Nov-2016
Ribstory ร้านที่ไม่ได้มีดีแค่ Rib
Ribstory ร้านที่ไม่ได้มีดีแค่ Rib
มีใครชอบทานพวก BBQ Ribs เหมือนกุ้งกันมั้ยคะ กุ้งเองชอบทานมากเลย แต่ว่าเดี๋ยวนี้หาร้านถูกปากในราคาสมเหตุสมผลยากจัง บางร้านที่กุ้งชอบ พอปิดสาขาหลักไป สาขาที่เหลือก็บริการไม่ดีเลย ถึงจะราคาค่อนข้างสูง แต่ถ้าอร่อยกุ้งก็โอนะคะ แต่ถ้าบริการไม่ดี ต่อให้อาหารอร่อยแค่ไหนกุ้งก็ขอบายดีกว่า จนกุ้งได้มาเจอร้านนี้ ซึ่งพูดตรงๆเลยค่ะว่าด้วยรสชาติ, ปริมาณ, บริการ, และราคา เฮ้ย กุ้งโอเคมากๆเลย และนั่นคือเหตุผลที่วันนี้มารีวิวแบบเต็มๆให้อ่านกันร้านนี้คือร้าน “Ribstory” ค่ะ
ร้าน “Ribstory” ค่ะ อยู่ที่ซอยลาซาล 46 นี่เอง ไม่พูดพล่ามทำเพลงมากดีกว่า เรามาหม่ำๆกันเลยเอาภาพรวมๆไปดูก่อนเลยน้าาาา
และมาเริ่มที่เมนูแรก ไฮไลท์เลยละกันค่ะ มาร้าน Ribstory ก็ต้องสั่ง Ribs สินะ
1. Full Rack BBQ Ribs (499 บาท) – มาเสิร์ฟตอนแรกตกใจเลยค่ะ ชิ้นเท่าบ้าน ใหญ่มากจนกลัวกินไม่หมด (แต่หมดค่ะ 555) โดยจานนี้เลือก side dish ได้ 2 อย่าง และกุ้งเลือกมันอบเนยกับข้าวโพดหวานไปค่ะ จานนี้ตัวเนื้อติดซี่โครงกริลล์มากำลังดี นุ่ม ไม่แข็งและไม่ยุ่ย กลิ่นหอมรมควันเข้าเนื้อดีค่ะ ตัวซอสบาร์บีคิวทำมาจัดจ้านถึงใจมาก คือเทียบกับราคา 499 บาทแล้วขอบอกว่าไม่แพงเลยค่ะ (แต่ถ้าร้านมาอ่านเจอ ก็อย่าเพิ่งขึ้นราคานะ รักษาราคานี้ไปนานๆ ^^)
ชิ้นใหญ่บึ้ม ทาซอสถ้วนทั่ว
แบ่งสรรปันส่วน
ส่วนถ้าใครมาน้อยคนหรือกลัวทานไม่หมด สั่งแบบ Half Rack ครึ่งนึงชองอันนี้ก็ได้นะคะ แค่ 299 บาทเองเหอะ
2. ผักโขมอบชีส (120 บาท) – เป็นอีกจานที่กุ้งชอบค่ะ ต้องบอกก่อนว่าเป็นคนชอบทานผักโขมอบชีสอยู่แล้ว ปกติเวลาไปทานร้านไหนก็มักจะสั่ง ซึ่งโดยรวมแต่ละร้านจะรสชาติไม่ต่างกันนัก แต่ของร้านนี้คือพอทานไป คือกุ้งว่าเค้ามีความละมุนในรสสัมผัสมากกว่า คือตัวชีสหอมอ่อนๆ และคลุกเคล้าแทรกมากับผักโขมแบบถ้วนทั่ว (ไม่ใช่แค่ชีสโปะหน้าแล้วจบ) ทานแล้วในแต่ละคำจะได้ผักโขมนุ่มๆ พร้อมชีสหอมมัน และตัวชีสก็ทำมาไม่เลี่ยนเกินไป อบมาก็กำลังดี ไม่แห้งหรือแฉะน้ำเยิ้มจนเสียรสชาติ
