Review Business Class Asiana Airlines

กรุงเทพ – โซล เครื่อง A380-800 สายการบิน

มาดูกันว่า Business Class Asiana Airlines เส้นทางการบิน กรุงเทพ-โซล ของสายการบิน Asiana Airline นั้นเมื่อจัดเป็น Business Class ด้วยเครื่อง A380 จะสะดวกสบายขนาดไหน

รีวิว Business Class สายการบิน Asiana Airlines BKK-ICN

สำหรับเส้นทางการบินกรุงเทพฯ-โซล นั้นที่ผ่านมาสายการบิน Asiana Airline จะใช้เครื่อง  A330 ในการบินเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งตอนที่เราจองครั้งแรกก็ถูก Assign เครื่องมาเป็น A330 นี่แหละแต่ก่อนบินจริงเราได้รับแจ้งว่าทางสายการบินได้เปลี่ยนเครื่องเป็น A380 ซึ่งเท่าที่เราลองค้นๆดูก็เหมือนปัจจุบันสายการบินเอเชียน่าจะใช้เครื่อง A380 มาบินเส้นนี้แล้วนะ

ซึ่งจริงๆก็ดีเพราะว่า เครื่อง A380 ใหญ่กว่าที่นั่งโดยเฉพาะ Business Class ก็จะเป็นแบบ Flatbed ทำให้นอนได้สบายซึ่งต่างจากเครื่อง A330 ที่ที่นั่งของ Business Class จะเป็นแบบ Recliner Seat เท่านั้น

 

เริ่มจากรายละเอียดไฟลท์ที่เราเดินทางกันก่อนเลย

  • Flight : OZ742
  • Date : 30 Mar 2018
  • Seat 8K

เอาละเราไป Checkin  พร้อมกันเลย สายการบินเอเชียน่าจะเช็คอินที่เค้าท์เตอร์ K แน่นอนว่ามีแถวเช็คอินสำหรับ Business Class แยกต่างหากให้เดินชิวๆเข้าไปได้เลย

แถวเช็คอินสายการบินเอเชียน่าแอร์ไลน์ สนามบินสุวรรณภูมิ

สำหรับกระเป๋านั้นสามารถโหลดได้ 2 ใบใบละ 32 Kg. และสามารถเอาขึ้นเครื่องได้ 2 ใบ

ตอนเช็คอินจะมีเจ้าหน้าที่มาสอบถามเรื่องที่นั่งซึ่งเราสามารถเปลี่ยนและเลือกได้ตามใจชอบเลย สำหรับเครื่อง A380-800 ที่ใช้ในการบินครั้งนี้จะประกอบไปด้วย

  • ที่นั่งแบบ First Class 12 ที่
  • ที่นั่งแบบ Business Class  66 ที่
  • ที่นั่งแบบ Economy 417 ที่

ผังที่นั่งเครื่องบิน A380-800 สายการบินเอเชียน่าแอร์ไลน์

 

สำหรับที่นั่งแบบ  Business Class นั้นจะจัดที่นั่งแบบ 1-2-1 แบบเฉียงๆ ทำให้ทุกที่จะเป็นที่นั่งติดทางเดินทั้งหมด ที่นั่งคู่กลางจะมีทั้งแบบที่นั่งคู่และที่นั่งแยก ส่วนที่นั่งริมหน้าต่างที่เรานั่งรอบนี้เป็นที่ 8K ซึ่งจะเห็นได้ว่าจะติดหน้าต่างจริงๆโดยมีโต๊ะอยู่ริมทางเดินทำให้มีที่กั้นเพิ่มมานิดหนึ่งซึ่งจะไม่ถูกรบกวนคนที่เดินไปเดินมา หลังจากเช็คอินเสร็จเราจะได้บัตร Premium Lane  สามารถเข้า ตม.ช่องพิเศษได้เลยไม่ต้องไปต่อแถวรอนานเหมือนปกติ

บัตร Premium Lane


EVA Lounge

สายการบินเอเชียน่าเป็นสายการบินในกลุ่มสตาร์ฯ จึงมีการใช้ Lounge ร่วมกับสายการบินในกลุ่ม ซึ่งเอเชียน่าเลือกที่จะไปร่วมกับ Lounge ของสายการบิน EVA แทนที่จะเป็นการบินไทยซึ่งก็ดีเลย เพราะว่า Lounge ที่นี่คนไม่มากเท่าไหร่ ต่างจากของการบินไทยที่คนค่อนข้างมาก

EVA Lounge สนามบินสุวรรณภูมิ

บรรยากาศภายในตกแต่งออกแนวอวกาศนิดๆ ก็ดูเก๋ดีนะ

EVA Lounge สนามบินสุวรรณภูมิ

ที่นี่นอกจากจะมีห้องอาบน้ำให้ใช้แล้วยังมีห้องนอนให้สามารถไปนอนงีบได้ด้วยนะ คือดี..

