Dec-2017
ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ เลือกได้ตามสไตล์ บินตรงสู่โตเกียว
ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ เลือกได้ตามสไตล์ บินตรงสู่โตเกียว
Business – Quiet zone – Hotseat
ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ สายการบินโลว์คอส ที่ดีที่สุดที่บินตรงสู่โตเกียว สายการบินที่มีรูปแบบที่นั่งให้เลือกมากมายทั้ง Business Class Flatbed , Quiet Zone และ Hot Seat ให้สามารถเลือกที่นั่งได้ตามไลฟ์สไตล์ของทุกคน
ถ้าพูดถึงสายการบินที่บินตรงสู่ญี่ปุ่นแล้ว ปัจจุบันก็จะมีสายการบินอยู่ไม่มากนัก แต่หนึ่งในสายการบินที่เป็นที่นิยมมากที่สุดของคนไทยในขณะนี้ก็คือ สายการบิน ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ซึ่งนอกจากจะมีราคาที่ถูกเหลือเชื่อแล้ว ยังมีรูปแบบที่นั่งที่หลากหลายให้เราสามารถเลือกได้ตามไลฟ์สไตล์ ตามความชอบของเราในราคาที่จับต้องได้ อย่างล่าสุดเราเองพึ่งมีโอกาสนั่งสายการบิน ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ที่เป็น Business Class ซึ่งเป็นที่นั่งแบบ Flatbed นอนราบ 180 องศาได้เลย ซึ่งเราสามารถจองไปกลับได้ในราคาเพียง 24,000 บาท ซึ่งแพงกว่าตั๋ว Economy Class ของสายการบินไทยที่เราเคยนั่งไปไม่มากเลย วันนี้เราเลยขอมารีวิวที่นั่งแบบต่างๆของ สายการบิน ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ให้ดูกันว่ามีแบบไหนยังไงบ้าง
Traveloka ทางเลือกที่ดีที่สุดในการจองสายการบินโลว์คอส
สำหรับวิธีการจองตั๋วสายการบินโลว์คอสนั้น อย่างที่เราเคยแนะนำไปตลอดเวลาที่ผ่านว่า การจองผ่าน Traveloka เป็นวิธีที่ดีที่สุด ด้วยเหตุผลง่ายๆดังนี้
- ราคาตั๋วถูกที่สุด เพราะจะมีส่วนลดเล็กๆน้อยๆ (โดยเฉพาะการจองผ่าน App)
- มีโปรโมชั่นที่หลากหลายและถี่ บางครั้งลดราคาสายการบินร่วม 1,000 บาทก็มี
- ชำระเงินได้หลากหลายช่องทาง ปัจจุบันมีชำระผ่าน Paypal ด้วยนะ
- ไม่มีค่าธรรมเนียมการชำระเงินเกือบทุกช่องทาง
ซึ่งรวมๆแล้วทำให้ราคาตั๋วถูกลงไปกว่าปกติเยอะเลยทีเดียวนะ นั่นทำให้ที่ผ่านมาเวลาเราของตั๋วของแอร์เอเชียเอ็กซ์แล้ว เรามักจองผ่าน Traveloka เสมอ จองตั๋ว Thai Airasia X ผ่าน Traveloka คลิกเลย –> https://www.traveloka.com/th-th/thai-airasia-x
สำหรับสายการบิน ไทยแอร์เอเชีย จะใช้เครื่องบินแบบ Airbus A330-300 (333) โดยจัดที่นั่งไว้ทั้งหมด 377 ที่นั่งโดยเป็น
- Business Class 12 ที่นั่ง
- Economy Class 365 ที่นั่ง
โดยที่ที่นั่งแบบ Economy จะมีแบ่งเป็น 4 แบบย่อยๆคือ
- Standard Seat
- Standard Hotseat
- Quiet Zone
- Quiet Zone Hotseat
Business Class Premium Flatbed บินหรูนอนสบายในราคาเบาๆ
เราไปดูที่นั่งแบบแรกกันก่อน เป็นที่นั่งแบบ Premium Flatbed หรือที่เรียกกันง่ายๆว่าเป็น Business Classนั่นละ โดยราคาของที่นั่งแบบนี้ก็จะเป้นขั้นบันไดนะ คือถ้าจองเร็วๆ 6 ที่นั่งแรกของไฟลท์จะได้ราคาอยู่ที่ราวๆ 10,000 – 12,000 ต่อขา ไปกลับราคาจะอยู่ราวๆไม่เกิน 24,000 บาท ซึ่งราคานี้รวมอะไรบ้างที่ปกติการจองแบบ Economy แล้วจะต้องจ่ายเงินเพิ่ม
- น้ำหนักโหลด 40 กก.
