Aug-2017
โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน พักสบายพร้อมดื่มด่ำความงามริมโค้งน้ำ เจ้าพระยาที่สวยที่สุดในกรุงเทพ
โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน
พักสบาย พร้อมดื่มด่ำความงามริมโค้งน้ำเจ้าพระยาที่สวยที่สุดในกรุงเทพ
ในวันหยุดสุดสัปดาห์ของชาวกรุง ฯ หากคิดจะพักผ่อนสบายๆชมวิวสวยๆในกรุงเทพมหานคร วิวที่สวยงามย่อมหนีไม่พ้นริมโค้งแม้น้ำเจ้าพระยา หนึ่งในโรงแรมห้าดาวที่วิวแม่น้ำเจ้าพระยาสวยที่สุด ย่อมหนีไม่พ้น โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน
ช่วงนี้เรายังเดินทางไปต่างจังหวัดไกลๆมากไม่ได้เนื่องจากเพิ่งผ่าตัดหลังมาแต่เราก็อยากพาน้องโฟกัสออกไปท่องเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง เพราะเราสังเกตว่าทุกครั้งที่น้องโฟกัส ได้ออกเดินทาง ได้ท่องเที่ยว นอกสถานที่ น้องโฟกัสจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆเสมอ ชวงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาเราเลยถือโอกาสพาน้องโฟกัสมา Staycation ที่โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน
ซึ่งครั้งนี้เราเลือกที่จะพักห้อง Club Deluxe River View ซึ่งก็คือห้องพัก Type deluxe นั่นเองแต่เพิ่มสิทธิ์ในการเข้าใช้งาน Sheraton Club ซึ่งเป็นเล้าจน์ ที่สามารถใช้บริการได้ทั้งวันรวมถึงมี afternoon tea และ Complimentary hors d’oeuvres and cocktails ในช่วงเย็นด้วย
โรงแรมรอยัลออคิดเชอราตันตั้งอยู่ที่ ถนนเจริญกรุงซอยกับตันบุช ใกล้ๆกับไปรษณีย์กลางบางรัก อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาติดท่าเรือสี่พระยาเลย ซึ่งโรงแรมมีบริการเรือรับส่งจากท่าเรือสาทรทุกครึ่งชั่วโมง ครอบครัวเราขับรถไปกัน พอไปถึงก็สามารถใช้บริการ Valet parking ได้เลย ซึ่งเจ้าหน้าที่เค้าจะมาเอากระเป๋าเราพร้อมให้ tag หมายเลขมาเราเอาไปยื่นตรงที่เช็คอินได้เลยแล้วเค้าจะเอากระเป๋าไปให้เราที่ห้องเอง ใครที่เป็นสมาชิก Starwood Preferred Guest (SPG) หรือจองของที่มีสิทธิ์ Sheraton Club ก็สามารถมาช่องพิเศษได้เลย ของผมจองห้องแบบคลับมามาตรวนี้แล้วเค้าจะพาเราขึ้นไปเช็คอินที่ห้อง Sheraton Club แทนเลย ก็สบายดีนะ
