Holiday Inn Vana Nava Hua Hin เที่ยวสวนน้ำจัดเต็ม ไม่ต้องง้อทะเล ในราคาสุดคุ้มที่หัวหิน

พัก 5 ดาว วิวสุดว๊าว ฟรีสวนน้ำ ฮอลิเดย์อินน์ วานา นาวา หัวหิน

อะไรนะ…พัก 5 ดาว แถมเข้าสวนน้ำฟรี ไม่จำกัดจำนวนครั้งตลอดทุกวันที่เข้าพัก หัวละ 1,500 คุ้มไปป่ะ!! มีที่พักไม่กี่ที่หรอก ที่เราจะ …ว๊าว… กับราคาแบบนี้ ที่นี่โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ วานา นาวา หัวหิน (Holiday Inn Vana Nava Hua Hin)

อยากไปเที่ยวสวนน้ำ อยากไปหัวหิน อยากนอนโรงแรม 5 ดาวคุณคิดว่า 3 ความต้องการนี้จะต้องใช้เงินเท่าไหร่ ปกติคงต้องครึ่งหมื่นต่อคนแน่ๆ แต่ไม่ใช่กับที่นี่ โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ วานา นาวา หัวหิน

คิดดูสิ พักโรงแรม 5 ดาว เฉลี่ยหัวละ 1,500 … ได้เข้าสวนน้ำฟรี กี่รอบก็ได้ ตลอดเวลาเข้าพัก … แถมโรงแรมดันมีสระว่ายน้ำบนยอดตึกที่สวยที่สุดในหัวหินอีก …นี่ยังไม่พูดถึงคิดส์คลับสุดอลัง ที่เด็กไปแล้วจะติดหนึบอีกนะ … มาๆ จะเล่าให้ฟัง

หลายๆ คน คงรู้จักสวนน้ำ Vana Nava Hua Hin กันแล้ว ว่าเป็นสวนน้ำแสนสนุกสุดอลังของหัวหิน มีแม้กระทั่งทะเลเทียมอยู่ในนั้น เรียกว่ากิจกรรมทางทะเลรวมอยู่ที่นั่นหมด เล่นได้ทุกวัย ตั้งแต่เบบี๋ยัน ส.ว.

จะโต้คลื่นเหรอ … มี

จะเล่นน้ำเหรอ… มี

จะกรี๊ดเหรอ… มี เยอะเลย

จะนั่งชิลเหรอ…ได้

ปกติค่าเข้าสวนน้ำ Vana Nava Hua Hin แบบเต็มๆ ก็ตกคนละ 1,200 บาทละ ครั้งเดียวนะจ๊ะ ถ้าติดใจจะเบิ้ลอีกวัน ก็ซื้อตั๋วอีกรอบนะ แต่ที่นี่ Holiday Inn Vana Nava Hua Hin โรงแรม 5 ดาว ติดสวนน้ำ Vana Nava แบบเดินออกจากโรงแรมกระพริบตาไม่กี่ทีก็ถึงสวนน้ำเนี่ยราคาเปิดตัวช่วงนี้ …แร๊งส์… มากกก… แค่คืนละ 2,999++ บาท แต่ช้าก่อนถ้าเป็นสมาชิก IHG ที่สมัครฟรี จองตรงกับโรงแรมลดไปเลยอีก 10% หรือจะจองผ่าน ออนไลน์เอเยนซี่อย่าง expedia.co.th ที่มีโค้ดลด  10% อย่างดาษดื่น (เช็คโค้ดลดราคาได้ที่นี่ –> รวม PROMOTION CODE เว็บการจองโรงแรมและสายการบินต่างๆ สรุปแล้วราคาสุทธิอยู่ที่ 2,929 บาท พักได้ 2 คน จ่ายคนละไม่ถึง 1,500 เองไง