- เลือกที่นั่งฟรี
- อาหารร้อน 1 ชุด
- น้ำดื่มฟรีตลอดการเดินทาง
- ประกันเดินทางเกี่ยวกับเรื่องการดีเลย์
- สามารถเปลี่ยนไฟลท์ได้ ฟรี! (โดยที่ต้องชำระค่าส่วนต่าง)
- หมอนและผ้าห่ม
ในส่วนของเรื่องการเปลี่ยนไฟลท์ฟรีก็ดีงามนะเพราะทริปที่เราไป เราไปถ่ายใบไม้แดงที่ญี่ปุ่นซึ่งใบไม้แดงแต่ละปีมันแดงไม่พร้อมกันไงเราจองไปก่อนแล้วพอใกล้ใกล้วันมาดูอีกทีปรากฏว่าใบไม้แดงมันแดงเร็วขึ้นเราเลยลื่อนไฟลท์ ให้เร็วขึ้นตามไม่ต้องเสียตังค์เลย
สำหรับการเช็กอินคนที่ซื้อตั๋วแบบ Premium Flatbed หรือ Business Class เนี่ยจะมีช่องสำหรับเช็กอินโดยเฉพาะ ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลในเรื่องการเข้าคิวเพื่อเช็กอินเลยสามารถเดินลากกระเป๋าสวยสวยไปเช็กอินได้โดยไม่เสียเวลา
นอกจากนี้กระเป๋าทุกใบที่ทำการโหลดสัมภาระลงใต้ท้องเครื่องจะได้รับการติดแท็กสีเหลือง XpressBag ซึ่งที่สนามบินปลายทางกระเป๋าจะออกจากสายพานมาเป็นลำดับแรกและมีคนช่วยหยิบกระเป๋าลงจากสายพานมารอให้เลย ซึ่งสำหรับคนที่ต้องการรีบเดินทางเข้าเมืองถือว่าโอเคเลยนะเพราะลงมาถึงที่สายพานก็สามารถหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกไปได้เลยทันทีไม่เสียเวลา
เช่นเดียวกับตอนขึ้นเครื่องที่เราจะสามารถขึ้นเครื่องได้ก่อนใคร โดยทางเจ้าหน้าที่กราวด์จะเรียกขึ้นเครื่องก่อนใคร และจะมีทางแยกขึ้นเครื่องเข้าทางหัวเครื่องเลย
สำหรับที่นั่ง Business Class ของไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์นั้นจะจัดที่นั่งแบบ 2-2-2 จำนวน 2 แถวรวม 12 ที่นั่ง โดย spec ของเก้าอี้นี้จะกว้าง 20 นิ้ว (ที่นั่ง eco จะกว้าง 16.5 นิ้ว) ส่วนความยาวเก้าอี้จะยาว 60 นิ้วประมาณ 2 เท่าของเก้าอี้ทั่วไป สำหรับที่นั่งแบบนี้คนที่เดินทางคนเดียวการนั่งริมทางเดินจะสะดวกกว่าพอสมควร เพราะเมื่อเครื่องขึ้นและปรับเก้าอี้นอนราบแล้วหากนั่งด้านในการจะออกมาเข้าห้องน้ำจะลำบากพอสมควรในการก้าวข้ามคนที่นอนริมทางเดิน แต่ถ้ามาเป็นคู่ก็โอเคสะดวกดีนะ อ้อสำหรับเก้าอี้แบบนี้จะมีปลั๊กไฟให้เราใช้ได้ตลอดการเดินทางด้วยนะ แล้วข้างๆที่นั่งจะพอมีช่องเล็กๆให้ใส่ของกระจุกกระจิก พวกมือถือ กล้อง Compact อะไรแบบนี้ได้ด้วย