EVA Lounge สนามบินสุวรรณภูมิ

ด้านอาหารการบินถือว่ามีเยอะเลยนะ ทั้งของร้อน ของเย็น เครื่องดื่มและไอศครีม เรียว่าจัดเต็มเลยละ

EVA Lounge สนามบินสุวรรณภูมิ EVA Lounge สนามบินสุวรรณภูมิ

แน่นอนว่ามาใช้บริการทั้งทีก็ขอจัดมากินพอเป็นพิธีนะ โดยรวมรสชาติใช้ได้ครับ เราชอบตัวแกงจืดฟักยัดไส้ที่สุดทานแล้วสดชื่นดี

EVA Lounge สนามบินสุวรรณภูมิ

นั่งเล่นนั่งกินนั่งทำงานซักพักก็ได้เวลาไปขึ้นเครื่องละ


ด้วยความที่เครื่องที่เรานั่งเป็นเครื่อง A380 ซึ่งเป็นเครื่องใหญ่ทำให้วันที่เราเดินทางนั้น ไม่มีงวงช้างสำหรับเครื่อง  A380 ว่างทำให้ต้องนั่ง Bus Gate ไปซึ่งนรกบังเกิดเพราะว่า ที่นั่ง Business อยู่ชั้น 2 ของเครื่องบินทำให้พอไปถึงเครื่องเราต้องแบกกระเป๋าขึ้นบนได้หลายขั้นเลยทีเดียว T___T

A380

ที่ด้านหน้าเครื่องตรงชั้น 2 จะมีพื้นที่ให้พอเดินเล่นยืดเส้นยืดสายได้เล็กน้อย รวมถึงมีห้องน้ำตรงนี้ 2 ห้อง ไว้เด่วจะพามาดูอีกทีนะ

สำหรับที่นั่งอย่างที่บอกครับ จะเป็นที่นั่งแบบ  1-2-1 ซึ่งเราเดินทางคนเดียวเลยเลือกที่นั่งริมหน้าต่าง ใครเดินทางเป็นคู่อยากนั่งด้วยกันต้องเลือกที่นั่งตรงกลางนะ

Business Class A380 Asiana Airlines

Business Class A380 Asiana Airlines

ภาพที่เห็นข้างบนจะเป็นเก้าอี้แถว 7 จะเห็นว่าตัวที่นั่งจะอยู่ติดทางเดิน ดังนั้นอาจจะถูกรบกวนบ้างเวลามีคนเดินผ่าน แต่ตอนไปเรานั่งแถว  8K ดังนั้นที่นั่งจะอยู่ด้านในแล้วที่วางของจะสลับมาอยู่ด้านนอกทำให้เพิ่มความเป็นส่วนตัวได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียวละ

ลักษณะที่นั่งจะมีช่องให้เราสามารถวางขาได้ซึ่งเมื่อเราเอนที่นั่งเต็มที่ที่นั่งจะต่อกับช่องนี้พอดีทำให้เราสามารถนอนได้ราบจริงๆ แต่สำหรับคนตัวสูง 180 อย่างเรารู้สึกว่ามันแคบไปซักนิด คือจากหัวถึงปลายเท้าค่อนข้างพอดีๆตัวไปซักนิด แต่เพื่อนผมที่นั่งไปด้วยกันเป็นผู้หญิงตัวย่อมๆ ก็นั่งสบายเลย ฮา..