แล้วพักที่นี่มีอะไรบ้างพัก

• ได้พักโรงแรมหรูๆ สบ๊ายสบาย
• ได้ว่ายน้ำในสระว่ายน้ำที่สวยที่สุดในหัวหิน ยิ่งช่วง…?? ตะวันลับฟ้า เมื่อตอนเย็นๆ ??…นะ โอ๊ยยย โรแมนติคเว่อร์
• ได้กิน Breakfast กับวิวทะเล
• ได้เข้าสวนน้ำ Vana Nava Hua Hin ฟรี กี่รอบก็ได้ตามวันที่เข้าพัก ถ้าจะเอาคุ้มๆ หน่อย ก็จองพัก 1 คืน รีบมาแต่เช้า ฝากกระเป๋าไว้ที่ reception ก่อน แล้วไปลั๊ลลาที่สวนน้ำได้เลยจ้า บ่ายๆ เล่นเสร็จค่อยมาเช็คอิน เข้าห้อง ถ้าติดใจ วันรุ่งขึ้นก่อนกลับ แวะไปซ้ำสวนน้ำอีกสักรอบให้สะใจจนสวนน้ำปิดค่อยกลับบ้านก็ได้
• ได้พาเด็กไปปล่อยพลังที่คิดส์คลับที่อลังจนไม่อยากกลับห้อง แต่พอถึงเตียงก็คร่อกทันที

นี่พยายามเกริ่นให้สั้นสุดแล้วนะ แต่ก็ยาวมากอยู่ดี มา…มาดูโรงแรมแบบละเอียดๆ กันดีกว่า…

เริ่มจากขับรถเข้ามาเลย ลานจอดรถที่นี่กว้างมาก เป็นลานจอดกลางแจ้งที่จอดสบายๆ ได้หลายคัน พื้นที่เค้าเยอะ…ยอม โดยให้เราขับมาที่วงเวียนปลาวาฬ แล้วพนักงานจะมารับกระเป๋าเรา พร้อมให้ Tag เอาไปยื่นที่ reception กระเป๋าทั้งหมดก็จะส่งตรงปรู๊ดไปส่ห้องพักเราทันที

สำหรับล๊อบบี้ที่นี่อยู่ชั้น 8 นะ ตอนแรกเราก็งงนะว่าจริงๆแล้วพื้นที่ชั้นล่างก็มากมายทำไมต้องมาเช็คอินที่ชั้น 8ให้เป็นสกายล็อบบี้ด้วย แต่พอเปิดประตูลิฟท์ออกมา ถึงบางอ้อเลย คือวิวชั้น 8 มันสวยมากนะ เพดานสูงโปร่งตกแต่งผสมผสานทั้งไม้ ผนังกระเบื้อง และกระจกบานใหญ่ ทำให้รู้สึกโมเดิร์นแต่แฝงไปด้วยความอบอุ่น นอกจากนั้นที่สำคัญคือเห็นวิวทะเลหัวหินเต็มๆตาเลย

ช่วงที่เราไปเป็นวันที่ 2 ที่โรงแรมเปิดให้บริการ พวกเฟอร์ยังมาไม่ครบนะยังว้าวได้ขนาดนี้ ยังคิดอยู่ว่าถ้าทุกอย่างครบถ้วนที่นี่จะสวยขนาดไหนกัน พนักงานจะให้คีย์การ์ดมา 2 แบบ คือแบบการ์ดบัตรปกติ กับแบบนาฬิกาข้อมือที่เป็น RFID ซึ่งคีย์แบบสวมข้อมือนี้สะดวกมาก ไม่ต้องคอยควักบัตรเข้าออกกระเป๋าให้รำคาญ จะขึ้นลิฟท์ จะเข้าห้อง ก็เอาสายรัดข้อมือนี้แป๊ะแทนบัตร แถมเจ้าสายรัดข้อมือนี้ยังสามารถสแกนเข้าสวนน้ำได้ และหากอยากติดเงินนิดหน่อยเผื่อซื้อของในสวนน้ำ ไม่ต้องพกตังค์ไปจ้า เพราะเราสามารถแจ้งทางโรงแรมให้เติมเงินในสายรัดข้อมือนี้ไว้เลย ถ้าอยากซื้อของในสวนน้ำก็ใช้สายรัดข้อมือปี๊บจ่ายเอา VIP อะไรเบอร์นั้น