ตอนเดินมาถึงสิ่งที่เห็นก่อนเลยจะเป็นน้ำดื่ม และพวกใบ ตม. ของประเทศปลายทางที่ทางแอร์จะเตรียมวางไว้ให้เราก่อนเลย โดยจะวางไว้ที่เท้าแขนที่กว้างพอสมควรสามารถใช้วางของได้สบายๆ
หลังจากที่นั่งเล่นแล้วซักพักหนึ่ง แอร์จะเอาผ้าร้อนมาให้เช็ดหน้า เช็ดตา แต่วันที่เราไปผ้าร้อนมันมาแบบไม่ร้อน คือจริงๆผ้ามันต้องชุบน้ำมาใช่ม่ะ แต่นี่คือมาแบบแห้งเลย เลยต้องขอแอร์เปลี่ยนนิดส์นึง และขนาดผ้าเรารู้สึกว่าเล็กไปหน่อย เอ๊ะ… หรือว่าหน้าเราใหญ่ไป ฮา…
ต่อจากนั้นก่อนเครื่องขึ้นแอร์จะมาถามเราว่าจะรับอาหารร้อนเป็นอะไร (ในกรณีที่ไม่ได้เลือกมาก่อน) และเราสามารถเลือกได้ด้วยว่าอยากให้แอร์เสิร์ฟตอนขึ้นเครื่องเลย หรือว่าเสิร์ฟก่อนเครื่องลง ตอนเราไปเป็นไฟลท์สายๆ เราเลยรับมากินเป็นข้าวเที่ยงไปเลย แล้วจากนั้นก็นอนยาวๆเลย จากนั้นซักพักเครื่องก็ขึ้นละ วิวกรุงเทพฯมุมสูงจากหน้าต่างบานแรกสุด สวยดีนะ
ที่ปรับเก้าอี้จะเป็นระบบไฟฟ้า โดยมี Preset ไว้ให้ 3 ระดับคือนั่งตรงตอนเครื่องขึ้นลง นั่งเอนๆ และนอนราบ แต่เราก็สามารถปรับได้ตามที่เราชอบนะ นี่เป็นขนาดเก้าอี้ที่เรานั่งในท่านั่งตรงกับท่านอนราบ เอาจริงๆในท่านอนราบสำหรับคนตัวใหญ่อย่างเราที่สูง 180 ซม.ก็ถือว่าพอดีๆตัวนะ แอบรู้สึกว่าเก้าอี้มันสั้นไปนิดนึงสำหรับการนอนราบ แต่พอนอนตะแคงแบบท่ากอดหมอนข้าง เออ.. กำลังดี อ้อสำหรับเก้าอี้เนี่ย ด้วยความที่ตัวใหญ่มันจะสูงพอสมควรนะ ใครที่ตัวเล็กตอนท่านั่งตรงเท้าอาจจะไม่ถึงพื้นนะ แต่ผมตัวสูงเลยกำลังดี
อ้อๆลืมบอกไปช่วงก่อนเครื่องขึ้นแอร์จะเอา หมอนและผ้าห่มมาให้เราไว้ใช้ด้วย ซึ่งปกติแล้วถ้าเป็นที่นั่งแบบ Economy จะต้องเสียเงินเช่าเพิ่มนะ แต่ที่นั่งแบบ Premium Flatbed นี่ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มล่ะ ตอนที่เราไปเราเลือกนั่งที่นั่ง 1A เป็นแถวหน้าสุด ที่นั่งท่าหลังตรงคือพื้นที่ด้านหน้าเหลือๆมากๆ สบายสุดๆ ส่วนท่านอนก็ประมาณนี้ คืออย่างที่บอกด้วยความที่เราตัวสูงเท้าเลยแอบติดๆพนังด้านหน้าไปนิดนึง อ้อความพิเศษอีกนิดนึงคือเข็มขัดนิรภัยตรงหัวเข็มขัดจะมีหุ้มหนังไว้ให้ด้วยนะ จะได้ไม่ระคายผิว ฮา…
