Oct-2016
โรงแรมแคนทารี อยุธยา Kantary Hotel Ayutthaya – สุดยอดที่พักในฝันสำหรับครอบครัว
โรงแรมแคนทารี อยุธยา – Kantary Hotel Ayutthaya
สุดยอดที่พักในฝันสำหรับครอบครัว
อยุธยาเป็นเมืองเก่าที่มีวัดวาอารามเยอะมากแห่งหนึ่งของไทย ทำให้เกิดวัฒนธรรมการไปไหว้พระขอพร 9 วัด ที่นี่ จะดีไหมนะ ถ้ามีที่พักที่สะดวก สามารถพาครอบครัวไปพักผ่อนใกล้กรุงเทพฯ ได้ชมพระอาทิตย์ขึ้น ทำบุญไหว้พระแต่เช้า เที่ยงกินก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา บ่ายกินโรตีสายไหม เย็นกินกุ้ง แวะดูพระอาทิตย์ตกที่โบราณสถานในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ พักผ่อนสักคืนสองคืน แล้วค่อยกลับ ทั้งหมดที่ว่ามานี้มีอยู่ในโรงแรม “แคนทารี อยุธยา”
Kantary Hotel Ayutthaya ถือเป็นโรงแรมที่ตอบโจทย์ที่สุดที่หนึ่งสำหรับการพาครอบครัวมาพักผ่อนที่อยุธยา ด้วยทำเลของโรงแรมที่ตั้งอยู่บนถนนโรจนะ ซึ่งเป็นถนนหลักในการเข้าสู่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระยะทางเพียง 500 เมตรจากถนนเอเชียสาย 32 ซึ่งเดินทางสะดวก แถมที่นี่ยังใกล้คอมมูนิตี้มอลล์ และใกล้โบราณสถานที่เป็นสถานที่เที่ยวสำคัญอีกด้วย
โรงแรมแคนทารี อยุธยา เป็นโรงแรมที่พักสไตล์ service apartment สามารถพาครอบครัวมาพักได้อย่างสะดวกสบาย ไปพักแล้วจะรู้สึกเหมือนได้พักกึ่งโรงแรมกึ่งบ้าน แม้กระทั่งห้องขนาดเล็กสุดของที่นี่ ยังมีครัว มีห้องรับแขกส่วนกลาง มีโต๊ะกินข้าว เหมาะมากสำหรับครอบครัวเล็กถึงใหญ่ หรือแก๊งค์เพื่อนที่อยากมาพักผ่อน ทำกับข้าวมื้อเล็กๆ สังสรรค์กันใกล้กรุงเทพฯ
โรงแรมตั้งอยู่ริมถนนโรจนะ สามารถสังเกตได้ง่าย เมื่อขับรถมาถึงบริเวณหน้าล็อบบี้พนักงานที่นี่จะกระวีกระวาดเข้ามาช่วยขนกระเป๋าให้อย่างขยันขันแข็ง
เมื่อเดินเข้ามาด้านในจะเป็นล็อบบี้เพดานสูง ให้ความรู้สึกโอ่โถงโล่งสบาย การตกแต่งเป็นแบบสบายๆ เน้นความเรียบง่าย และรู้สึกได้ว่าโรงแรมให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายในการพักของแขกมากที่สุด
หลังจากเช็กอินเรียบร้อยจะได้ Welcome Drink เป็น Voucher ให้สามารถนำไปใช้ที่ Cafe Kantary ร้านเบเกอรี่สุดชิวของโรงแรมได้ ซึ่งผมได้รีวิวไว้แล้ว ที่นี่ ครับสามารถไปรับชมได้
Cafe Kantary นั้นตั้งอยู่ริมถนนด้านหน้าโรงแรม ทำเบเกอรี่หลายชนิดได้อร่อย น่าทาน และราคาไม่แพง หรือจะสั่งติ่มซำมาทานก็ได้ มีทั้งสาหร่ายกุ้ง ขนมจีบกุ้ง ขนมจีบปู ซาลาเปาที่เป็นแบบแป้งนุ่มฟู ซึ่งที่นี่ให้เนื้อกุ้ง ปู และไส้ต่างๆ เยอะมาก คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป รวมไปถึงพิซซ่าซึ่งเป็นอาหารซิกเนเจอร์ของร้านอาหารในเครือเคปและแคนทารี่เลย
โรงแรมแคนทารี อยุธยา มีห้องพักทั้งหมด 3 แบบ คือ
- Studio Suite
- One Bedroom Suite
- Two Bedroom Suite