อ้อตรงล็อบบี้เนี่ยจะมีส่วนของบาร์ให้มานั่งดริ๊งค์กันด้วยนะ แต่ตอนที่เราไปเหมือนจะยังไม่พร้อม 100% แต่เราก็เป็นคนไม่นั่งดริ๊งค์เท่าไหร่อยู่ละ เลยถ่ายรูปมาฝากกัน

มาดูภาพโรงแรมกับห้องพักกัน เลยนะ ที่นี่จะตกแต่งสไตล์โมเดิร์น เล่นสีสัน และเป็นปลาสไตล์ (เรานิยามเองล่ะ) คือ เน้นแต่งโรงแรมด้วยปลา ทำให้รู้สึกใกล้ทะเลเข้าไปอีก คือเท่าที่คุยมาเค้าบอกว่าเค้าต้องการให้ที่นี่เป็นตัวแทนของหมู่บ้านชาวประมงอะไรแบบนั้น อย่างพวกของตกแต่งที่เห็นในล็อบบี้ตรงไฟเพดานนั่นนะคือ สุ่มจับปลาไงล่ะ ตรงหน้าโรงแรมมีน้ำพุปลาวาฬรอต้อนรับ ผนังชั้นล่างตกแต่งด้วยปลาตัวเล็กเป็นฝูง และมีบันไดเวียนที่เป็นสุ่มจับปลาอันใหญ่เดินขึ้นมาชั้น M ซึ่งเป็นห้องประชุม

ทางเดินเข้าห้องของแต่ละชั้น จะมีลวดลายปลาตัวใหญ่สีสดใส ในห้องพักยังมีภาพติดผนังรูปปลาและสัตว์ทะเลให้ดูอีก เรียกว่า เดินเข้าไปแล้วเหมือนไปประตูทะลุมิติเข้าเมืองบาดาลเลย

สำหรับห้องพักที่นี่มี 6 แบบ แต่ช่วงที่เราไปพึ่งเปิดบริการแค่ 4 แบบแรกเท่านั้น ที่เหลือจะเสร็จสมบูรณ์ในช่วงต้นปี 2018

• Vana Nava (วิวภูเขา) – Twin/King
• Ocean View – Twin/King
• Kid Suite
• Ocean Suite
• Panoramic Suite
• Sky Suite

ซึ่งตัวห้องแบบ Vana Nava และ Ocean View จริงๆแล้วคือห้องแบบเดียวกันนะ เพียงแต่อยู่คนละฝั่งของโรงแรมเท่านั้นก็จะได้วิวที่แตกต่างกันไป ห้องทั้ง 2 แบบนี้ก็จะมีให้เลือกทั้งแบบเตียง Twin และ Double (King)

Vana Nava / Ocean View ห้องมาตราฐานที่คุณภาพเกินราคา

ห้องที่เราไปพัก คือห้องแบบ King Ocean View สีที่ใช้จะเป็นคู่สี ส้ม น้ำเงิน ซึ่งเราว่ามันเป็นสีที่ลงตัวที่สุดละ (ในมุมช่างภาพเราชอบมากเหมือนเวลาถ่ายเมืองในช่วง Twilight มันก็จะเป็นคู่สีนี้เหมือนกัน) พื้นที่ห้องกว้างใช้ได้นะ ที่เราชอบคือเตียงใหญ่มาก น้องโฟกัสนอนด้วยสบายไปเลยละ การตกแต่งห้องดูโมเดิร์น ภาพวาดสวยหวานมาก  และที่พื้นใช้พรมน้ำเงินตัดด้วยลายปะการังสีส้ม สวยดีเราชอบ

ที่ปลายห้องจะมีโซฟาเบดให้เราสามารถนอนเล่นได้ และห้องที่เป็นเตียง King จะพิเศษขึ้นมาอีกหน่อยคือจะมีโต๊ะทำงานให้ใช้งานด้วยนะ ส่วนทีวีฝั่งตรงข้าม ก็เครื่องใหญ่มว๊ากกก