สำหรับอาหารที่เสิร์ฟ ก็เป็นอาหารเหมือนกับ Economy Class ที่ต้องสั่งซื้อกันนั่นละ แต่จะมีถาดเพิ่มมาให้ และมีพื้นที่ในการวางถาดอาหารเยอะหน่อย คือเอาจริงๆก็แย่กว่าสายการบินฟูลเซอร์วิสแบบ Economy ด้วยซ้ำอ่ะนะ อ้อสำหรับใครที่มีบัตรเครดิตไทยแอร์เอเชีย ธนาคารกรุงเทพฯ ก็อย่าลืมแจ้งแอร์นะ สามารถรับเครื่องดื่มร้อนเย็นในราคาไม่เกิน 60 บาทได้ด้วย ผมจัดน้ำมะพร้าวเผาของ Foco มาดื่ม ส่วนอาหาร ขนม อื่นๆถ้าอยากทานเพิ่มอันนี้ต้องซื้อละนะ ไฟลท์นี้ผมสั่งเป็นข้าวหน้าไก่เทริยากิมาทาน ซึ่งจัมาพร้อมน้ำ 1 อย่างซึ่งผมสั่งมาเป็นโค้กซีโร่
สำหรับเรื่องห้องน้ำ สำหรับ Business Class เนี่ยจะมีห้องน้ำโดยเฉพาะเลย 1 ห้องด้านหน้าใช้กันแค่ 12 คนนี่แหละ เพราะส่วนนี้เค้าจะกันไม่ให้คนในส่วน Economy มาใช้ แต่ห้องน้ำนี้จะเป็นห้องเล็กที่ไม่มีที่เปลี่ยนผ้าอ้อมเด็กนะ หากใคราเดินทางมากับเด็กเล็กและต้องการเปลี่ยนผ้าอ้อมเด็กจะต้องเดินไปใช้ห้องน้ำด้านกลางๆเครื่องแทน
หลังจากทานอาหารเสร็จ เราก็นั่งๆนอนๆอ่านหนังสือเล่น iPad ซักพัก เดินไปเข้าห้องน้ำ ขอน้ำเปล่ามาเพิ่มก็ได้เวลาไปนอนละ ความดีงามของการนั่งเครื่องแบบ Business Class ก็คือเรื่องความสบายในการเดินทางนี่แหละ เพราะส่วนตัวเราเองพึ่งไปผ่าตัดหลังมาไม่สามารถนั่งเก้าอี้ได้นานๆเท่าไหร่ การได้นอนราบแบบนี้ถือว่าสบายมากๆ ตอนไปถึงที่ญี่ปุ่นตื่นขึ้นมาคือ Fresh มากๆไม่มีอาการเมื่อล้าจากการเดินทางเลย และที่สำคัญที่สุดสำหรับเราคือเรื่องหลังนั่นแหละที่สบายสุดๆไปเลย
Hot Seat นั่งสบายคลายปวดเมื่อย
สำหรับที่นั่งแบบ Standard หรือ Economy Class ของสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์จะจัดที่นั่งแบบ 3-3-3 โดยจะแบ่งเป็น 2 โซนคือโซนทั่วไป และโซนด้านหน้าที่เป็น Quiet Zone และทั้ง 2 โซนจะมีที่นั่งแบบ Hot Seat ที่เป็นที่นั่งที่อยู่แถวหน้าสุดที่จะมีพื้นกว้างขวางยืดแข้งยืดขาได้อย่างสบายด้วยนั่นเอง
โดยที่ที่นั่งแบบ Hot Seat นี้ก็จะมีพื้นที่กว้างแบบนี้เลย แต่เท่าที่สังเกตุแถวกลางจะกว้างมากที่สุดล่ะ เอาจริงๆถือว่ากว้างมากไปด้วยซ้ำเพราะจะยื่นมือไปหยิบพวกนิตยสารจ้างหน้านี่แทบจะไม่ถึงกันเลยทีเดียว