ที่ห้อง Sheraton Club จะเป็นห้องพิเศษที่เฉพาะผู้จองห้องแบบ Club เท่านั้นที่จะสามารถเข้ามาใช้งานได้ ห้องนี้ดียังไง ห้องนี้สามารถใช้บริการได้ทั้งวันตั้งแต่ 6:00 ถึง 22:00 ซึ่งช่วงเช้าที่นี่จะจัดอาหารเช้าแบบ Continental Breakfast ซึ่งแน่นอนว่าจะมีน้อยกว่าห้องอาหารหลักที่ด้านล่าง แต่สิ่งที่ได้คือความเป็นส่วนตัว ความสงบ ความไม่พลุ่กพล่าน และวิวสวยๆ วิวโค้งน้ำเจ้าพระยา และช่วงกลางวันจะเป็นช่วง Afternoon Tea ที่จะมี ชากาแฟ ขนม คุ๊กกี้ ให้ทานได้อย่างไม่จำกัด รวมไปถึงตอนเย็นที่จะมี Cocktail Party Happy Hour ที่มีอาหารร้อนแบบ Canapé Cocktail ให้ทานพร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอร์แบบไม่อั้นเลย คือเอาจริงๆ ทั้งวันถ้ามาพักผ่อนสามารถกินอยู่ที่ห้องนี้ได้เลย
ที่ Club จะมีพื้นที่ 2 ส่วนคือส่วนหน้าบาร์ และส่วนหน้าไลน์อาหาร ซึ่งส่วนแรกเค้าจะจำกัดเฉพาะผู้ใหญ่ ห้ามเด็กเข้ามาวิ่งเล่นครับ แต่อีกส่วนเด็กสามารถวิ่งเล่นได้แต่ต้องมีผู้ใหญ่อยู่ด้วยเพื่อไม่ให้ไปรบกวนแขกท่านอื่นๆ
ซึ่งครอบครัวเราก็ใช้ห้อง Sheraton Club นี่แหละเป็นห้องไว้พาน้องโฟกัสมาทานข้าว ลูกเราชอบนั่งชมวิวมาก กินข้าวเพลินเลยละ แถมกินข้าวเสร็จวิ่งมากอดๆขาเราแล้วพูกว่า ชมเวียวๆ (ชมวิว) ด้วยคือจะให้เราอุ้มดูวิวนั่นล่ะ บอกแล้วว่าเวลาลูกเราได้มาที่ใหม่ๆนางจะได้เรียนรู้ ได้อะไรใหม่ๆกลับไปเสมอ
Club Deluxe River View
ห้องที่ครอบครัวเราพักเป็นห้องแบบ Club Deluxe เป็นห้องธรรมดาที่สุดของที่นี่ แต่ของผมเพิ่มสิทธิ์การใช้งาน Sheraton Club เข้าไปด้วย ถือเป็นห้องธรรมดาที่มีขนาดใหญ่ไม่น้อยเลยเตียงคิงไซส์นุ่มๆ และมีโต๊ะทำงานสไตล์โมเดิร์นอยู่ริมหน้าต่างพร้อมกับห้องรับแขก ซึ่งก็ดูเหมาะกับโรงแรมในเมืองดีนะ คือมีโต๊ะทำงานให้พอนั่งทำงานได้ด้วย ซึ่งที่นี่เค้ามีเดินระบบแลนมาให้ด้วย รวมไปถึงมี wifi ให้ใช้ด้วย แน่นอนว่าที่นี่สามารถขอ Baby cot มาได้ด้วยนะ ลูกเราชอบเลยละ
เตียงใหญ่ๆนอนสบายมากเลย สบายขนาดไหนดูจากน้องโฟกัสได้เลย 5555
มุมโต๊ะทำงานการดีไซน์ได้สวยงามเลย
ของใช้ในห้องก็มีครบครัน ตามมาตรฐานโรงแรม 5 ดาวเลย มีไดร์เป่าผมมีตู้เซฟ ที่นี่ดีไซน์ แปลกดีนะ คือเป็นแบบเปิดขึ้นจากลิ้นชัก ขนาดตู้เซฟก็ใหญ่โตดี สามารถใส่ Notebook ลงไปได้สบายๆ
มาดูห้องน้ำกันบ้าง ดีไซน์โปร่งฟ้า กว้างขวาง มีทั้งอ่างอาบน้ำ และส่วนของฝักบัวซึ่งที่นี่มี Rain Shower ให้ใช้งานด้วยนะเออ
นี่เป็นวิวจากห้องพักของเราเลย น้องโฟกัสชอบเดินมาที่หน้าต่างบอกให้เราอุ้มๆดูวิวตลอดเลยละ
มาดูส่วนกลางของที่นี่กันบ้าง โรงแรมจะมีสระว่ายน้ำอยู่สองแห่งที่ชั้น G มีสระว่ายน้ำธรรมดากับสระว่ายน้ำที่อยู่ในสวน ลงสวนจะเดินไกลนิดหนึ่งแต่ว่าร่มรื่นดีและมี Pool Bar ด้วย
ใกล้ๆกันจะมีห้องฟิตเนสเพิ่งเครื่องเล่นถือว่าเยอะทีเดียวและมีเทรนเนอร์ให้ด้วย
Complimentary hors d’oeuvres and cocktails