3. สลัดผักย่างซอสเพสโต้ (140 บาท) – เอาจริงๆถ้าคนติดตามเพจกุ้งมานาน จะรู้ว่ากุ้งเป็นคนไม่ชอบทานผัก แต่เมนูนี้ขอบอกว่า เฮ้ย มันอร่อยอะ (อีกแล้ว) อร่อยเกินหน้าตาไปมากค่ะ เป็นผักหลายๆอย่างย่างมาหอมๆ คลุกเคล้ากับซอสเพสโต้ (หรือซอสโหระพาฝรั่ง) ที่ปั่นรวมกับอัลมอนด์อบและพาเมซานชีส ทำให้ได้ซอสเพสโต้ที่ไม่เหม็นเขียวและได้รสหอมมัน เมนูนี้เหมาะสำหรับทานเรียกน้ำย่อยได้อย่างดีมากเลยค่ะ
4. Lobsterbisque Spaghetti (220 บาท) – มันคือ “สปาเก๊ตตี้ผัดซอสมันกุ้ง” นั่นเอง ซึ่งจานนี้กุ้งชอบมากค่ะ ที่นี่ก็ทำรสชาติมันกุ้งสำหรับผัดสปาเก๊ตตี้ได้เข้มข้นหอมมันดี และเมื่อผัดรวมมากับพริกแห้งและโหระพา ให้ความรู้สึกจัดจ้านนิดๆ, ตัดเลี่ยน, และเพิ่มรสชาติเนื้อกุ้งที่ใส่มาก็สดหวาน ชิ้นพอดีคำ ทานแล้วมันลงตัวเลยนะ
ซูมเข้าไปชัดๆ เพื่อสัมผัสกับมันกุ้งอย่างเต็มที่
5. Seafood Marivana (200 บาท) – เป็นซีฟู้ดรวม ประกอบด้วยหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์, ปลาหมึก, กุ้ง ในซอสมะเขือเทศเข้มข้น รสชาติจะออกเผ็ดเปรี้ยว สำหรับจานนี้กุ้งเฉยๆค่ะ อาจเพราะเป็นคนไม่ชอบพวกมะเขือเทศ, ซอสมะเขือเทศอยู่แล้วด้วย แต่ถ้าใครชอบ จานนี้น่าจะปลื้มได้ไม่ยากเลย
เนื้อซีฟู้ดเต็มๆคำ และขนมปังกระเทียมหอมๆ
6. Piri Piri Chiken (220 บาท) – ไก่พิริพิริ จานนี้สั่งมา เพราะเห็น ป้ายตั้งโต๊ะอันนี้ดูแล้วน่าทาน
ซี่งพอทานจริงแล้วก็ชอบอีกเช่นกันนะคะ หนังย่างมาอร่อย แห้งและบางกรอบ เนื้อข้างในนุ่มกำลังดี และซอสที่ให้มาด้วยก็อร่อยกลมกล่อมเผ็ดแบบละมุนๆลิ้น ทานแล้วแอบคิดถึงไก่ Nando’s ร้านโปรดของกุ้งที่อังกฤษเลยค่ะ (แต่ราคาถูกกว่าเยอะเลย) เมนูนี้ กุ้งแนะนำให้ลองทานทั้ง 2 แบบคือทานกับซอส และทานเปล่าๆ คือกุ้งว่ามันอร่อยทั้ง 2 แบบเลยนะ กุ้งเลยเลือกกินแบบจิ้มซอสคำไม่จิ้มคำ 55
จัดไปอีกมุม ให้เห็นปีกบนไก่ชัดๆ
7. Half Rack Smoked Ribs (299 บาท) – เนื่องจากซอสบาร์บีคิวของที่นี่จะค่อนข้างรสชาติจัดจ้านเผ็ดร้อน แต่ยังหอมรมควันอยู่ ก็เลยเกิดอาการอยากจะลองทานแบบไม่ทาซอสบาร์บีคิวดูบ้าง เพื่อจะได้ละเลียดความหอมของซี่โครงรมควันได้เต็มที่ จานนี้เนื้อนุ่มอยู่ แต่ว่าเนื้อจะค่อนข้างแห้งไปนิด ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะว่ากริลล์มามากไปหรือเปล่า แต่ได้กลิ่นหอมรมควันชัดเจนมาก เอาเป็นว่าใครชอบแบบไหนก็เลือกแบบนั้นละกันค่ะ พอดีกุ้งไปทานกัน 4 คน ก็เลยจัดมาลองทั้ง 2 แบบเลย
