Jun-2017
ทริปเดียว เที่ยว 3 ทวีป ตุรกี จอร์แดน อียิปต์
ทริปเดียว เที่ยว 3 ทวีป ตุรกี จอร์แดน อียิปต์
ความฝันหนึ่งในชีวิตคือเราอยากไปเที่ยวให้ครบทุกทวีปในโลก แต่ว่าการไปแต่ละทวีปก็ใช้เงินและเวลาไม่น้อยเลย ส่วนมากแล้วที่ผ่านมาเราเลยเน้นไปแต่ทวีปตลาดๆก่อน แต่มีทริปหนึ่งที่ตอนแรกตั้งใจจะไปมาก เพราะเป็นทริปเดียวที่เที่ยวทีเดียวได้ 3 ทวีปเลยนั่นคือ ตุรกี จอร์แดน อียิปต์ (ยุโรป – เอเชีย-ตะวันออกกลาง – แอฟริกา) ทริปนี้มีอะไรดีน่าสนใจขนาดไหนไปดูกัน
เมื่อก่อนเราเองไม่เคยคิดนะว่าทริปนึงจะไปเที่ยวที 2-3 ทวีป จนตอนที่เราไป โปรตุเกส-สเปน (สามารถอ่านรีวิวได้ ที่นี่) เพื่อนเราก็ชวนว่าต่อไปเที่ยวโมร็อคโคด้วยมั๊ยนั่งเรือข้ามจากสเปนไปนิดเดียวเอง แต่ทริปนั้นด้วยเวลาไม่พอสุดท้ายเลยไม่ได้ข้ามไป เราก็เลยเอ๊ะ… มันมีทริปที่สามารถเที่ยวพร้อมๆกันได้หลายทวีปแบบนี้ด้วยนี่นา
จนเมื่อต้นปีที่ผ่านมาตอนแรกเรามีแพลนที่จะต้องไปจอร์แดน ก็เลยเปิดแผนที่ดูก็ เอ๊ะ.. มันอยู่ตรงสามเหลี่ยมปลายสุดของทะเลเมดิเตอเรเนี่ยนเลยนี่นา ซึ่งมันเป็นจุดเชื่อมทั้ง 3 ทวีปอย่าง เอเชีย แอฟริกา และยุโรป ตอนนั้นเราเลยตั้งใจว่าจะทำทริป 3 ทวีปนี้ขึ้นมา เพราะ 3 ทวีปที่ว่าก็มีแต่ประเทศเจ๋งๆน่าเที่ยวทั้งนั้น อย่างตุรกีปลายสุดของยุโรปที่มีทั้งกลิ่นอายของเอเชียผสมอยู่ด้วย จอร์แดนที่เป็นเอเชียตะวันออกกลางซึ่งเราเองยังไม่เคยไป และอียิปต์ที่มีมหาปีระมิดแห่งกีซ่าด้วย เราหาข้อมูลอยู่พักใหญ่ก็พบว่ามันเป็นทริปที่โอเคเลย แต่ๆๆๆๆๆๆ ความฝันเรากลับไม่เป็นจริงเพราะ เราป่วยเป็นโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนเสียก่อน ทริปนี้เลยล่มไป แต่เราเห็นว่ามันน่าสนใจมากๆ เลยเอาข้อมูลที่หาๆไว้มารีวิวให้ชมกันดีกว่าว่า ทริปเดียวเที่ยวสามทวีปมันจะเปรี้ยวเด็ดเข็ดฟันซะขนาดไหน
ทั้งนี้ในรีวิวนี้ผมจะไม่ได้รีวิวสถานที่ท่องเที่ยวหรือเดินทางเหมือนรีวิวท่องเที่ยวทั่วไปนะ เพราะผมยังไม่ได้ไปทริปนี้แต่จะเป็นกระทู้ที่ให้ข้อมูลการเที่ยวที่ผมได้หาๆมา ซึ่งผมจะสรุปภาพรวมคร่าวๆ และมีลิงค์ไปยังกระทู้ที่ผมอ่านต้นทางเอาไว้ให้ครับ ส่วนภาพที่ผมเอามาประกอบจะเป็นภาพของเพื่อนของผมที่เคยไปมาแล้วแล้วเอามาอวดผมรวมกับภาพจากเว็บไซต์สต๊อกต่างๆนั่นเอง
เตรียมตัวเรื่องวีซ่า
ทริปนี้เดินทาง 3 ทวีป 3 ประเทศแต่เรื่องวีซ่ากลับไม่ใช่เรื่องยุ่งยากเลย
- ตุรกี ถึงแม้จะอยู่ยุโรปแต่สำหรับคนไทยอย่างเราๆแล้ว ไม่ต้องใช้วีซ่าจ้า อยู่เที่ยวได้ฟรีๆ 30 วันเลยนาจา –> ดูรายละเอียด
