆเพียงสมัครเป็นสมาชิก Nok Fan club ใส่ข้อมูล ROP ลงใน Profile ให้เรียบร้อยแล้วทุกครั้งที่เดินทางด้วย Nok Air ก็จะสามารถสะสมไมล์เข้า ROP ของการบินไทยได้แล้วจ้า
หากคุณชอบรีวิวของเราเพียงแค่คอมเม้น แชร์ก็จะเป็นกำลังใจอย่างยิ่งหรือหากอยากติดตามประสบการณ์ดีๆไปกับพวกเราเพียงBookmark http://www.travelplanetx.com หรือติดตามได้ที่ Facebook Fan Page: Travel Planet Xperiences