โดยที่นั่ง Hot Seat เนี่ยถึงจะมีพื้นที่ตรงขากว้างๆ แต่ก็ต้องแลกกับที่นั่งที่ไม่สามารถยกที่เท้าแขนขึ้นได้ เพราะมันเป็นที่เก็บโต๊ะหน้าที่นั่งนั่นเอง ดังนั้นใครอยากจะลุ้นๆตอนเครื่องว่างๆ แล้วนอนยาวที่นั่ง Hot Seat ก็ไม่เหมาะเท่าไหร่
ข้อดีของการนั่ง Hot Seat อีกอย่างหนึ่งนั่นคือจะสามารถขึ้นเครื่องได้พร้อมๆกับที่นั่งแบบ Premium Flatbed เลยซึ่งในขากลับจากโตเกียวมาผมว่าโอเคเลยเพราะว่า ส่วนมากแล้วคนจะช้อปกันหนักหน่วงมาก และที่เก็บของมักจะไม่พอ การได้ขึ้นเครื่องก่อนใครก็จะสบายๆเก็บของได้สะดวกเลยล่ะ
สำหรับที่นั่ง Hot Seat นี้ถ้าอยากจะนั่งต้องจ่ายเงินเพิ่มนะ ถ้าเป็น Hot Seat โซนธรรมดาจะอยู่ที่ 1,400 บาท ส่วนโซน Quiet Zone อยู่ที่ราคา 1,500 บาท ซึ่งก็ถือว่าแพงพอสมควร ส่วนตัวผมแนะนำให้บัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ แอร์เอเชีย เพราะเมื่อสมัครผ่านจะได้รับบัตรกำนัลโหลดสัมภาระฟรี 4 ใบและบัตรกำนัลเลือกที่นั่ง Hot Seat อีก 4 ใบ (แต่จะเลือกได้เฉพาะโซนธรรมดานะ)
คือแค่ค่าที่นั่ง กับเรื่องโหลดกระเป๋าเนี่ยก็ถือว่าคุ้มแล้วละ ใครสนใจก็สามารถสมัครได้ที่นี่เลย <<<–สมัครบัตรเครดิตแอร์เอเชียธนาคารกรุงเทพ –>>>
Quiet Zone โซนนี้หลับสบายไม่มีเสียงรบกวน
มาดูกันที่โซนแรกก่อน ถือเป็นโซนที่น่าสนใจสำหรับการใช้บริการสายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์นั่นก็คือ Quiet Zone ซึ่งจะเป็นโซนด้านหน้าเครื่อง อยู่หลังโซน Premium Flatbed นั่นเอง โดยโซนนี้จะต้องจ่ายเงินเพิ่ม 509 บาท โดยที่โซนนี้จะมีข้อกำหนดว่าต้องเป็นผู้โดยสารที่อายุ 12 ปีขึ้นไปจึงจะโดยสารได้ ดังนั้นที่โซนนี้จึงไม่ต้องห่วงเรื่องเสียงเด็กร้องเลย นอกจากนี้ไฟที่ใช้ในโซนนี้จะเป็นไฟสีน้ำเงิน ซึ่งว่ากันว่าจะทำให้หลับ และพักผ่อนได้สบายที่สุด
สำหรับที่นั่งในโซนนี้ขนาด และความกว้างจะไม่ต่างจากโซนอื่นๆนะ ซึ่งสำหรับคนตัวใหญ่ของเราก็ถือว่ามีพท้นที่กว้างพอสมควร คือไม่ได้แคบนั่งลำบากเหมือนเครื่องเล็กที่ที่นั่งจะแคบกว่านี้
