Aug-2017
สุดยอดเนื้อวากิวที่คุ้มสุดๆ ที่ La VIE – Creative French Cuisine @ VIE Hotel Bangkok, MGallery by Sofitel
สุดยอดเนื้อวากิวที่คุ้มสุดๆ ที่ La VIE – Creative French Cuisine
VIE Hotel Bangkok, MGallery by Sofitel
เราเป็นคนชอบกินเนื้อย่างร้านสเต็กดีๆมาก อย่างตอนไปอเมริกาหรือตอนไปญี่ปุ่นเนี่ยเป็นสวรรค์ดีๆนี่เอง ส่วนตอนอยู่เมืองไทยเราก็มักจะหาร้านอาหารเด็ดๆ ที่มีเนื้อดีๆให้กินนะ จนเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผมไปเจอโปรโมชั่น G&G ของ VIE Hotel Bangkok, MGallery by Sofitel หนึ่งในโรงแรมห้าดาวที่หรูที่สุดของเครือแอคคอร์ แถมราคาก็ไม่แพงมากด้วยเลยต้องจัดซะหน่อย
โรงแรม วีโฮเทล กรุงเทพ เอ็มแกลเลอรี บาย โซฟิเทล เป็นโรงแรมบูทีคห้าดาวจากเครือแอคคอร์ ตั้งอยู่ตรงสถานีรถไฟฟ้า ราชเทวีถือว่าเดินทางสะดวกน่าดูถ้าใครขับรถมาจากทางถนนเพรชบุรีก็จะง่ายหน่อย เพราะที่สี่แยกราชเทวีสามารถเลี้ยวมาทางหน้าโรงแรมได้เลย แต่ใครขับรถมาจากทำฝั่งปทุมวัน จะต้องอ้อมไปทางถนนบรรทัดทองเพื่อย้อนกลับมา
สำหรับวันนี้เป้าหมายของผมอยู่ที่ห้องอาหาร La VIE ซึ่งเป็นห้องอาหารฝรั่งเศสที่เน้นเสิร์ฟอาหารสไตล์สเต็ก ที่ทางเข้าจะเห็นว่าห้องอาหารนี้พึ่งได้รับรางวัล Excellence สำหรับ French Category ของ Bangkok’s Best Restaurant Awards 2017 ด้วยนะ และช่วงนี้ใครใช้มือถือ DTAC สามารถรับโปรโมชั่นส่วนลดได้ด้วยจ้า
ห้องอาหารตกแต่งสวยงามเน้นใช้เก้าอี้และเฟอร์นิเจอร์แนวสีส้มซึ่งก็เป็นสีหลักของโรงแรมนั่นแหละ เส้นสีส้มนี้ก็ถือว่าเป็นสีที่เขาว่าทำให้เจริญอาหารด้วยนะ ฮาาาาาา
เมนู ของที่นี่มาแบบกิ๊บเก๋เพราะจะใช้ iPad เป็นเมนู อันนี้เป็นเมนู G&G หรือ Grains & Grapes ที่เรามาทานกัน ซึ่งจะมีสเต็กจัดโปรโมชั่นอยู่สองตัวคือ Australian Wagyu Striploin Steak ราคา 799++ และ Premium Beef Tomahawk (สำหรับ 4 คน) ราคา 1,699++
ตัวโปรโมชั่นนี้ concept จะเป็นการทานเนื้อคู่กับไวน์ แต่เราขับรถมาเลยเลือกที่จะไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เราเลยสั่งเป็น Mocktail มา ซึ่งแน่นอนลองสามตัวที่เป็นโปรโมชั่นลด 50% ซึ่งมีอยู่สองอย่างตัวแรกจะเป็นน้ำอัญชัน ตัวที่สองจะเป็นน้ำเสาวรส ซึ่งจากที่ได้ลองชิมทั้งสองแก้วก็รู้สึกว่าอร่อยดีนะทานแล้วสดชื่นดีอย่างน้ำเสาวรสก็ไม่เปรี้ยวจนเกินไป