อ้อมีระเบียงให้ตากชุดว่ายน้ำด้วย เอ้ย… เอาไว้มานั่งสวีทกันได้ตะหาก แต่ในความเป็นจริง ใช้อุ้มลู
รถไฟที่อยู่ด้านหลังโรงแรม ซึ่งน้องโฟกัสชอบมากมายเลยเพราะเราพึ่งซื้อรถไฟของเล่นในน้องโฟกัสไปพอได้มาเห็นของจริงนี่ตื่นเต้นใหญ่เลย แต่ประตูระเบียงหนักไปนิด เราเปิดลำบาก 555

อุปกรณ์ก็มาตรฐาน แต่ตรบถ้วนเลยละ ที่เราว่าเจ๋งดีคือปลั๊กไฟ ทุกปลั๊กจะเป็นปลั๊กแบบอินเตอร์สะดวกมากๆนะ (โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ) สำหรับห้องจะไม่มมินิบาร์ให้นะ

สำหรับห้อง Twin จะประมาณนี้ Layout ห้องจะต่างกันนิดนึงตรงปลายห้อง เพราะว่าพอเป็น 2 เตียงพื้นที่ห้องมันหายไปหน่อย เค้าเลยย้ายโซฟาเบดมาอีกฝั่งและเอาโต๊ะทำงานออกไปแทน นอกนั้นก็เหมือนกันหมดเลย

Kid Suite ห้องในฝันของเด็กทุกคน

ห้องต่อมาที่จะขอพาไปดูเป็นห้อง Kid Suite ซึ่งเป็นห้องที่อยู่หัวมุมของตึกในแต่ละชั้น ห้องนี้คือที่สุดแล้วสำหรับครอบครัว โดยเฉพาะเด็กๆ เป็นยังไงไปดูกัน

ห้องนี้ก็ใช้คู่สีเดิมคือ น้ำเงิน-ส้ม แต่ใช้สีส้มเยอะกว่าให้ดูสดใสสมชื่อ Kid Suite เปิดประตูมาวูบแรกจะคล้ายๆกับห้องธรรมดา ที่มี Bean Bag เพิ่มเติมมาด้วย

แต่ความเด็ดของห้องนี้อยู่ที่มุมห้องอีกฝั่งหนึ่ง ที่ไม่ได้มีแค่ห้องน้ำ เพราะด้านข้างๆจะมีประตูลับเปิดเข้าไปสู่โลกใต้ท้องทะเลของเด็กๆ เป็นห้องที่เป็น Bulk Bed หรือเตียง 2 ชั้นแต่เอาใจเด็กน้อยสุดๆ ขนาดตู้เสื้อผ้ายังแต่งมาเข้าธีมใต้ท้องทะเลสุดฤิทธิ์

ส่วนห้องน้ำก็จะคล้ายๆกับห้องธรรมดา แต่แต่งสีเป็นสีส้มแทน และเพิ่มเติมอ่างอาบน้ำด้วยนะ

สำหรับห้อง Kid Suite เนี่ยนอกจากจะเป็นห้องมุมแล้ว ยังพิเศษอีกนิดนึงคือ สามารถจองเป็น Connection กับอีกห้องนึงได้ ด้วยซึ่งห้องนี้จะเป็นห้องแบบเตียง Twin คล้ายๆกับห้อง Ocean View แต่ห้องนี้ด้วยความที่เป็นห้องมุมจึงมีหน้าต่างชมวิวได้แบบ 180 องศาเลยทีเดียวล่ะ

Ocean Suite

ห้องมุมอีกฝั่งหนึ่งของตึกจะเป็นห้องแบบ Ocean Suite ซึ่งเป็นห้อง Connection เช่นเดียวกับห้องแบบ Kid Suite โดยห้อง Ocean Suite ก็เป็นห้อง Suite ตามมาตรฐานคือมีห้องรับแขกแยกออกมาอีก 1 ห้องอย่างเป็นสัดส่วนที่สามารถเลื่อนบานประตูเข้าออกห้องนอนได้เลย ห้อง Suite ที่นี่จะมี Minibar ให้ด้วย แต่ถ้าจะกินต้องเสียตังค์นะ