แต่ข้อดีของโซนนี้คือส่วนมากแล้วคนจะไม่แน่นเท่าไหร่ ซึ่งมีโอกาสที่จะมีที่ว่างและสามารถนอนยาวๆได้เลยนั่นเอง ส่วนห้องน้ำโซนนี้ก็จะใช้รวมกับผู้โดยสาย Economy ทั่วไป ซึ่งมีทั้งหมด 7 ห้องแบ่งกันใช้ 365 ที่หรือเฉลี่ย 52 คน / 1 ห้องน้ำ ดูเหมือนห้องน้ำจะน้อยนะแต่จริงๆก็ต้องบอกว่า มันก็จะแน่นๆและต้องรอคิวเฉพาะช่วงหลังทานข้าวเสร็จแล้วนั่นล่ะ ช่วงเวลาอื่นๆถือว่าว่างไม่ต้องรอนานมากนัก
สำหรับปัจจุบันไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์มีไฟลท์บินตรงสู่โตเกียวไปกลับวันละ 2 เที่ยวรวม 4 ไฟลท์ให้เลือกตามนี้เลย ก็ถือว่าสะดวกดีนะสามารถเลือกมาถึงเช้ากลับค่ำเที่ยวคุ้มๆก็ได้ หรือจะเลือกบินกลางวันสบายๆแบบไม่เหนื่อยก็ได้เช่นกัน
ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ เลือกได้ตามสไตล์ บินตรงสู่โตเกียว
ปัจจุบันไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ถือเป็นสายการบินโลว์คอสที่ดีที่สุดในการเดินทางสู่โตเกียว
- มีไฟลท์ให้เลือกทั้งเช้าและเย็น
- มีที่นั่งหลากหลายให้เลือกได้ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง
- มีที่นั่งแบบ Quiet Zone ที่เหมาะกับคนที่ต้องการพักผ่อน
- มีที่นั่ง Hot Seat สำหรับที่นั่งแถวหน้าสุดของแต่ละโซนที่มีพื้นที่ให้ยืดแข้งยืดขามากมาย
มีที่นั่งแบบ Premium Flatbed (Business Class) ในราคาที่จับต้องได้
- ราคาไม่แพง (แพงว่าที่นั่ง Eco ของสายการบินฟูลเซอร์วิสไม่มาก) และถูกกว่าที่นั่งแบบ Business Class ของสายการบินฟูลเซอร์วิสประมาณครึ่งหนึ่ง
- อาหารเหมือนที่นั่งแบบ Standard (ซึ่งโดยรวมแย่กว่าอาหารของที่นั่ง Eco ของสายการบินฟูลเซอร์วิส) แต่ข้อดีคือสามารถขอน้ำเปล่าดื่มได้ไม่จำกัด
- มีของเครื่องใช้ให้ใช้เช่น หมอน ผ้าห่ม ซึ่งเอาจริงๆก็เหมือนกับกับสายการบินฟูลเซอร์วิสทั่วไป
- ดังนั้นภาพรวมแล้วเหมาะกับคนที่ต้องการที่นั่งดีๆ แต่ไม่ได้สนใจเรื่องอาหารมากนัก
หากคุณชอบรีวิวของเราเพียงแค่คอมเม้น แชร์ก็จะเป็นกำลังใจอย่างยิ่งหรือหากอยากติดตามประสบการณ์ดีๆไปกับพวกเราเพียง Bookmark http://www.travelplanetx.com หรือติดตามได้ที่ Facebook Fan Page: Travel Planet Xperiences