- จอร์แดน สามารถทำ Visa on Arrival ได้หรือหากใครซื้อ Jordan Pass ล่วงหน้าก่อนเข้าประเทศและอยู่เที่ยวในจอร์แดนตั้งแต่ 3 คืนเป็นต้นไปก็ฟรีค่า Visa รวมไปถึงคนที่มาเที่ยวจอร์แดนผ่าน Local Tour ก็ฟรีค่าวีซ่าเช่นกัน ซึ่งแนะนำให้ซื้อนะ เพราะยังไงไปจอร์แดนเราก็ไปเพตราอยู่แล้ว ค่าเข้าเพตรา+ค่าวีซ่า ก็เกินค่า Jordan Pass ไปละครับ — ค่าวีซ่า 40 JOD ค่าเข้า Petra 1 วัน 50 JOD — Jordan Pass แบบเข้า Petra 1 วันราคา 70 JOD
- อียิปต์ ถือเป็นประเทศเดียวที่ต้องทำวีซ่าก่อนเดินทาง ซึ่งในสมัยก่อนนั้นคนไทยไปเที่ยวอียิปต์สามารถทำ Visa on Arriaval ได้ด้วยแต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว แต่ขั้นตอนการทำก็ไม่ยากอะไรมีโดยเตรียมเอกสารดังนี้ (ข้อมูลเพิ่มเติมโทรได้ที่เบอร์ 02-726-9831 ถึง 3) หรือดูข้อมูลจากเว็บได้ ที่นี่
1. โหลดแบบฟอร์ม Visa Application
2. เตรียมเอกสารประกอบไปด้วย Passport อายุเหลืออย่างน้อย 6 เดือน
3. สำเนา Passport
4. รูปถ่ายสีพื้นหลังสีขาว ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 1 รูป
5. หนังสือรับรองการทำงานภาษาอังกฤษ / หนังสือแนะนำตัวเองกรณีเป็นฟรีแลนซ์
6. เอกสารการจองตั๋วเครื่องบิน / ที่พัก / กรณีซื้อทัวร์ก็เอาหลักฐานการจองทัวร์ก็ได้
7. หนังสือรับรองฐานะทางการเงิน และ Statement ย้อนหลัง 6 เดือน
8. ค่าธรรมเนียม $25 (ปี 2017)
จากนั้นก็สามารถไปยื่นที่ อาคารสรชัย ชั้น 31 ซึ่งอยู่แถวๆ BTS เอกมัย โดยการขอวีซ่าใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์แต่ความดีงามคือระหว่างนั้นหากเรามีการเดินทางสามารถขอเล่ม Passport ออกมาใช้ก่อนได้เลย
ดังนั้นจะเห็นว่าทริปนี้ถึงไป 3 ประเทศ 3 ทวีปการขอวีซ่าก็ไม่ได้ยากเลย
การเดินทางระหว่างทริป
จริงๆแล้วใน 3 ประเทศนี้เราสามารถไปเริ่มต้นที่ประเทศไหนก็ได้ เพราะเป็นประเทศที่อยู่ใกล้กันอยู่แล้ว แม้จะอยู่คนละทวีปก็ตาม ซึ่งเท่าที่ผมหามาสามารถใช้เรือในการเดินทางระหว่าง 3 ประเทศนี้ได้ด้วยนะ แต่เท่าที่อ่านส่วนใหญ่ไม่แนะนำเพราะใช้เวลานาน โดยเฉพาะเวลาในการผ่านตม. จะเลทกว่าเวลาที่บริษัทเรือไว้ค่อนข้างมาก
ซึ่งสุดท้ายเท่าที่หาแพลนผมมาลงตัวที่ Egypt Air ใช้ในการเดินทางช่วงที่เที่ยว โดยเส้นทาง Istanbul-Cairo-Amman ราคาอยู่ราวๆ 8,000 บาท ทั้งนี้เส้นทางอาจจะเปลี่ยนแปลงได้ตามรูทหลักที่ออกจากกทม.