ห้องนอนเอาจริงๆ ถ้าไม่รวมกับพื้นที่รับแขกจะแคบไปซักนิด แต่ถ้าเปิดโล่งไปที่ห้องรับแขกด้วยก็จะดูกว้างดี

ส่วนห้องน้ำก็มี 2 ห้องทั้งส่วนรับแขกและส่วนห้องนอน แต่ที่นี่ห้องน้ำที่อยู่ในส่วนของห้องรับแขกเนี่ยจะมีฝักบัวสำหรับอาบน้ำด้วยนะ ซึ่งปกติแล้วห้องน้ำห้องรับแขกที่อื่นจะไม่มีฝักบัวอาบน้ำนะ

ส่วนห้องน้ำใหญ่ก็จะมีอ่างอาบน้ำด้วย

ส่วนอีก 2 ห้องก็อย่างที่บอกตอนวันที่เราไปห้องยังไม่เรียบร้อยเราเลยยังไม่มีโอกาสไปถ่ายภาพมา เอาล่ะเราไปสำรวจส่วนอื่นของโรงแรมกันดีกว่า

ห้องอาหารประมง

เริ่มจากเรื่องกินก่อนเลย กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ห้องอาหารที่นี่อยู่ชั้น 7 ใครมาพักก็ต้องลงมาทานอาหารเช้ากันที่ชั้น 7 นี่ล่ะ ห้องอาหารค่อนข้างกว้างเลยล่ะ ตกแต่งสวยงาม เราชอบตรงเพดานนะ เค้าเอาเหมือนสายยางสีสดๆมาร้อยๆกันสวยดี

ไลน์อาหารก็ดูจากในรูปได้ ถือว่าก็มีครบ แต่ตอนเราไปนี่คือช่วงเพิ่งเปิดใหม่ๆ ซิงๆ เลย แขกจะน้อย เชฟก็จะจัดอาหารตามจำนวนแขก อาหารก็จะมีไม่เยอะมาก เพราะเราเห็นว่ามีพื้นที่สำหรับจัดอาหารฝั่งหนึ่งยังไม่เปิดใช้ แต่โดยรวมพวกซุ้มไข่ ไส้กรอก เบคอน อาหารฝรั่ง ข้าวต้ม น้ำผลไม้ พวกนี้มีครบ ถือว่าโอเคสำหรับเรา

ส่วนใครติดใจ อยากทานอาหารมื้ออื่นที่โรงแรม ก็สามารถมาทานที่ห้องอาหารนี้ได้เช่นกัน เราแนะนำให้สั่งอาหารไทย เช่นผัดไทย ผัดกระเพราเนื้อ (อันนี้คือที่เราสั่งมากิน) เราว่าเชฟทำอาหารไทยได้ถึงรสมากกว่าอาหารฝรั่ง (สำหรับความชอบนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคลนะ ลิ้นเราอาจจะไม่เหมือนกัน ใครไปก็ลองชิมดูหลายๆ เมนูกันดูจ้า) ยำสัมโอ ก็รสชาติใช้ได้นะ แต่ที่เลิศคือการจัดจานสวยมากๆ อีกเมนูที่แนะนำให้สั่งคือ ต้มยำกุ้ง และแกงเทโพ อร่อยมากๆ ส่วนอาหารฝรั่งคือสวยนะ แต่เราว่ารสชาติธรรมดา

หัองอาหารที่นี่พร้อมมากสำหรับเด็กเล็ก มีเก้าอี้ทานข้าวเด็กเรียงเป็นตับ ชุดจานชามเด็กมีให้เลือกหลายแบบ เด็กชอบมาก เปลี่ยนแบบจานทุกมื้อ นี่เราก็ถ่ายรูปมาด้วย ประทับใจจริงๆ