หลังจากสั่งอาหารเรียบร้อยพนักงานจะนำขนมปังมาเสิร์ฟ ซึ่งจะมีให้เลือกทั้งหมดสี่แบบแบบที่ผมชอบที่สุดคือ Dinner Roll รสชาติจะนุ่มหอมหวานเนื้อก็กินได้โดยไม่ต้องทาเนยเลยก็ได้ อีกอย่างที่พนักงานนำมาเสิร์ฟคือ Grissini เป็นลักษณะขนมปังแท่งกรอบๆ ก็เอาไว้ท่านเล่นได้อร่อยดีนะ
นอกจากขนมปังแล้วจะมีการเสิร์ฟ Amuse-bouch หรือ Appetizer ซึ่งทางเชฟจะทำมาให้โดยที่เมนูจะสลับสับเปลี่ยนไปในแต่ละอาทิตย์ พี่ผมด้วยทานจะเป็น Tofumilk Truffle Pannacotta ตัวเนื้อที่ทำมานุ่มเนียนและเด้งมากๆ รสชาติออกเป็นเต้าหู้สุดๆ แต่จะมีกลิ่นทรัฟเฟิลค่อนข้างมาก
ส่งน Appetizer ที่เราสั่งเพิ่มนอกเหนือจากที่เชฟทำให้อยู่แล้วเราสั่งกันมา 3 เมนู จานแรกเป็น Signature ขอบที่นี่คือ La VIE Salad warm confit duck leg , frisee, 64•C egg lardons
จานนี้คืออร่อยกว่าหน้าตามากตัวผักที่เอามาใช้ผมไม่แน่ใจว่าเป็นผักอะไรนะแต่คือรสชาติกรุบกรอบมากๆทานคู่กับไข่ออนเซ็น และ ขาเป็ดคือเข้ากันสุดๆ
จานที่สองเป็น Pan-seared Hokkaido Scallops, culiflower, White truffle essence, pea shoots จานนี้เป็นอีกหนึ่งจานที่รสชาติดีหอยเชล์ลตัวอวบอ้วนสดมากๆ เอาไปย่างและทานคู่กับซอสดอกกะหล่ำ หอยเชลล์หวานมากๆ
จานสุดท้ายผมสั่งเป็น Roasted foie-gras escalope, pouched rhubarb and jam brioche เสริมมาสองชิ้นพอดีคำเชฟห่านขนาดชิ้นได้หนากำลังดีทำให้ได้ความกรอบของผิวกูดันโนและได้ความชุมช่ำของเนื้อตับด้านในซอสต่างๆที่ใช้กับผักเคียงก็เลือกใช้ได้ดีทำให้รสชาติโดยรวมเข้ากันเป็นอย่างดี
สำหรับ Main course แน่นอนว่าผมสั่งเป็นตัวที่เป็นโปรโมชั่นประจำเดือนสิงหาคม ทั้งสองเมนู จะเสิร์ฟมาพร้อมกับ side dish ที่เป็น potato wedges สำหรับระดับความสุกที่เราสั่งจะเป็น medium rare ซึ่งเป็นระดับความสุกที่เชฟแนะนำ
มาดูกันที่จานแรกจะเป็น 1 kg of Grain-fed 1824 Premium Beef Tomahawk เนื้อโทมาฮอร์ค ขนาด 1 กิโลกรัม ไซส์นี้เหมาะสำหรับกินสวยๆ ที่ 4 คน ตัวเนื้อ เอาไปย่างถ่านทำให้บริเวณผิวนอกมีกลิ่นหอมและมีความกรอบเล็กน้อยส่วนเนื้อด้านในก็นุ่มชุ่มช่ำแต่หากใครไม่กล้าทาน เนื้อแดงๆเราแนะนำว่าให้สั่งประมาณ medium จะกำลังดีครับ
ส่วนอีกเมนูหนึ่งจะเป็น 200 g Grain-fed Australian Wagyu Striploin เป็นเนื้อส่วน Striploin ซึ่งเป็นส่วนเนื้อที่จะมีเส้นไขมันแยกออกมาแต่ตรงเนื้อก็ถือว่ามีความชุ่มระดับหนึ่ง ส่วนตัวแล้วผมชอบอันนี้มากกว่าโทมาฮอร์คนะ