กลับมาดูที่ Sheraton club ตามที่เกริ่นไปตั้งแต่ตอนต้น ว่าช่วงเย็นผมว่ามันจะมีการจัด happy hours ช่วงเวลา 17:30-19:30 จะมีอาหารร้อนแบบ Cocktail ให้ทานซึ่งจะมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ด้วยอย่างไม่จำกัด แต่ช่วงนี้เค้าจะมีข้อบังคับว่าการเข้ามาใช้บริการจะต้องแต่งตัวแบบ Smart Casual คือห้ามใส่กางเกงขาสั้น และห้ามใส่รองเท้าแตะ แต่ก็ไม่ต้องกลัวไปสำหรับคนที่ไม่ได้เตรียมมาเพราะเค้ามีบริการกางเกงขายาวและรองเท้าหุ้มส้นให้ยืมด้วยละ
อาหารที่จัดในช่วงนี้ถือว่าไม่ขี้เหล่เลยนะ มีเยอะและหลากหลายพอสมควรเลย แล้วก็มีอาหารร้อนที่เป็น Live station ทำสดๆให้ทานด้วย คือเรียกว่าสามารถทานเป็นมื้อเย็นได้เลย แต่ครอบครัวเรามีนัดเพื่อนกันตอนเย็นเลยแวะมานั่งกินแค่นิดเดียว
ของหวานก็ไม่น้อยนะ
Riverside Grill
สำหรับอาหารเย็นผมนัดเพื่อนที่บ้านอยู่แถวๆนี้มากินกันที่ห้องอาหาร Riverside Grill ซึ่งเป็นห้องอาหารแนวเสต็กเฮ้าส์ ห้องอาหารจะอยู่ชั้นล่างของโรงแรมด้านหลังจะเป็นโซนริมน้ำ สามาถไปนั่งชมวิวได้ด้วยนะ ภายในห้องอาหารจะจัดโต๊ะโล่ง มีทั้งโต๊ะ มีบาร์ให้เลือกนั่งตามสบายเลย
…
ช่วงที่ไปเค้ามีโปรโมชั่นแนวจับคู่เสต็กกับไวน์ด้วยนะ แต่ผมไม่ได้สั่งหรอกสั่งเป็นจานมากินแทน จานแรกเป็นสลัดถ้าจำไม่ผิดจะชื่อ Summer Breeze เป็นสลัดที่มีผลไม้อย่างทับทิมผสมลงไปด้วยจากการชิมพบว่า ทานแล้วมันให้ความรู้สึกที่สดชื่นดีนะ
จานต่อมาเป็นเสต็กเนื้อย่าง ที่ย่างมาแบบ Medium ถือว่าย่างได้กำลังดีทานแล้วนุ่มมาก สามารถทานโดยไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้ม หรือราดซอสเลยก็อร่อยแล้ว และที่เข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อคือเครื่องเคียงที่เป็นมะเขือเทศเชอรี่ย่างเกลือ ทานไปออกเปรี้ยวๆเค็ฒๆ ตัดความเลี่ยนของเนื้อได้ดีมากเลย
มาเมนูปลาบ้างเป็น แซลมอนย่าง อันนี้อร่อยมาตรฐาน แซลมอนสด เนื้อนุ่มเครื่องเคียงเป็นมะขือเทศย่างเหมือนเสต็กเนื้อ
เมนูต่อมาจะมีความเป็นไทยมากหน่อย เป็นคอหมูย่างเสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียวและน้ำจิ้มแจ่ว ต้องบอกว่าอาหารไทยอร่อยไม่แพ้อาหารชาติไหนๆ อิอิ เนื้อหมูย่างแดงๆพอนุ่มๆ ทานคู่กับข้าวเหนียวร้อนจิ้มอจ่วนิดส์นึงอร่อยเหาะไปเลย
เมนูข่าวสุดท้ายนี่สั่งมาให้น้องโฟกัส เป็นปลากะพงย่าง คือตอนแรกบอกเค้าให้ช่วยแบ่ง ปลากะพง ชิ้นเล็กๆให้หน่อย แล้วย่างแบบไม่ต้องใส่เกลือไม่ต้องปรุง แต่ตอนเสิร์ฟเชฟเลยจัดมาให้ 2 ชิ้นเลย ชิ้นที่ปรุงมาเลยเป็นหน้าที่อิพ่อเลย 5555