Business Class A380 Asiana Airlines

ขนาดที่นั่งความกว้างของ Business Class อยู่ที่ 21.3″ เทียบกับขนาดที่นั่งแบบ Economy Class ที่อยู่ที่ 18.9″ และขนาด First Class ที่อยู่ที่ 25.2 ” ก็ถือว่านั่งสบายๆละ โดยที่นั่งชั้นธุรกิจนี้จะมี Seat Belt แบบคาดไหล่เหมือนในรถยนต์ด้วย ซึ่งตอนเครื่องขึ้นและลงจะต้องคาดสายนี้ แต่ในเวลาอื่นๆคาดแค่ตรงเอวก็พอครับ

ที่นั่งชั้นธุรกินสายการบินเอเชียน่า

ที่นั่งนี้ใต้ที่วางแขนจะมีที่เก็บมือถืออยู่ข้างๆตัว หรือใครพกกล้อง Compact ไว้ถ่ายรูปเล่นก็สามารถเอามาใส่ตรงนี้ได้อย่างสบาย นอกจากนั้นแล้วความพิเศษสำหรับเครื่อง A380 ที่นั่งริมหน้าต่าง (แถว A และ K) คือบริเวณใต้หน้าต่างจะมีช่องที่ใหญ่พอสมควรสามารถเก็บของได้อีกด้วยนะ ผมเอากล้องและเลนส์มาใส่เอาไว้หยิบมาถ่ายรูปได้สบายๆเลยละ

ช่องเก็บของที่นั่งชั้นธุรกิจสายการบินเอเชียน่า

นอกจากนี้บริเวณที่นั่งจะมีที่เสียบ USB และปลั๊กไฟและ International ที่รองรับปลั๊กได้ทุกรูปแบบที่นั่งละ 1 จุดด้วยนะ ใครอยากจะชาร์จอะไร อยากจะทำงานอะไรก็สบายเลย แต่แนะนำว่าให้เตรียมสายพ่วงมาเสียบกับปลั๊กไฟจะดีสุด เพราะขากลับที่เรานั่งจากโซลกลับมา กทม.นั้นช่อง USB ของเรามันเสีย

ที่นั่งชั้นธุรกิจสายการบินเอเชียน่า

ในส่วนของจอทีวี ก็ใหญ่โตพอสมควร ระบบสัมผัสทั้งในส่วนของตัวจอและที่ควบคุม Joystick ก็สามารถคบคุมได้ราบรื่นและไหลลื่น ต่างจากทีวีในส่วนของที่นั่งแบบ Economy พอสมควรเลยทีเดียว

ชุดทีวี ที่นั่งชั้นธุรกิจสายการบินเอเชียน่า

ในส่วนของหูฟังถือว่านุ่มสบายหูแล้วก็ตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ดีเลย คือตอนแอร์มาคุยด้วยถ้าไม่ถอดออกนี่คือไม่ได้ยินอ่ะ ฮา….. โดยเซตหูฟังนี้จะถูกเอามาเตรียมไว้ให้ตั้งแต่เราขึ้นเครื่องมาเลย โดยจะอยู่คู่กับ Amenity ต่างๆ ซึ่งนี่เป็นข้อเสียของของสายการบินเอเชียน่าแอร์ไลน์คือ การบินระยะกลาง (Mid-Hual) จะไม่มีการแจกกระเป๋า Amenity Kit ให้แต่อย่างใด จะมีเพียง หูฟัง ที่อุดหู ที่ปิดตา และรองเท้าแตะ วางเอาไว้ให้เท่านั้น ต้องเป็นการบินระยะไกล (Long-Hual) เท่านั้นจึงจะมี Amenity Kit ของ L’Occitane ให้

ที่นั่งชั้นธุรกิจสายการบินเอเชียน่า

ทั้งนี้ Amenity ต่างๆจะไปอยู่ในห้องน้ำแทน ซึ่งก็จะเป็นห้องน้ำ 2 ห้องที่อยู่ที่หัวเครื่องที่เป็นสัดส่วนเฉพาะที่นั่งของ Business Class เท่านั้น และจะมีห้องน้ำที่อยู่ตอนกลางของเครื่องที่จะต้องใช้ร่วมกับที่นั่งชั้นประหยัด ดังนั้นถ้าใครนั่ง 5 แถวแรกคือ 7-11 ก็จะสบายหน่อยไม่ต้องไปแย่งห้องน้ำกับใคร โดยห้องน้ำ 2 ห้องที่ว่านี้จะมีห้องหนึ่งที่เป็นห้องใหญ่โตเป็นพิเศษ แต่อีกห้องก็จะไซส์ปกติเหมือนห้องน้ำในส่วนของชั้นประหยัด โดย Amenity ที่สายการบินใช้คือของ L’Occitane จาก Provence ฝรั่งเศสนั่นล่ะ โดยจะมี น้ำหอม Hand Lotion  Toner หวี ชุดแปรงสีฟัน และน้ำยาบ้วนปากให้