สำหรับการเดินทางจากไทย จริงๆมีหลากหลายสายการบิน ขึ้นอยู่กับช่วงนั้นๆมีโปรอะไรมากกว่า ไม่ว่าจะเป็น Turkish Airline, Gulf Airline, Royal Jordanian เป็นต้น ราคาขานี้จะอยู่ราวๆ 18,000-25,000 บาทครับ แต่ผมแนะนำว่าถ้าช่วงไหนมีโปรของ Turkiash Airline ให้รีบส่องเลย เพราะถ้าเราไปต่อเครื่องที่ Istanbul ไม่ว่าขาไหนก็แล้วแต่ หากเราต้องต่อเครื่องระหว่าง 6-24 ชม. จะมี Free City Tour และ/หรือ ฟรีโรงแรม 1 คืนด้วยนะ Option นี้พวกฝรั่งชอบมากเลย ซึ่งอันนี้ก็เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาน้อยๆ แต่อยากลงไปวิ่งเล่นที่ตุรกี ก็สามารถลองหาตั๋วเครื่องบินแบบนี้ได้นะ (ดูข้อมูล Free City Tour in Istanbul ได้เลย)
ดังนั้นค่าตั๋วเครื่องบินของทริปนี้ทั้งทริปสามารถหาได้ในราคาราวๆไม่เกิน 30,000 บาท ซึ่งก็ถือว่าไม่ได้แพงเลยนะสำหรับทริปที่บินกันหลายประเทศแบบนี้
—-> หาตั๋วเครื่องบินราคาถูกกับ Expedia.co.th
ทำประกันเดินทางก่อนไป
จริงๆแล้วใน 3 ประเทศที่ผมว่ามานี้เป็นประเทศที่ไม่ต้องการการทำประกันภัยเดินทาง ซึ่งต่างจากการขอวีซ่าเชงเก้นที่ต้องมีการทำประกันภัยเดินทางตามวงเงินที่กำหนด ดังนั้นทริปนี้จะไม่ทำก็ได้ แต่อย่างที่ผมบอกไว้ในหลายๆรีวิวว่า หลังจากการเดินทางไปมาแล้วทั่วโลก ผมเจอเหตุการณ์แปลกมาครบเลย ตั้งแต่ ภูเขาไฟระเบิดทำให้ไฟลท์ยกเลิก กระเป๋าเดินทางไม่มา กระเป๋าเดินทางเสียหาย เครื่องบินเสียไฟลท์ดีเลย์ รถชน ไม่สบายที่ต่างประเทศ ซึ่งพูดเลยว่ามันเกิดบ่อยนะ บางเหตุการณ์อาจจะไม่ได้เกิดกับผมตรงๆ แต่เกิดกับเพื่อนร่วมทริปที่ไปด้วยกัน
ดังนั้นผมจึงฟันธงว่าควรทำกระกันภัยเดินทางไปทุกทริป ไม่ว่าทริปจะใกล้ไกลขนาดไหน และยิ่งทริปนี้เป็นทริปที่ไปประเทศที่มีความไม่สงบภายในอย่างอียิปต์ ตุรกี ส่วนจอร์แดนเองก็ใกล้ๆประเทศที่มีสงครามกลางเมืองอย่างซีเรีย อะไรแบบนี้ ประกันภัยเดินทางโคตรสำคัญ
คำถามคือจะทำประกันภัยเดินทางอะไรบ้าง ซึ่งเราต้องมาดูก่อนว่าประกันภัยเดินทางแบ่งเป็นกี่แบบ โดยทั่วไปประกันภัยเดินทางจะแบ่งเป็น 3 หมวดหลักๆ คือ
- ประกันเรื่องชีวิตและสุขภาพ
- ประกันเรื่องไฟลท์
- ประกันเรื่องทรัพย์สินเสียหาย
ซึ่งประกันเรื่องไฟลท์และประกันเรื่องทรัพย์สิน ก็จะมี Detail ภายในอีกซึ่งขึ้นอยู่กับว่าบริษัทประกันจะเอาอะไรใส่มาให้เรา จากประสบการณ์ของผมสิ่งที่ควรมีเป็นอย่างน้อยนอกจากเรื่องชีวิตและสุขภาพ ที่ทุกที่บังคับทำอยู่แล้วคือ ควรให้มีเพิ่มคือเรื่องกระเป๋าเสียหาย และอีกอย่างที่ควรมีคือประกันเรื่องไฟลท์เลื่อน
ซึ่งผมเองมักเลือกใช้บริการของ TIPINSURE เพราะที่นี่มีแพคเกจประกันภัยเดินทางที่ออกมาค่อนข้างตรงใจกับสิ่งที่ผมอยากได้ ซึ่ง Package Backpack 1 ที่ถูกที่สุดนั้น มีแถมเรื่องประกันกระเป๋าเดินทางเสียหายมาด้วยเลย เทียบกับเจ้าอื่นแล้วไม่มีให้ ค่ารักษาพยายาลก็มีให้สูงถึง 500,000 บาท ซึ่งค่อนข้างเหลือเฟือสำหรับประเทศที่ไป แต่ผมเองส่วนมากแล้วผมจะเลือกทำBackpack 2 เพราะมีเพิ่มเติมประกันเรื่องไฟลท์เลื่อน และดีเลย์ด้วย
หากใครสนใจดูรายละเอียดของประกันภัยเดินทางจาก TIPINSURE สามารถดูได้ที่ https://www.tipinsure.com/ประกันการเดินทางต่างประเทศ
ตุรกี ดินแดน 2 ทวีป
สำหรับประเทศแรกที่ของทริปนี้คือประเทศตุรกี ซึ่งเป็นประเทศที่มีความพิเศษอย่างมาก เพราะเป็นประเทศที่เชื่อมต่อระหว่างทวีปเอชียและยุโรป ซึ่งถ้าเอาจริงๆแล้วดูจากแผนที่เรียกว่าประเทศดูเป็นติ่งของทวีปเอเชียมากกว่าด้วยซ้ำไป ซึ่งทำให้ตุรกีเป็นประเทศในยุโรปที่มีกลิ่นอายของความเป็นเอเชียผสมเข้าไปมากพอสมควร ซึ่งเอเชียในบริเวณนั้นเป็นเอเชียที่เป็นตะวันออกกลาง เลยทำมีวัฒนธรรมและอารยธรรมของมุสลิมมากเป็นพิเศษ ดังจะเห็นได้จาก Landmark หลักของประเทศก็คือ Blue Mosque นั่นเอง
การเดินทาง ในประเทศตุรกีนั้น ด้วยความที่เป็นประเทศที่ค่อนข้างกว้างแต่ว่าเป็นประเทศที่การเดินทางไม่ได้สะดวกสบายเหมือนอยู่ในยุโรปที่มีรถไฟเดินทางได้สะดวกสบายมากๆ แต่สำหรับที่ตุรกีนั้นส่วนมากแล้วการเดินทางที่สะดวกที่สุดจะเป็นรถบัสหรือเครื่องบินนั่นเอง รวมไปถึงการเช่ารถขับก็เป็นอีกวิธีที่สะดวกมาก
เรื่องเงิน เนื่องจากตุรกีไม่ได้อยู่ในเชงเก้นจึงมีการใช้เงินสกุลของตนเองอยู่ ซึ่งสำหรับคนไทยแล้วแนะนำให้แลก USD หรือ EUR แล้วค่อยนำไปแลกที่ตุรกีอีกครั้งจะเป็นสิ่งที่ทำให้ได้เรทเงินที่ดีที่สุด
ระยะเวลาในการเที่ยวที่ตุรกีนั้นโดยทั่วไปจะเที่ยวประมาณ 7-8 วันก็จะครอบคลุมไฮไลท์เกือบทั้งหมด ซึ่งจุดที่คนเที่ยวเยอะที่สุดก็จะหนีไม่พ้น Istanbul และ Cappadocia ซึ่งโดยทั่วไปคนมักจะเที่ยวเป็นวงกลม จาก Istanbul ลง ไป Selcuk –> Bodrum –> Pamukkale –> Antalya –> Konya –> Cappadocia –> Ankara –> Istanbul
แต่ถ้าใครมีเวลาจำกัดก็อาจจะเที่ยวเฉพาะใน Istanbul ก็ได้เช่นกันซึ่งถ้าอยากประหยัดเงินก็อย่างที่ผมแจ้งไว้ที่ต้นกระทู้ว่าลองดูตั๋วเครื่องบินของ Turkish Airline ที่เราใช้ Istanbul เป็นจุดต่อเครื่องระหว่าง 6-24 ชม. จะมี Free Istanbul Tour ให้เที่ยวฟรีๆกันไปเลย (ดูข้อมูล Free City Tour in Istanbul ได้เลย)
รวบรวมรีวิวที่ผมอ่านหาข้อมูล
- ข้อมูลพื้นฐานของการท่องเที่ยวในตุรกี
- 8 เมืองเด็ดในตุรกี
- ขับรถเที่ยววงรอบตุรกี
- แบกเป้เที่ยวหุบเขาเนมรุต
อียิปต์ ย้อนอดีตแห่งมวลมนุษยชาติ
จริงๆส่วนตัวพูดถึงอียิปต์ตอนแรกผมจะนึกถึงแค่ มหาปีระมิดแห่งกีซ่าเท่านั้น ส่วนหนึ่งก็เพราะตั้งแต่เด็กมาเราก็ร่ำเรียนมาว่า หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคโบราณคือ มหาปีระมิดแห่งกีซ่านี่แหละ ซึ่งตอนแรกก็อยากจะเที่ยวแค่นั้นละนะ เพราะกีซ่าเป็นเมืองที่อยู่ติดๆกับไคโรเลย แบบว่านั่งเครื่องมาลงปุ๊บเที่ยวได้เลยอะไรแบบนั้น แต่พอมานั่งอ่านข้อมูลไปเรื่อยๆ ก็พบว่าเห้ย… มันมีที่เที่ยวเยอะเหมือนกันนี่นา
ที่เที่ยวในอียิปต์จะแบ่งออกเป็น 2 โซนคือ
- Lower Egypt (North Egypt) ซึ่งจะมีที่เที่ยวหลักๆคือ Cairo – Giza – Saqqarah – Memphis ซึ่ง 4 อยู่ติดกันมาก จาก Cairo ไปยัง Memphis เนี่ยประมาณ 50 กม. เรียกว่าใกล้กว่า กทม.-อยุธยา เสียอีก ซึ่งในโซน Lower Egypt นั้นอาจจะรวมเมือง Alexandria ซึ่งอยูทางเหนือสุดติดทะเลเมดิเตอเรเนี่ยนไปด้วยก็ได้
- Higher Egypt (South Egypt) บริเวณนี้เป็นแหล่งต้นน้ำของประเทศ Egypt เลยก็ว่าได้ซึ่งที่นี่มีการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ไว้ด้วย ที่เที่ยวบริเวณนี้จะอยู่ไกลกันพอสมควรโดยที่เที่ยวสำคัญๆคือ Aswan – Abu Simbel – Luxor แต่เมืองเที่ยวหลักๆก็มีรถไฟและรถบัสถึงกันหมด
เปรียบเทียบง่ายๆ Lower Egypt คือประวัติศาสตร์ในยุคเก่า ในสมัยที่กรุง Memphis เป็นเมืองหลวงของอียิปต์ ในสมัยนั้นจะมีการสร้างปิระมิดเพื่อใช้ในการฝังพระศพฟาโรห์ แต่เนื่องจากปีระมิดนั้นง่ายต่อการแอบลักลอบเข้าไปทำให้สมบัติที่ถูกฝังไว้กับปีระมิดถูกขโมยไป ในยุคต่อมาที่มีการย้ายเมืองหลวงมาที่ Luxor จึงมีการใช้วิธีขุดภูเขาฝังพระศพของฟาโรห์แทนการสร้างปีระมิดนั่นเอง
การเดินทาง ในอียิปต์นั้นไม่ยากอะไรมีให้เลือกหลายทาง โดยการข้ามระหว่าง Lower – Higher นั้นปกติจะนิยมกัน 3 วิธีคือ
- เครื่องบิน อันนี้ง่ายและเร็วแต่แพงหน่อย และขึ้นชื่อเรื่องการเทลูกค้า (ถ้าผู้โดยสารมีน้อย)
- รถไฟ เป็นรถไฟนอน อารมณ์ กทม.-เชียงใหม่ ใช้เวลา 1 คืน ข้อดีคือประหยัดค่าโรงแรมไปคืนนึง
- เรือ เป็นอีกวิธีที่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะฝรั่งที่มีเวลามากนิยม คือล่องเรือแม่น้ำไนล์ จาก Cairo ลงไปที่ Luxor เลยซึ่งวิธีนี้ใช้เวลา 3-4 วันโดยจะมีการแวะเที่ยวระหว่างทางไปด้วย
ส่วนการเดินทางในแต่ละโซนนั้น ถึงจะมีบริการรถสาธารณะแต่วิธีที่สะดวกและปลอดภัยที่สุดคือใช้ Local Tour โดยให้เค้าจัดเป็นแบบ Private Group อะไรแบบนั้นซึ่งเราสามารถดีไซน์โปรแกรมเที่ยวเองได้ทั้งหมด รวมไปถึงการซื้อพวก One Day Tour ก็เป็นทางเลือกที่ดี เนื่องจากเราจะมีไกด์ส่วนตัวซึ่งจะเป็นผู้ช่วยชั้นดีของเราในการให้ข้อมูลต่างๆ และเป็นกันชนของเรากับคนพื้นเมืองที่มักจะมาหลอก มาสับ มาโขกเอาเงินจากนักท่องเที่ยวอย่างเราๆเสมอๆ
เรื่องเงิน อียิปต์ใช้สกลุเงิน Egyptian pound ซึ่งวิธีที่ง่ายที่สุดก็เช่นเดียวกับที่ตุรกีและจอร์แดนคือการแลกเงิน USD ไปแล้วเอาไปแลกที่อียิปต์เลยนั่นเอง
รีวิวอียิปต์และข้อมูลต่างๆ
จอร์แดน มนต์เสน่ห์เพตรา
สำหรับจอร์แดนนั้นเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มี หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคใหม่ เป็นไฮไลท์ชูโรงนั่นคือ นครศิลาสีกุหลาบอย่าง เพตรานั้นเอง ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผมตั้งใจจะไปอย่างมากเลย
แต่จริงๆแล้วในจอร์แดนยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายอย่างเลย ทั้งทะเลสาปเดดซี การขี่อูฐในทะเลทรายวาดิรัม และพื้นที่รอบๆซึ่งว่ากันว่าเป็นพื้นที่ที่มีความละม้ายคล้ายคลึงกับพื้นผิวบนดาวอังคารมากที่สุด ซึ่งหนังเรื่อง The Martian ก็ใช้จอร์แดนเป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำฉากบนดาวอังคารนั่นเอง
สำหรับระยะเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวที่จอร์แดนจะอยู่ราวๆ 5-7 วัน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเที่ยวเจาะลึกมากน้อยขนาดไหน โดยเฉพาะเพตราที่สามารถเที่ยวได้หลายวันเลย ซึ่งส่วนตัวผมเองแพลนจะไปเที่ยวที่นี่ 2 วันเต็มๆ อีกจุดหนึ่งที่จะเป็นตัวกำหนดระยะเวลาใการเที่ยวคือทะลเทรายวาดิรัม ว่าเราอยากจะไปค้างคืนนอนเต๊นท์กลางทะเลทรายหรือไม่ ซึ่งผมว่ามันเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของการมาเที่ยวจอร์แดนนะ โปรแกรมที่ผมเคยแพลนไว้คร่าวๆจะประมาณนี้
Day 1 Amman
Day 2 Amman – Mt. Nebo – Karak – Petra
Day 3 Petra Day 1
Day 4 Petra Day 2
Day 5 Petra – Wadi Rum – Night Camp
Day 6 Wadi Rum – Dead sea
Day 7 Dead sea-Amman-Amman Citadels
ซึ่งตัวแพลนเที่ยวผมปรับมาจากรีวิวนี้รีวิวเดียวเลย จอร์แดน ดินแดนฟ้าจรดทราย และเมืองในเทพนิยายเพตรา เพราะว่าแพลนตอนแรกที่จะไปทริปนี้ก็คือไปกับพี่ตั้มจากเพจ แบกเป้เท่ทั่วโลก / tummengtravel.com นี่ละ
คือนอกจากรูปแล้วเพื่อนผมยังเอาคลิปตอนไปจอร์แดนรอบก่อนมาอวดผมด้วย ผมเลยเอามาอวดเพื่อนๆทุกคนอีกทอดนึงนะจะได้ดูว่ามันน่าไปขนาดไหน
ใครที่ใช้ผ่านมือถือแล้วคลิปไม่ขึ้นตามไปดูได้ที่นี่เลย https://youtu.be/pFgmylnEnAM
การเที่ยวที่จอร์แดนจะเป็นการเที่ยวลูกผสมระหว่างการเที่ยวเองกับการใช้ Local Tour ของบริษัททัวร์ที่จอร์แดนเช่นเดียวกับการเที่ยวที่อียิปต์ หลายคนโดยเฉพาะคนที่บอกว่าตัวเองเป็น Backpacker มักยี้เวลาได้ยินคำว่าทัวร์ แต่ส่วนตัวเราเองหลายๆทริปที่ผ่านมาก็ใช้บริการทัวร์แบบ Local Tour นี่ละเพราะสะดวกกว่า และหลายครั้งถูกกว่าการเดินทางไปเที่ยวเองด้วย ซึ่ง Local Tour เหล่านี้ก็มีให้เลือกหลายแบบ ไม่ได้เป็นทัวร์แบบชะโงกทัวร์แบบที่ออกจากเมืองไทย ดังนั้นเลยเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ตอบโจทย์การเที่ยวผมได้ดีเลย
ทริปเดียว เที่ยว 3 ทวีป ตุรกี จอร์แดน อียิปต์
จะเห็นว่าทริปเดียวเที่ยว 3 ทวีปทริปนี้ที่ไป ตุรกี จอร์แดน อียิปต์ นั้นไม่ได้เป็นทริปที่สักแต่ว่าจัดมาให้ดูเกร๋ๆนะ เพราะทั้ง 3 ประเทศนี้ล้วนแต่มี Landmark สำคัญระดับโลกในแบบที่ประเทศอื่นๆไม่มีเลย แถมยังมีสถานที่ที่ติดอันดับสิ่งมหัศจรรย์ของโลกทั้งยุคเก่าและยุคใหม่อีกตะหาก (มหาปีระมิดแห่งกีซ่าที่อียิปต์ และ เพตราที่จอร์แดน) ถึงแม้จะเสียดายที่ทริปนี้ผมต้องยกเลิกไป เนื่องจากต้องไปผ่าตัด
แต่ก็ยังโชคดีที่ผมทำประภัยเดินทางจาก TIPINSURE ไว้ เพราะมันมีในส่วนของประกันเรื่องการเลื่อนหรือการบอกเลิกเดินทาง ซึ่งในเคสของผมก็เข้าเกณฑ์เจ็บป่วยหนักที่ไม่สามารถเดินทางได้ ทำให้สามารถเคลมค่าตั๋วเครื่องบิน/ค่าที่พักได้ แน่นอนถึงจะเคลมได้ไม่ครบแต่ก็ถือว่าช่วยได้เยอะเลยทีเดียว
แต่แน่นอนว่าหากผมหายดีจากการผ่าตัดแล้ว ผมจะหาช่วงเวลาไปเที่ยวทริปนี้แน่ๆ แล้วจะเอาภาพสวยๆและประสบการณ์ดีๆมาฝากทุกคนกันอย่างแน่นอนครับ
หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ ฝากคอมเม้นท์ ไลค์ แชร์ ก็จะเป็นกำลังใจอย่างยิ่ง หรือหากอยากติดตามประสบการณ์ดีๆไปกับพวกเราเพียง Bookmark http://www.travelplanetx.com หรือติดตามได้ที่ Facebook Fan Page: Travel Planet Xperiences ได้เลยจ้า