สรุปแล้วที่ Riverside Grill ถือเป็นห้องอาหาร Grill ที่เน้นบรรยากาศแบบสบายๆ ซึ่งมีพื้นที่เอ้าท์ดอร์ริมน้ำด้วยนะ แต่ขช่วงที่ผมไปมีฝนตกเราเลยนั่งกันด้านในซึ่งที่นั่งก็จัดค่อนข้างกว้างขวางสบายๆ อาหารถือว่าอร่อยมาก ซึ่งช่วงนี้มีโปรจับคู่ทานกับไวน์ด้วยนะ ใครสนใจไปลองทานกันเลยจ้า
Breakfast @ Feast
สำหรับห้องอาหารเช้าจะจัดที่ชั้นล่างที่ห้องอาหาร Feast ซึ่งเป็นห้องอาหารหลักของที่นี่ อาหารถือว่าจัดเต็มตามสไตล์โรงแรมห้าดาว (คำนี้เป็นอีกคำที่น้องโฟกัสพูดได้ในการมาเที่ยวครั้งนี้) ห้องอาหารมีพื้นที่กว้างมีทั้งพื้นที่ด้านในและโซนริมน้ำ แต่โซนด้านหน้าเพดานจะเตี้ยไปซักนิด อาจจะทำให้รู้สึกอึดอัดไปบ้าง
มาดูอาหารกันเริ่มจากโซนอาหารไทย จัดสำรับใส่หม้อดินเผาสวยงาม มีทั้งหมูผัดนน้ำมันหอย ต้มจืด คอหมูย่าง และแกงเผ็ด รวมถึงมีข้าวต้มกับให้ทานด้วยนะ
สลัดและ Cold dish ก็มีไม่น้อย แต่ชีสมีให้เลือกน้อยไปหน่อยแต่ส่วนตัวก็ไม่เคยกินอยู่แล้ว ฮา….
…
มาดูอาหารนานาชาติทั่วไปกันบ้าง ไส้กรอก แฮม เบคอนมากันครบ รสชาติมาตรฐานทั่วไป ส่วนคาร์ดบ ก็มีมาทั้ง หมี่ผัดสไตล์จีน และข้าวผัดกุ้ง และมีแกงกะหรี่ญี่ปุ่นให้ทานด้วยนะ
ส่วน Egg Station ก็มีเมนูไข่ครบครัน และมีเมนูพิเศษ เป็นไข่เจียวต้มยำ รสชาติลิ้นคนไทยอย่างเราแอบเฉยๆ แต่อย่างว่าเค้าต้องทำรสให้ต่างชาติทานได้ด้วยละเนอะ
อาหารเช้าที่นี่จะมีอาหารอินเดียให้ทานด้วย เพราะโซนที่โรงแรมตั้งบริเวณนี้ก็มีแขกมาพักกันไม่น้อยเลย อันนี้ส่วนตัวขอผ่านเช่นกัน
มีอาหารแขกแล้วก็ต้องมีอาหารจีนหน่อย มีติ่มซำให้ทานกัน อร่อยใช้ได้เลย ขนมจีบกุ้งและหมูเต็มๆคำอยู่
ส่วนน้ำก็เป็นน้ำผลไม้คั้นสดๆหลากหลายผลไม้ให้ได้เลือกทานกัน
แต่ตอนที่ผมไปพักอย่างที่บอกไปว่าผมพักห้อง Club Deluxe ซึ่งสามารถใช้บริการที่ Sheraton club ได้ ตอนทานข้าวเช้าผมเลยเลือกที่จะไปนั่งทานที่ Sheraton Club แทนเพราะคนไม่พลุกพล่านมากนัก แต่อาหารก็จะน้อยกว่า โดยอาหารที่มีจะเป็นพวก Continental Breakfast แทนอาหารร้อนจะเป็นพวก ไส้กรอก แฮม อะไรแบบนั้น
หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จน้องโฟกัสก็วิ่งเล่นที่ Club สนุกเลยและที่น้องโฟกัสชอบอีกอย่างคือการนั่งชมวิว ทั้งวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่ชมจากตรง Sheraton Club และวิวเมืองที่ชมจากระเบียงหน้าห้อง คือ จากเด็กที่วิ่งเล่นไม่หยุดพอได้มาเห็นวิวสวยๆของที่นี่กลับทำให้น้องโฟกัสนิ่งได้ อย่างตอนอยู่ในห้องพัก ก็จะมาจูงๆพ่อแล้วบอกให้อุ้ม แล้วก็พูด ชมวิว