ว่าแล้วมาต่อที่ขนมหวานกันดีกว่า
8. Chocolate Lava (180 บาท) – ช็อกโกแลตเข้มข้นผิวกรอบนิดๆ ข้างในเข้มแบบดาร์คช็อค ที่กุ้งชอบ เลเยอร์ของเนื้อเค้กหยุ่นๆ ไม่ใช่ฟีลแบบลาวาไหลเยิ้มๆ ซึ่งทุกอย่างอร่อยลงตัวแล้ว แต่ถ้าทำแบบให้มีส่วนที่ไหลเยิ้มได้ด้วยกุ้งว่าจะเริ่ดขึ้นค่ะ จานนี้เค้าเสิร์ฟพร้อมไอติมวานิลลาและผลไม้ด้วยนะ
ลาวาข้นๆ
9. Apple Crumble (150 บาท) – แอ๊ปเปิ้ลในซอสราสเบอร์รี่ ใส่ซินนาม่อน และทานคู่กับไอติมวานิลลา จานนี้บอกได้เลยว่าถ้ากุ้งมาคนเดียวไม่สั่งแน่นอนค่ะ เพราะกุ้งไม่ทานทั้งแอ๊ปเปิ้ล, ราสเบอร์รี่, ซินนาม่อน, และไม่ชอบไอติมวานิลลา (เรื่องมากเนาะ) ซึ่งเมนูนี้รวมทุกอย่างไว้ในจานเดียวกันหมด จบข่าว 555 แต่จากการถามอีกสามคนร่วมโต๊ะคนบอกว่าจานนี้อร่อยนะ กุ้งเองได้แต่จกไอติมกิน แต่พอกินไอติมปุ๊ปสะดุดเลย ถามร้านเค้าเลยว่าไอติมนี้ทำจากฝักวานิลลาใช่มั้ย (เพราะที่กุ้งไม่ชอบวานิลลาเพราะไม่ชอบวานิลลาแบบกลิ่นสังเคราะห์ แต่อันนี้ไม่ใช่เลย คือมันหอมและรสมันเบาๆนุ่มๆ) ซึ่งคำตอบของร้านก็คือใช่ กุ้งเลยจกกินไอติมอย่างเดียวเลยค่ะ และก็เลยได้อีกความรู้สึกขี้นมาว่าร้านนี้เค้าใส่ใจเรื่องวัตถุดิบอาหารดีนะ
หน้าตาน่าทานดีจัง
สรุป จากการทานทั้งหมด เทียบกับราคาและรสชาติ กุ้งบอกได้เลยนะว่าร้านนี้เป็น 1 ในร้านอาหารที่กุ้งชอบ จากที่ลองหลายๆเมนู พบว่ารสชาติดี, วัตถุดิบดี และที่สำคัญคือทานแล้วสัมผัสได้ถึงความใส่ใจของคนทำ มันจะเป็นดีเทลเล็กๆที่คนชอบกินน่าจะสัมผัสได้ และประทับใจยิ่งขึ้น เมื่อได้ถามเจ้าของร้านเพราะอยากรู้ว่าที่เราคิดคือใช่มั้ย ซึ่งใช่ด้วยค่ะ เจ้าของร้านเป็นคนชอบกินและชอบทำอาหาร (ต่างจากกุ้งที่ชอบกินอย่างเดียว อิอิ) คือพอคุยแล้วเข้าใจกันดีเลย และด้วยราคาที่ไม่แพง กุ้งอุดหนุนอีกแน่นอนค่ะ
เก็บภาพร้านมาฝากบางส่วน
ร้านโปร่ง บรรยากาศสบายๆ
มีของตกแต่งน่ารักๆ
หรือนั่งมุมนี้ก็ชิลๆดีนะค่ะ
เก็บภาพเมนูและราคามาฝากด้วยค่ะ
Main Dishes ราคารับได้เลยนะ
ราคา BBQ Ribs ก็ไม่แพงเลยค่ะ
?พิกัด – ร้าน Ribstory ซอยลาซาล 46 (ร้านอยู่ตรงหัวมุมไฟแดงเลยค่ะ)
– สำรองที่นั่ง โทร 097-173-9673
– http://www.facebook.com/ribstory