 ห้องน้ำชั้นธุรกิจสายการบินเอเชียน่า ห้องน้ำชั้นธุรกิจสายการบินเอเชียน่า

 

เมื่อ Boarding หลังจากเราขึ้นมานั่งเป็นที่เรียบร้อยแล้วแอร์ที่ดูแลเราจะมาเสิร์ฟ Welcome Drink ให้ก่อนอยากจะทานอะไรสามารถขอได้หมดไม่ว่าจะเป็นไวน์ แชมเปญจน์ หรือน้ำผลไม้สด

Welcome Drink ชั้นธุรกิจสายการบินเอเชียน่า

 

หลังจากนั้นแอร์ที่ดูแลเราเข้ามาแนะนำตัวเอง มีการแจกพวกใบตม.ให้เราเลย รวมถึงมีการแจกเมนูและมีการสอบถามเรื่องอาหารการกินว่าต้องการกินอาหารสไตล์ไหน ซึ่งหลักๆจะมี Korean Style และ Western Style รวมถึงมี Wine List ให้เราสามารถเลือกได้ตามสไตล์ที่เราชอบได้ด้วยนะ

เมนูอาหาร ชั้นธุรกิจสายการบินเอเชียน่า

ไฟลท์ที่เราบิน กทม.-โซล  เป็นไฟลท์ที่บินรอบดึกจึงมีการเสิร์ฟอาหารมื้อเดียวคือ Breakfast ซึ่งเราสามารถเลือกเวลาในการเสิร์ฟได้ รวมถึงถ้าเราหลับอยู่สามารถแจ้งแอร์ได้ว่าจะให้ปลุกเวลาไหน เช่นก่อนเครื่องลง XX นาทีอะไรแบบนั้น แต่ถ้าเราไม่ได้แจ้งไว้ เมื่อถึงเวลาที่เสิร์ฟอาหารแล้สเราหลับอยู่แอร์จะเอากระดาษโน้ตมาแปะบอกว่า อาหารพร้อมแล้วนะ อยากให้เราเสิร์ฟเมื่อไหร่ให้เรียกได้ทันที

ซึ่งเราเลือกเป็นข้าวต้มปลา สไตล์เกาหลี ตอนเสิร์ฟแอร์จะเอาผ้ามาปูโต๊ะให้เราและเสืร์ฟอาหารเป็นคอร์สโดยเริ่มจาก ผลไม้สดและขนมปังก่อน เมื่อเราทานเสร็จก็จะมาเก็บจานแล้วจึงตามด้วยเมนคอร์ส รสชาติโดยรวมถือว่าอร่อยเลยล่ะครับ ผลไม้ก็สดหวานมากๆ คือรู้สึกได้ว่ามีการคัดเลือกวัตถุดิบมาเป็นอย่างดี

อาหาร ชั้นธุรกิจสายการบินเอเชียน่า

อาหาร ชั้นธุรกิจสายการบินเอเชียน่า

ทั้งนี้ช่วงเวลาอื่นๆนอกจากนี้ก็สามารถ  Request อาหารทานได้ตลอดนะซึ่งจะมี แซนวิช ผลไม้ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือพวก มันฝรั่งให้ทาน ซึ่งส่วนตัวเราไม่ได้สั่งหรอกเพราะอย่างที่บอกเราบินไฟลท์ดึก ออกจากไทยตอน 1:30 ขึ้นเครื่องปุ๊บก็นอนยาวๆเลยดีกว่า ไฟลท์นี้ใช้เวลาเดินทาง 5:45 ชม. ก็ถือว่าโอเคได้นอนพักสบายๆเลยล่ะ ถือว่าคุ้มค่าอยู่นะ ก่อนเครื่องลงแอร์ที่ดูแลเราจะมาพูดคุยและขอบคุณที่มาใช้บริการ จากนั้นเครื่องลงก็เป็นอันจบทริปจ้า..