ส่วนตอนสายๆเราเช็คเอ้าท์กันแล้วครอบครัวเราก็นัดเพื่อนมาทาน Sunday Brunch กัน ซึ่ง Sunday Brunch ที่นี่ถือเป็น Sunday Brunch ที่ครอบครัวเราประทับใจเลยหล่ะ เพราะว่ามี Facility และอะไรหลายๆอย่างให้น้องโฟกัสได้เล่นด้วย เรียกว่าเหมาะสำหรับการพักผ่อนในวันครอบครัวอย่างวันอาทิตย์มากๆ เราได้รีวิว Sunday Brunch ไว้แล้วที่นี่ [FEAST สุดยอดซันเดย์บรันช์สำหรับครอบครัวที่ดีที่สุดในกรุงเทพ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน] ช่วงนี้มีโปรโมชั่นด้วยนะคือ มา 4 จ่าย 3 สุทธิแล้วเหลือแค่ 1,546 nett เท่านั้นเอง
ช่วงบ่ายหลังทาง Sunday Brunch เสร็จครอบครัวเรามีโอกาสแวะพาครอบครัวเราไปเดินเที่ยวชม งานนิทรรศการแสตมป์ของพ่อ ๒๔๙๓ เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม ที่จัดที่ไปรษณีย์กลางบางรักมาด้วยละ
บทสรุป โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน
โรงแรมรอยัล ออร์คิด เชอราตัน ถือเป็นโรงแรมห้าดาวริมโค้งน้ำเจ้าพระยาที่ครอบครัวเราชอบมากๆแห่งหนึ่ง เหมาะกับการมานอนพักผ่อนแบบ Staycation ในวันเสาร์ อาทิตย์ที่อยากออกไปเที่ยว แต่ไม่อยากขับรถไปต่างจังหวัด ด้วยทำเลที่ตั้งที่ดี อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาในจุดที่เป็นหัวโค้งพอดี
- มีห้องพักแบบ Club Benefit ที่สามารถใช้บริการ Sheraton Club ได้ซึ่งมีบริการอาหารทั้งวันที่สำคัญช่วงเย็นมี Happy Hour เป็น Cocktail Party มีอาหารร้อนมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ทานไม่จำกัดเลย
- โรงแรมตั้งอยู่ในทำเลที่ดี ติดแม่น้ำเจ้าพระยา วิวสวย โดยรอบคนไม่พลุกพล่าน แต่นั่งรถเข้าไปไม่ไกลก็ถึงสยาม/สีลม/สาทรแล้ว
- พนักงานบริการดีมาก และชอบมาเล่นกับเด็ก เป็นกันเอง
- มีบริการเรือรับส่ง จากท่าเรือสาทร ใต้สถานีรถไฟฟ้า BTS ทุกครึ่ง ชม.
- มีบริการ Valet Parking
- ห้องพักกว้างขวาง
- มี Baby Cot บริการ
- สามารถขอน้ำได้ไม่จำกัด
- อาหารเช้ามีให้เลือกหลากหลาย
สำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้
- เว็บไซต์โรงแรม http://www.royalorchidsheraton.com
- เว็บไซต์ Starwood Preferred Guest
- เช็คราคาและจองที่พักผ่าน expedia.co.th
- เช็คราคาและจองที่พักผ่าน agoda.com
- เช็คราคาและจองที่พักผ่าน booking.com
หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ ฝากคอมเม้นท์ ไลค์ แชร์ ก็จะเป็นกำลังใจอย่างยิ่ง หรือหากอยากติดตามประสบการณ์ดีๆไปกับพวกเราเพียง Bookmark http://www.travelplanetx.com หรือติดตามได้ที่ Facebook Fan Page: Travel Planet Xperiences ได้เลยจ้า