สระว่ายน้ำสุดฟิน วิวสุดว๊าว

ใครอยากมาว่ายน้ำบนตึกก็ได้นะ อยู่ชั้น …26…สระว่ายน้ำที่นี่วิวสวยมาก อลังการดาวล้านดวงสุดๆ เราและเพื่อนๆ เรายกให้เป็นสระว่ายน้ำที่สวยสุดในหัวหินแล้วล่ะ สวยแค่ไหนมาดูกันเอง คือสวยแบบว่าถ้ามัวแต่ไปเล่นสวนน้ำไม่มาเล่นน้ำที่นี่ก็ดูเสียดายนะ

สระว่ายน้ำผู้ใหญ่จะเป็น infinite pool มองไปเห็นทะเลหัวหิน ว่ายบนตึกแต่รู้สึกเหมือนอยู่ในทะเล …ว๊าว ป่ะ ล่ะ… มีคลื่นด้วย ไม่ใช่อะไรนะ ลมบนตึกแรงมาก 555 คลื่นกระจายเลย ถ้าใครจะไปว่ายน้ำถ้าขี้หนาวหน่อยอาจจะต้องไปช่วงบ่ายที่มีแดด แต่ถ้าใครชอบเย็นๆ ขอแนะนำให้ว่ายน้ำช่วงโพล้เพล้ ดูพระอาทิตย์ตกไปด้วย สวยมว๊ากกกก… ที่นี่มี Pool Bar สามารถสั่งเครื่องดื่มมาดริ๊งค์ในน้ำได้ด้วยนะ

ส่วนสระเด็กก็ไม่แพ้สระผู้ใหญ่เลย มีสไลเดอร์น้อยๆ ให้เล่นด้วยจ้ะ ถ้าเด็กคนไหนอยากเล่นน้ำแบบสนุกเบาๆ ก็มาสไลเดอร์เล่นตรงนี้ล่ะ ตอนเราเห็นครั้งแรกนี่แบบ อยากจะแอบลงไปลื่นฟิ้วๆ ตู้ม ตรงสระเด็กมากๆ แต่เขิล กลัวทำของเค้าพังด้วย

จริงๆแล้วที่นี่ยังมีชั้นที่ 27 ที่จะเป็น Rooftop Bar ด้วย แต่ตอนผมไปมันยังไม่เปิดนะ ซึ่งจากวิวที่เราเห็นที่ชั้น 26 พูดได้เลยว่าเมื่อ Rooftop เปิด จะเป็น Rooftop ที่สวยที่สุดในหัวหินแน่นอน

สุดยอด Kid Club อลังกาลดาวล้านดวง

ครอบครัวไหนพาเด็กมาด้วยแบบเรานะ คิดส์คลับที่นี่คือสวรรค์บนดินของหนูๆเลย ลูกเรานี่ติดหนึบหนับไม่ไปไหน มันใหญ่มาก ของเล่นเยอะมีพี่เลี้ยงเด็กให้ด้วย เราได้ข่าวมาว่าของเล่นยังลงไม่หมดนะ นี่แค่ส่วนนึง เดี๋ยวจะมีทยอยลงเรื่อยๆ อื้อหือ เอาใจเด็กสุดๆ

น้องโฟกัสชอบเล่นบ้านบอลมากจ้า ดูจากรูปจะเห็นความใหญ่โตอลังการ เรียกว่าคฤหาสน์บอลจะดีกว่ามาก

มีมุมของเล่นแบบนั่งโต๊ะด้วย อีกอย่างที่ลูกเราชอบก็พวกของเล่นบทบาทสมมุติ ตัดเค้ก ทำกับข้าว อบเค้ก ทำสปาเกตตีแป้งโด ถ้ามุมเด็กโตหน่อยก็จะมีการ์ตูนให้ดู มีห้องน้ำแยกเด็กหญิงชายให้ในคิดส์คลับเลย แต่ผู้ใหญ่ห้ามเข้านะ ถ้าเข้าจะต้องไปเข้าที่อื่น ในนี้เฉพาะเด็กๆ แยกชัดเจน