บทสรุป Business Class Asiana Airlines กรุงเทพ – โซล

สำหรับที่นั่ง Business Class สายการบินเอเชียน่าแอร์ไลน์เส้นทางการบิน กรุงเทพฯ-โซล ที่ใช้เครื่องบิน A380-800 บินนั้นถือเป็นอีกมิติหนึ่งของการบินที่สะดวกสบายและราคาไม่แพงมากนัก

  • Business Class Asiana Airlines เส้นทางการบิน กรุงเทพ-โซล ที่นั่งเป็นแบบ Business Smartium Class ซึ่งเป็นที่นั่ง Business แบบใหม่ของ Asiana Airlines
  • จัดที่นั่งแบบ 1-2-1 ให้ความเป็นส่วนตัวสูง และเป็นที่นั่งติดทางเดินทุกที่ รวมถึงมีที่นั่งคู่สำหรับคู่รักนักเดินทางด้วยนะ
  • ที่นั่งริมหน้าต่างจะมีที่เก็บของเพิ่มเติม (มีเฉพาะเครื่อง A380-800)
  • เครื่องมีเสียงดัง ซึ่งจริงๆตอนแรกเราไม่รู้สึกนะ แต่พอไปนั่งเครื่อง A350 มาแล้วมานั่ง A380 แล้วรู้สึกเลยว่า A380 เครื่องเสียงดังกว่า แต่ไม่ใช่ปัญหาเพราะพอเรานอนถึงอย่างก็เงียบสงบ ฮา….
  • อาหารอร่อย ใช้วัตถุดิบที่ดี พิถีพิถัน แต่รู้สึกว่าเสิร์ฟน้อยไปหน่อย ไม่อิ่ม แต่ก็อาจจะเพราะมันเป็นมื้อเช้า ซึ่งปกติเรากินมื่อเช้าหนักมาก ฮา….
  • การบริการโดยทั่วไปดี แต่ไม่ค่อยมีการเดินเสิร์ฟน้ำอะไรต้องกดเรียกหรือเดินไปขอเอง แต่มองในแง่ดีคือก็ไม่รบกวนคนที่จะพัผ่อนดีนะ
  • สามารถสั่งอาหารว่างทานได้ตลอดเวลา
  • ไม่มี Amenity Kit ให้
  • โหลดกระเป๋าได้ 2 ใบ (32+32)
  • เอาประเป๋าขึ้นเครื่องได้ 2 ใบ (7+7)
  • Call Center ในไทยโทรติดยากมาก

รีวิว Business Class สายการบิน Asiana Airlines BKK-ICN

 

ราคาค่าตั๋ว

ราคาอยู่ประมาณ 29,000  บาท ซึ่งถือว่าไม่แพงมากนะ ประมาณ 2 เท่าของราคาตั๋วชั้นประหยัด ซึ่งโดยทั่งไปที่นั่งชั้นธุรกิจมักจะขายที่ 3 เท่าของราคาชั้นประหยัด ราคาที่ออกมานี้ถือว่าไม่แพงมาก ยิ่งเมื่อเทียบกับที่นั่ง Business Class ของสายการบินโลว์คอสที่ผมเคยนั่งราคาอยู่ที่ราว 22,000 ส่วนต่าง 7,000 บาทตรงนี้กับบริการที่ดีกว่าผมว่าก็คุ้มอยู่นะ

อ้อส่วนหนึ่งที่ราคาถูกอาจจะเพราะว่าสายการบินเอเชยน่าแอร์ไลน์เองก็มีการออก Class ย่อยของที่นั่งชั้นธุรกิจออกมาอีกพอสมควร ซึ่งราคาที่ว่านี้หากมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดการเดินทาง หรือมีการขอ Refund ก็จะมีค่าธรรมเนียมนะ

แต่จริงๆแล้วเราแนะนำให้จองผ่าน www.expedia.co.th มากกว่า เพราะ ราคาถูกกว่า และบริการหลังการขายดี โทรติดง่ายกว่าโทรเข้า Asiana โดยตรง สำหรับวันนี้ก็ขอลาไปแต่เพียงเท่านี้ ไว้เจอกันใหม่รีวิวหน้าครับ

 


หากคุณชอบรีวิวของเราเพียงแค่คอมเม้น แชร์ก็จะเป็นกำลังใจอย่างยิ่งหรือหากอยากติดตามประสบการณ์ดีๆไปกับพวกเราเพียง Bookmark http://www.travelplanetx.com หรือติดตามได้ที่ Facebook Fan Page: Travel Planet Xperiences

3

 likes / One comment
Share this post:

Archives

> <
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec