Mar-2017
REVIEW – สาบานรักใต้ต้นอินจัน ปล่อยใจไปกับตะวัน ชมจันทร์ริมโค้งแม่น้ำแคว ที่ U Inchantree Kanchanaburi
สาบานรักใต้ต้นอินจัน ปล่อยใจไปกับตะวัน ชมจันทร์ริมโค้งแม่น้ำแคว ที่
U INCHANTREE KANCHANABURI
สมัยเราสองคนยังคบกันเป็นคู่รัก เรายังพอมีเวลาพากันไปเที่ยว ไปสวีท ในสถานที่โรแมนติกได้บ่อยๆ แต่พอครอบครัวเราเริ่มขยาย เริ่มมีลูก ความสวีทที่มีไม่ได้ลดน้อยลง แค่เปลี่ยนรูปแบบเป็นความรัก ความเข้าใจ ในครอบครัวเล็กๆ ของเรา ครั้งนี้ เราเลยลองจูงมือกันไปพักผ่อนในสถานที่สุดโรแมนติก ริมแม่น้ำแคว ที่โรงแรมยู อินจันทรี กาญจนบุรี (U Inchantree Kanchanaburi) โรงแรมที่มีสไตล์เฉพาะตัว อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครเพียง 120 กม. ตั้งอยู่ริมโค้งแม่น้ำแคว ซึ่งสามารถนั่งจิบกาแฟชมอาทิตย์อัสดงในช่วงโพล้เพล้ พร้อมฟังเสียงหวูดรถไฟจากสะพานข้ามแม่น้ำแคว ที่เห็นอยู่ริมคุ้งน้ำ ไม่ไกลจากที่พักมากนัก
เราวางแผนไว้ว่า จะพาลูกไปดูรถไฟวิ่งผ่านสะพานข้ามแม่น้ำแควแบบใกล้ๆ เป็นครั้งแรกในชีวิต เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ให้ลูก เลยจองมาพักที่ โรงแรม ยู อินจันทรี กาญจนบุรี 2 คืน ที่นี่เราสามารถพากันเดินจากโรงแรมไปดูรถไฟได้สะดวกมาก เพราะโรงแรมตั้งอยู่ใกล้สะพานข้ามแม่น้ำแควมากๆ เดินแค่ 200 เมตร เท่านั้น ไม่ต้องไปวนหาที่จอดรถให้เสียเวลา
โรงแรม ยู อินจันทรี กาญจนบุรี ตั้งอยู่ที่พิกัด 14.044050, 99.501553 การเดินทางสามารถขับรถทะลุตัวเมืองกาญจนบุรีมาได้เลย หรือจะขับอ้อมเมืองหลีกแยกไฟแดงแล้วค่อยวกกลับมาก็ไม่ไกลนัก
ที่จอดรถของโรงแรมมีพอสมควร ถือว่าจอดได้สะดวกสบาย เดินเข้ามาก็เจอล็อบบี้เลย ตัวล็อบบี้จะตกแต่งสไตล์ไทยๆ เปิดโล่งให้รับลมจากภายนอก ถือว่าดีต่อใจมากๆ สำหรับครอบครัวเมืองหลวงอย่างเรา ที่วันๆ อยู่แต่ในห้องแอร์เป็นหลัก
ตอน check in ทางพนักงานต้อนรับจะให้เราเลือกสบู่กลิ่นต่างๆ ที่ชอบ 1 ก้อน เราก็ให้น้องโฟกัสช่วยเลือกให้ ได้สบู่หอมกลิ่นตะไคร้มา หอมดีนะ ความดีงามอย่างแรกเลยของการมาพักที่โรงแรมเครือยู คือ สามารถพักในรูปแบบเต็ม 24 ชม. ไม่มีการกำหนดเวลาเช็คเอ้าท์ เช่นมาถึงโรงแรมบ่าย 3 ก็สามารถอยู่จนเช็คเอ้าท์วันกลับได้ตอนบ่าย 3 เลย ซึ่งดีต่อครอบครัวเรามาก เพราะเวลาพาลูกไปเที่ยวด้วยเรากะเวลาลำบากนะ เพราะพอเค้าตื่นเค้าก็อยากจะลุกจากคาร์ซีทมาเดินเล่นไปมา บางทีไปไหนใกล้ๆเนี่ยใช้เวลามากกว่าปกติไปเยอะเลย แต่มาที่ยูไม่ต้องกลัวเพราะถึงมาช้าเราก็ได้พักยาวๆครบรอบ 24 ชม.เต็มๆจ้า
จากที่นั่งรอตรงล็อบบี้สามารถพักสายตามองมาเห็นต้นอินจัน ต้นไม้ใหญ่ซึ่งหายากในปัจจุบัน ตั้งตระหง่านอยู่กลางพื้นที่สวน ต้นอินจันต้นนี้อายุอานามก็ปาเข้าไป 200 กว่าปีแล้ว ถือว่าเป็นต้นรุ่นคุณทวดได้เลย
พอไปลองอ่านเรื่องราวใต้ต้นอินจันต้นนี้ จึงทราบว่า ในอดีต ต้นอินจันเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคงในรักของชายหญิง ที่ต่างมีรักนิรันดร์มอบให้แก่กัน หูย……โรแมนติคอ่ะ ใครที่เป็นคู่รักนี่ควรมาพักที่นี่เพื่อเสพความโรแมนติคใต้ต้นอินจันสักครั้งหนึ่งในชีวิตเลยนะ
พื้นที่โรงแรมไม่ใหญ่เกินไป สามารถเดินเล่นได้ อาคารห้องพักเป็นอาคาร 2 ชั้น ล้อมรอบด้วยสนามหญ้า และสวนต้นไม้ โดยห้องพักแบ่งเป็น 2โซน ซึ่งทั้ง 2 โซนอยู่ติดกัน เดินหากันได้ไม่ไกลมาก
โซนแรกเป็นโซนเดิมมีห้อง Superior / Suite
โซนที่ 2 เป็นโซนใหม่ ซึ่งเป็นห้อง Deluxe ทั้งหมด
บริเวณส่วนกลางตั้งอยู่หลังล็อบบี้ไปเล็กน้อย จะมีห้องสมุด ไว้ให้แขกนั่งอ่านหนังสือ หรือนั่งทำงาน มองออกไปเห็นวิวสวน และวิวแม่น้ำแคว บรรยากาศสงบเงียบ เหมาะแก่การนั่งคิดสิ่งสร้างสรรค์ในวันพักผ่อนจริงๆ
ใกล้ๆ กัน มีห้องออกกำลังกายเล็กๆ ให้แขกที่รักสุขภาพมาใช้เครื่องออกกำลังกายได้
Suites Room
ห้องสวีทจะอยู่โซนเก่าซึ่งมีเพียง 4 ห้องเท่านั้น ตัวห้องจะแบ่งเป็น 2 โซนคือ โซนห้องนอนและโซนห้องรับแขก ห้องนอนขนากกำลังดีเตียงนอนใหญ่โตนอนหลับสบายที่หัวมุมเตียงไม้มีการหุ้มนวมไว้กันคนเอาขาไปเตะด้วย
ห้องรับแขกมีมุมให้นั่งเล่นนั่งดูทีวีสบายๆ
ที่นี่จะมีกาต้มน้ำ และกาแฟซองให้บริการกับแขกฟรี ส่วนน้ำดื่ม จะแช่เย็นไว้ให้ 2 ขวด และแขกสามารถเลือกเครื่องดื่มจากในตู้เย็นได้ฟรี คนละ 1 ชนิด เป็น Welcome Drink ได้เลยซคางมีเบียร์ให้ดื่มด้วยนะ แต่เราเลือกน้ำเสาวรสดอยคำ และโค้ก แก้กระหายตอนหน้าร้อนอย่างนี้ได้ดีเลย
ห้อง Suite นี้จะมีอ่างอาบน้ำให้แช่เล่นด้วยนะ โรงแรมจะจัดเตรียมสบู่เหลว และแชมพูให้พร้อมกับสบู่ก้อนที่เราได้เลือกตั้งแต่ตอนเช็คอิน
แถมยังมีโต๊ะเล็กๆ ตรงระเบียง ไว้ให้ชมสวนอีก
จริงๆตอนแรกเราอยากมาพักห้องนี้เพราะว่าอยากได้พื้นที่เป็นสัดส่วนแยกจากห้องนอน จะได้นั่งทำงานนั่งชิวระหว่างลูกหลับได้ แต่น่าเสียดายวันที่พวกเราไปห้อง Suite เต็มจ้า
Superior Room
ห้องซูพีเรียนั้นจะอยู่ในโซนเก่าทั้งหมดเช่นกัน การตกแต่งห้องพักของที่นี่จะคล้ายๆ กัน ต่างกันตรงพื้นที่ห้องแต่ละชนิด ห้องซูพีเรียพื้นที่ห้องจะน้อยกว่าห้องสวีท แต่ก็ถือว่า อุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ ก็มีครบครันเหมือนกัน ซึ่งตัวห้องในโซนนี้จุดเด่นอย่างหนึ่งคือจะมีหน้าต่างทั้ง 2 ด้านทำให้ห้องดูโปร่งสบายไม่อึดอัด แต่เมื่อถึงเวลานอนเพียงรูดม่านห้องก็จะมืดสนิทพร้อมต่อการพักผ่อนทันที
อ้อ ห้องซูพีเรีย จะไม่มีอ่างอาบน้ำให้แช่นะ จะเป็นฝักบัวอาบน้ำแทน
Deluxe Room
ห้องแบบดีลักซ์จะเป็นห้องที่อยู่ในโซนใหม่ทั้งหมด ซึ่งพวกเราก็มาพักกันที่ห้องแบบนี้นี่แหละ โซนนี้อยู่ติดกับอาคารเดิม เดินเชื่อมถึงกันโดยมีทางเดินให้หลบแดดตลอดทาง
ที่ผนังหัวนอนจะมีภาพสะพานข้ามแม่น้ำแควติดไว้ ออกแนวฮิปๆ หน่อย เราชอบนะ ห้องนอนมีให้เลือกทั้งห้อง Twin และ Double
ริมหน้าต่างกระจก จะมีโซฟาเอนกประสงค์ไว้ให้ด้วย ไว้นอนกลางวันก็สบาย นั่งกินข้าวก็ได้ เปลี่ยนผ้าอ้อมลูกก็สะดวก สำหรับคนที่พาเด็กเล็กมาด้วย ควรเอาผ้ายางรองเปลี่ยนผ้าอ้อมแบบบางๆ มาด้วย ป้องกันเลอะเทอะ ส่วนลูกใครจะนอน Baby cot ก็สามารถขอได้นะ โรงแรมเค้ามีบริการจ้า
ห้องน้ำกะทัดรัด ตกแต่งโมเดิร์น มีอุปกรณ์ให้ครบ และสามารถเปิดมูลี่ชมวิวได้ด้วย
ตัวห้องอาบน้ำแบบฝักบัว มีที่นั่งอาบให้ด้วย แก้เมื่อย เผื่อใครอาบนาน ส่วนครอบครัวลูกอ่อนอย่างเราเหรอ ขอเรียกว่าวิ่งผ่านน้ำดีกว่า 55 แต่พวกเราก็เอาที่นั่งนี้มาประยุกต์ในการวางอ่างอาบน้ำพกพาของลูกทำให้ไม่ต้องนั่งหลังขดหลังแข็งอาบน้ำให้ลูกก็สบายดีนะ
เตียงที่นี่ใหญ่พอควร ขนาด 6 ฟุต สามารถนอนกันพ่อแม่ลูกได้ ถ้าลูกยังเล็ก และพ่อแม่ตัวไม่ใหญ่มากนะ แต่ครอบครัวเราตัวใหญ่กันหมด (ยกเว้นลูกยังเล็กอยู่นะ) พ่อเลยต้องระเห็ดไปนอนโซฟาตามระเบียบ เตียงเลยกลายเป็นของแม่ลูกนอนกอดกันกระหนุงกระหนิง
ที่โรงแรมยู อินจันทรี กาญจนบุรี นี่อากาศตอนเช้าๆ กับตอนโพล้เพล้ ดีมากๆ นะ แนะนำให้ลองมาเดินเล่น หรือว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำส่วนกลางก็ได้ ตอนเรามา มีชาวต่างชาติที่ชอบความเงียบสงบมานอนเล่นบ้าง ว่ายน้ำบ้าง แช่น้ำบ้าง เพราะสระว่ายน้ำที่นี่หันออกไปทางแม่น้ำแคว เห็นโค้งแม่น้ำแควสวยๆ เห็นพระอาทิตย์ตกน้ำ ซึ่งสวย สงบ โรแมนติคมาก และข้อดีอีกอย่างของที่นี่คือ สระว่ายน้ำเปิดยาวๆถึง 4 ทุ่มเลยจ้า.. ใครมาเที่ยวก็ไม่ต้องกลัวว่ากลับมาโรงแรมดึกจะไม่ทันว่ายน้ำเล่น
หรือใครจะมานั่งเล่น นอนเล่น ริมน้ำ ชมพระอาทิตย์ตกน้ำก็ได้ วันที่เรามาฟ้าใสกิ๊ก พระอาทิตย์จึงตกสวยมาก ท้องฟ้าเป็นสีส้มอมชมพูเลย
Dinner @ The TERRACE
หากใครมากันเป็นคู่ เราอยากให้มาลองทานอาหารกันที่ห้องอาหารโซน The Terrace ซึ่งตั้งอยู่ริมคุ้งแม่น้ำแคว ทานอาหารไปพลาง ชมพระอาทิตย์ตกไปพลางๆ ชื่นใจ โรแมนติคที่สุด
โต๊ะที่อยู่บนระเบียงริมน้ำมีไม่เยอะมาก หากใครต้องการมานั่งชมพระอาทิตย์ตกตรงนี้ ควรจองกับทางโรงแรมก่อนก็ดีนะ จะได้ไม่พลาด แต่ถ้าใครไม่ซีเรียสอะไร ที่นั่งโซนอื่นๆ ของห้องอาหาร The Terrace อยู่ติดริมน้ำหมด สามารถทานอาหารไป ชมพระอาทิตย์ตกไปได้เหมือนๆ กัน เพียงแค่โต๊ะตรงระเบียงริมน้ำจะรู้สึกสงบ และโรแมนติคมากกว่าเท่านั้นเอง
ตอนเรามาทานอาหาร เราลองสั่งอาหารที่เป็น Signature Menu ของที่นี่มาชิมดู ถือว่ารวมๆ แล้วทำออกมาได้ดี ให้อาหารจานใหญ่ มีทั้งอาหารฝรั่งและอาหารไทยครบครัน
แฮมเบอร์เกอร์ชิ้นนี้ถือว่าใหญ่โตครบเครื่องมากๆ ซึ่งเราชอบนะเพราะให้ผักมาเยอะดี
อีกจานที่เราชอบ จะเป็นยำปลาดุกฟู และต้มยำกุ้ง ซึ่งเราว่าที่ห้องอาหารนี้ทำอาหารไทยๆ อร่อย รสชาติถึงเครื่องนะ
Breakfast Anywhere Anytime
เป็นที่รู้กันว่า โรงแรมในเครือ ยู เราสามารถทานอาหารเช้าที่ไหนก็ได้ เวลาใดก็ได้ ในคอนเซปท์ whenever wherever ใครชอบนอนตื่นสายๆ ก็สั่งไปทานที่ห้องได้นะ แต่เราเลือกที่จะทานที่ห้องอาหารมากกว่า เพราะได้ชมวิวแม่น้ำแควไปด้วย ซึ่งน้องโฟกัสชอบมาเลยหล่ะ ตอนเช้าอากาศดี มีหมอกจางๆกลางคุ้งน้ำ สวยมากๆ
สวย สงบ ดีต่อใจ สุดๆ….
อาหารเช้าก็มีให้เลือกประมาณหนึ่ง มีพวกขนมปัง สลัด ผลไม้ cold dish
อาหารไทย จะเป็นพวกข้าวผัด ผัดหมี่ ข้าวต้ม และกับข้าวซึ่งหมุนเวียนเปลี่ยนไปในแต่ละวัน
มีซุ้มสารพัดไข่ให้ด้วย ตอนเราไปเราชอบทานไข่เจียวแบบไทยๆ ที่ใช้น้ำมัน ไม่เอาเนย เชฟที่นี่ก็ทำให้ อร่อยด้วยล่ะ
มีแฮม และไส้กรอก ให้ด้วยนะ
น้ำผลไม้ และผลไม้สด ตามฤดูกาล
เราไปเที่ยวแค่ 3 วัน 2 คืน ยังรู้สึกได้ชัดเจนว่า ที่โรงแรมยู อินจันทรี กาญจนบุรี เป็นโรงแรมอีกแห่งหนึ่ง ที่คนกรุงอย่างเราสามารถไปพักผ่อน เพื่อชะล้างความวุ่นวายในชีวิตออกไป และเก็บความสงบเข้ามาแทนที่ หากใครอยากไปพักที่สงบๆ เพื่อปล่อยใจ ที่นี่ก็เป็นอีกที่ที่สามารถเก็บไว้ในลิสต์ได้เลยทีเดียว แถมยังเป็นที่ที่สามารถมาได้ทุกอาทิตย์เพราะใกล้กรุงเพียง 120 กม.เท่านั้น
บทสรุป โรงแรมยู อินจันทรี กาญจนบุรี (U Inchantree Kanchanaburi)
เป็นอีกโรงแรมที่พวกเราชอบ ด้วยการตกแต่งที่สวยงามมาจากรากเง้าของพื้นที่ทั้งต้นอินจัน และการนำภาพสะพานข้ามแม่น้ำแควที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์มาใช้ในการตกแต่งที่พักได้อย่างลงตัวรวมไปถึงบริการมากมายที่หาได้เฉพาะที่โรงแรมเครือยูเท่านั้น
- โรงแรมอยู่ที่ตัวเมืองกาญจนบุรีเพียง 120 กม. จากกรุงเทพฯ ก็จะได้พักผ่อนแบบสงบๆแล้ว ซึ่งสามารถมาได้ง่ายทุกอาทิตย์ไม่จำเป็นต้องรอวันหยุดยาว
- โรงแรมตั้งอยู่ใกล้สะพานข้ามแม่น้ำแคว สามารถเดินไปชมรถไฟ และสะพานข้ามแม่น้ำแควได้สะดวกเพียง 200 เมตรเท่านั้น
- สามารถใช้ห้องได้แบบ 24 ชม.เต็มๆ เช็คอินกี่โมงก็เช็คเอ้าท์ในเวลาเดียวกัน
- อาหารเช้าเป็นแบบ whenever wherever จะกินกี่โมงจะกินที่ไหนตามใจยูจัดให้
- บรรยากาศภายในโรงแรมสงบเงียบ รุ่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่มากมาย เหมาะแก่การพักผ่อน
- ห้องพักสะดวก สบาย มี Baby cot ให้ใช้ สามารถพาเด็กเล็กมาเที่ยวได้
- ทางเดินรอบโรงแรมสามารถเข็นรถเข็นได้สะดวก ทำให้สามารถพาเด็กเล็ก หรือคนชรา หรือผู้พิการ มาเที่ยวได้สะดวก แต่ต้องจองห้องพักที่อยู่ชั้นล่าง หากจองห้องพักชั้น 2 ที่นี่จะไม่มีลิฟต์ ต้องเดินขึ้นบันได
- สระว่ายน้ำ และห้องอาหาร อยู่ริมแม่น้ำแคว สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำได้สวยงาม โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ตก
สำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้
- เว็บไซต์โรงแรมยู อินจันทรี กาญจนบุรี
- เช็คราคาและจองที่พักผ่าน expedia.co.th
- เช็คราคาและจองที่พักผ่าน agoda.com
- เช็คราคาและจองที่พักผ่าน booking.com
- Voucher Code ลด 10% ของ expedia.co.th
- SCBEXP0516
หากคุณชอบรีวิวของเรา เพียงแค่ ฝากคอมเม้นท์ ไลค์ แชร์ ก็จะเป็นกำลังใจอย่างยิ่ง หรือหากอยากติดตามประสบการณ์ดีๆไปกับพวกเราเพียงแต่ Bookmark http://www.travelplanetx.com หรือไม่ก็สามารถติดตามได้ที่ Facebook Fan Page: Travel Planet Xperiences ได้เลยจ้า