สวนน้ำ “วานา นาวา” จัดเต็ม เที่ยวหัวหินได้ไม่ง้อทะเล

ส่วนใครจะไปเที่ยวสวนน้ำ Vana Nava สามารถเข้าได้แต่เช้าเลยนะ สวนน้ำเปิด …9… โมง รีบกินข้าวเช้า รีบไป คนจะได้ไม่เยอะ โดยให้เราไปที่ Reception ก่อนเค้าจะ Validate สายรัดข้อมือให้เราให้สามารถเข้าสวนน้ำได้ และเราสามารถ เติมเงินที่สายรัดข้อมือของโรงแรมได้เลย เพื่อไว้เอาไปใช้ซื้อของกินที่สวนน้ำ ไม่ต้องเสียเวลาไปเติมที่สวนน้ำอีกครั้ง และเราค่อยจ่ายเงินกันตอนเช็คเอ้าท์

ม่ะ… ถ้าพร้อมแล้วไปลงน้ำกับน้องโฟกัสกันเลย…

การพักที่ Holiday Inn Vana Nava Hua Hin มันก็จะ VIP หน่อย ตรงไหนน่ะเหรอ ดูจากแผ่นพับนี่ได้เลย

• ออกจากโรงแรม เดินกระพริบตาแป๊บเดียวก็เข้าสวนน้ำแล้วจ้า
• ที่ทางเข้าสามารถรับผ้าขนหนูได้เลย ไม่ต้องเสียตังค์ไปเช่าผ้าขนหนูในสวนน้ำอีก
• อีกหน่อยเค้าจะมีห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า และ Locker ของแขกโรงแรมโดยเฉพาะนะ แต่ตอนเราไปกำลังสร้างอยู่ ซึ่งสามารถไปใช้ที่ส่วนกลางหน้าสวนน้ำได้
• เข้าสวนน้ำได้ฟรีตลอดเวลาเข้าพักนะ อยากคุ้มก็พัก 1 คืน เล่นสวนน้ำวันมา กับวันกลับเลย คุ้มสุด
• ปกติสวนน้ำปิด 6 โมงเย็น แต่ถ้าเป็นแขกโรงแรมคืนวันศุกร์เสาร์ เข้าได้ถึง 3 ทุ่มเล่นให้สลบกันไปข้างนึง

อ้อ..ที่สวนน้ำเค้าไม่ให้เอาห่วงยางของเราเข้าไปเล่นข้างในนะ ถ้าเป็นเด็กเล็กเค้าจะมีเสื้อชูชีพเด็กให้บริการฟรีจ้า พร้อมมาก ไปหยิบมาได้เลยตามมุมชูชีพต่างๆ ด้านใน เราไม่รู้เลยอุตส่าห์เตรียมห่วงยางไปเองเพราะลูกตัวเล็กคิดว่าเค้าคงไม่มีห่วงยางเด็กให้ น้องโฟกัสเลยลากห่วงยางเหนื่อยฟรีเลย เพราะต้องฝากไว้ที่ประตูทางเข้า 555

ที่สวนน้ำเราไม่ขอรีวิวล่ะนะ เพราะมีรีวิวเยอะแยะล่ะไปหาอ่านกันได้นะ  (จริงๆแล้ว เราขอแอบไปเล่นน้ำตะหาก 555)

นอกจากนี้ โรงแรมยังมีส่วนอื่นๆ บริการด้วยนะ อย่างเช่นห้องประชุม ห้องจัดงานเลี้ยง และกำลังจะมีสปา ฟิตเนส รูฟท้อปบาร์ ซึ่งตอนเราไปยังไม่เสร็จดี เลยยังไม่เห็น เดี๋ยวถ้ามีโอกาสหน้าจะมารีวิวให้ชมอีกครั้งนะ

บทสรุป โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ วานา นาวา หัวหิน – Holiday Inn Vana Nava Hua Hin