และเหมือนกับตอนเริ่มทานคือหลังจากอิ่มแล้วใช้เอฟจะมีเมนูพิเศษเป็นของหวานให้อยู่ในคอร์สด้วยวันที่เราไปจะเป็น Madelene รสชาติหอมหวานเนยมากๆ
แต่เราไม่จบเพียงแค่นั้นเพราะเราสั่งของหวานในเมนูมาเพิ่มอีกสามอย่างอย่างแรกเป็น Dark Chocolate Tart, Salted Caramel, Hickory Smoked Ice Cream ตัวนี้ผมชอบมากช็อกโกแลตหอมและมีการผสมกาแฟเอสเปรสโซ่ลงไปในเนื้อด้วยทำให้มีความขมนิดๆ ท่านคู่กับไอศครีมหวานๆๆแล้วเข้ากันดี
จานที่ 2 เป็น Chocalate fondant, tonka bean ice cream จานนี้ก็อร่อยดีแต่ไม่ได้ว๊าว เป็นรสชาติที่อร่อยมาตรฐานเหมือนที่เคยกินจากหลายหลายที่
จานสุดท้ายแตน Passion Fruite creme brule, coconut sorbet and meringe, sesami tuile จานนี้ถือว่าใช้ได้เพราะปกติผมเป็นคนไม่ชอบทานเสาวรสแต่เป็นคนชอบทานครีมบูเล่
บรรยากาศที่ห้องอาหารยามเย็นถือว่าสวยมากๆคือมานั่งจิบไวน์ชมวิวเมืองไปพรางนี่คือสุดยอดเลยนะ
บทสรุป G&G La VIE – Creative French Cuisine
ถือว่าเป็นห้องอาหารหนึ่งที่คนรักเนื้อไม่ควรพลาดด้วยคุณภาพและราคาที่เราว่าคุ้มค่าสุดๆ
- ทั้งเนื้อ Tomahawk และ Striploin ย่างมาได้กำลังดีเนื้อนุ่มอร่อยมากๆ
- มีการเสิร์ฟ Complimentary ทั้ง Appetizer และ Dessert ให้ทานเป็นคอร์สตามสไตล์อาหารฝรั่งเศษ
- โปรโมชั่น G&G ของ Tomahawk และ Striploin มีถึงสิ้นเดือนาิงหาคม 2560 เท่านั้นแต่ โปรโมชั่น G&G นี้จะมีเปลี่ยนชิ้นส่วนของของเนื้อไปเรื่อยๆในเดือนถัดๆไป
- ราคาเมื่อเทียบกับระดับโรงแรมและคุณภาพของอาหารแล้วถือว่าไม่แพงเลยคุ้มค่ามากๆ
ข้อมูลเพิ่มเติม
- Promotion G&G http://www.viehotelbangkok.com/offers/grainsandgrapes/
- Facebook VIE Hotel Bangkok, MGallery by Sofitel https://www.facebook.com/viebangkok/
- เว็บไซต์โรงแรม http://www.viehotelbangkok.com
- สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 02 309 3939
หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ ฝากคอมเม้นท์ ไลค์ แชร์ ก็จะเป็นกำลังใจอย่างยิ่ง หรือหากอยากติดตามประสบการณ์ดีๆไปกับพวกเราเพียง Bookmark http://www.travelplanetx.com หรือติดตามได้ที่ Facebook Fan Page: Travel Planet Xperiences ได้เลยจ้า