ขอสรุปจุดเด่นจุดด้อยโรงแรมให้สั้นๆ เนอะ

• ราคาห้องพักช่วงเปิดตัวดีมากที่สุด ไปเถอะ แค่ได้เข้าสวนน้ำ Vana Nava Hua Hin ฟรีก็คุ้มสุดๆละ ได้ข่าวว่าราคาจะขึ้นอีกนิดช่วงเมษายน 2561 นะ
• เป็นโรงแรมใหม่ สะอาด โมเดิร์น แต่ง เรียบแต่สวยงามมีคอนเซปท์
• ไลน์อาหารเช้าช่วงเปิดตัวชนิดอาหารยังไม่เยอะมาก กินพออิ่ม แล้วลุยสวนน้ำดีกว่า
• ถ้าใครอยากเที่ยวสวนน้ำแบบจุใจ ให้ไปแต่เช้า แล้วฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมก่อน เปลี่ยนชุดไปเล่นได้เลย พอบ่ายๆ ค่อยมาเช็คอิน พักผ่อน นอน แล้ววันรุ่งขึ้นสามารถเล่นสวนน้ำได้อีกรอบนะเออ
• ถ้าจะพาเด็กมาเที่ยวในสวนน้ำ Vana Nava  ควรจะเป็นเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป ถึงจะเล่นได้สนุกหน่อย สำหรับเด็กเล็กกว่านี้ยังเล่นไม่ค่อยได้ แต่สามารถเดินเล่น หรือลอยตัวใน Lazy river ได้ แต่ตอนี้ทางสวนน้ำกำลังทำโซนเล่นน้ำสำหรับเด็กเล็กอยู่ ยังไม่เสร็จ ถ้าเสร็จแล้วน่าจะเข้าไปเล่นได้ทุกวัย
• โรงแรมไม่ติดหาด แต่ก็ขับรถไปนิดเดียวก็ถึงหาดเขาตะเกียบแล้ว

ใครบ้างเหมาะกับการมาพักที่ Holiday Inn Vana Nava Hua Hin

• คนที่อยากเที่ยวสวนน้ำ Vana Nava Hua Hin แต่ไม่อยากไปเช้าเย็นกลับ ขับรถมาไกลๆ ค้างสักคืน หายเหนื่อยเลย คือถ้ามาเล่น 2 วัน 1 คืนนี่เหมือนได้พักโรงแรมฟรีนะ
• แก๊งค์เพื่อน มาพักผ่อน และมีกิจกรรมมันส์ๆ ให้เล่น
• ครอบครัวหากมีเด็กๆ มาด้วยน่าจะ happy เพราะเด็กสามารถเล่นในคิดส์คลับของโรงแรมได้ตลอด หรืออยากมาเฮฮาที่สวนน้ำก็ได้ ดูจาก facilities ของทั้งโรงแรมและสวนน้ำ ค่อนข้างอำนวยความสะอวดสบายให้กับเด็กเล็กดีพอควร
• วัยรุ่น หรือ ส.ว.ก็ได้ ถ้าใจยังวัยรุ่นอยู่
• คนที่อยากมาพักผ่อนแบบมีกิจกรรมมันส์ๆ

ข้อมูลเพิ่มเติม

• เว็บไซต์โรงแรม –> Holiday Inn Vana Nava Hua Hin
• เช็คราคาและจองที่พักผ่าน expedia.co.th
• เช็คราคาและจองที่พักผ่าน agoda.com
• เช็คราคาและจองที่พักผ่าน Booking.com
• ตรวจสอบโปรโมชั่นของเอเยนซี่ต่างๆ –> http://www.travelplanetx.com/?p=5869

หากคุณชอบรีวิวของเราเพียงแค่ฝากคอมเม้นท์ไลค์แชร์ก็จะเป็นกำลังใจอย่างยิ่งหรือหากอยากติดตามประสบการณ์ดีๆไปกับพวกเราเพียงBookmark http://www.travelplanetx.com หรือติดตามได้ที่ Facebook Fan Page: Travel Planet Xperiences ได้เลยจ้า