ทุกแบบของห้องพักเน้นความสะดวกสบายเหมือนอยู่บ้านมากๆ ภายในห้องพักมีส่วนของครัวเล็กๆ แต่อุปกรณ์ครบครัน มีเตาไฟฟ้าให้ทำกับข้าว พร้อมจานชามช้อนส้อมหลายชุด มีอ่างล้างจาน ตะแกรงผึ่งจาน หม้อต้มน้ำร้อน ตู้เก็บของ ตู้เย็นขนาดใหญ่แยกช่องเย็นและช่องแช่แข็ง เหมาะสำหรับครอบครัวขนาดกลางขึ้นไป หรือแก๊งค์เพื่อนมาทำกับข้าวมื้อเล็กๆ เม้าท์มอยกันช่วงวันพักผ่อน หรือครอบครัวที่มีเด็กเล็กก็สามารถมาพักผ่อนได้อย่างสะดวกสบายกว่าโรงแรมทั่วๆไป เนื่องจากพื้นที่กว้างขวาง สามารถทำกับข้าวให้เด็กเล็กทานได้ สำหรับคุณแม่ก็มีช่องแช่แข็งน้ำนมในห้องพัก ซึ่งสะดวก ไม่ต้องฝากแช่ที่ตู้เย็นรวมของโรงแรม
Studio Suite
ห้องขนาดเล็กที่สุดของโรงแรมที่ไม่เล็กเลยด้วยพื้นที่มากถึง 46 ตารางเมตร (พอๆกับคอนโด 2 ห้องนอนในกรุงเทพฯด้วยซ้ำไป เมื่อเปิดห้องเข้ามาจะพบกับส่วนของ Pantry ก่อน ซึ่งถือว่าอุปกรณ์จานชามช้อนส้อมนี่จัดเต็มมากๆครับ แต่ห้องแบบ Studio Suite สิ่งที่ขาดหายไปคือเครื่องซักผ้าครับ แต่สำหรับคนที่ไปอยู่ระยะยาวสามารถติดตั้งเพิ่มได้นะครับ
ฝั่งตรงข้าม Pantry ก็จะเป็นห้องน้ำ มีอ่างอาบน้ำ และห้องอาบแบบฝักบัวให้เลือกอาบ อุปกรณ์ในห้องน้ำมีครบทั้งแปรงสีฟัน ยาสีฟัน สำลี คัตตอนบัท ผ้าขนหนู ผ้าเช็ดหน้า ไดร์เป่าผม ถือว่าครบ สะดวกสบายพอสมควร
ส่วนของห้องพักถึงเป็นแบบ Studio แต่ก็มีครบทั้ง ส่วนรับแขกและโต๊ะทานข้าว มีโต๊ะเครื่องแป้งอยู่ที่มุมห้อง เตียงใหญ่โตหากเรามาในโมเม้นท์พิเศษก็สามารถรีเควสให้โรงแรมจัดเตียงสวยๆได้ด้วย
One Bedroom Suite
ห้อง 1 Bedroom Suite จะเป็นห้องที่ใหญ่ขึ้นมาอีก 1 ระดับ มีการแยกส่วนของห้องรับแขกออกมาจากห้องนอน ซึ่งในส่วนรับแขกจัดพื้นที่ใช้สอยได้ดี มีตู้เก็บรองเท้าไม่ต้องวางรองเท้าที่พื้นให้เกะกะ (หายากมากนะ โรงแรมที่มีตู้เก็บรองเท้า)
ด้านหน้าห้องมีโต๊ะกินข้าวเล็กๆ ที่ส่วนรับแขก มีทีวีเครื่องใหญ่ พร้อมกับโซฟายาวสามารถมานั่งเล่นนอนดูทีวีหลังทานข้าวได้
สำหรับห้องนอน ใช้ฟูกที่ไม่นิ่มเกินไป ทำให้นอนสบายไม่ปวดหลัง ม่านในห้องนอนเป็นม่าน 2 ชั้น โปร่งชั้นนึง และทึบแสงชั้นนึง ป้องกันได้ดี สามารถหลับสนิทได้แม้ในเวลากลางวัน ผมพาลูกไปเที่ยวนี่สบายเลยเพราะ ลูกผมตอนไป 4 เดือนเป็นวัยที่เริ่มไม่ยอมกินนมถ้ามีอะไรมากระตุ้น ผมจัดการปิดม่านทำห้องมืดสบายเลย 🙂
ห้องน้ำเป็นแบบมาตรฐาน มีประตูเปิดได้ 2 ด้าน ทั้งจากห้องนอน และห้องครัว อุปกรณ์ต่างๆมีครบถ้วนเหมือนห้อง Studio Suite
นอกจากนี้ที่นี่ยังมีเต้าเสียบปลั๊กไฟกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ เยอะพอประมาณ สามารถเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ เพิ่มได้พอสมควร ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเอาปลั๊กพ่วงติดไปด้วยหากต้องชาร์จแบตมือถือหลายๆ เครื่องพร้อมกัน
Two BEDROOM SUITE
ห้องขนาดใหญ่ที่สุดของโรงแรมด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่มากถึง 105 ตารางเมตร เรียกว่าพื้นที่ใช้สอยนี่น้องบ้านแฝดกันเลยทีเดียว ภาพรวมห้องต่างๆจะใกล้เคียงกับห้อง One Bedroom Suite แต่จะมีขนาดโต๊ะกินข้าวที่ใหญ่ขึ้น และมีห้องนอนเพิ่มเป็น 2 ห้องโดยจะมีเตียงใหญ่ 1 ห้องและเตียงแฝดอีก 1 ห้อง
Exclusive Lounge and Fitness Centre
สำหรับส่วนกลางของที่นี่ จะรวมอยู่ที่ชั้น 16 เป็นชั้นบนสุดของอาคารเริ่มตั้งแต่ห้องฟิตเนส ซึ่งมีทั้งซาวน่าและสตรีมให้ใช้ด้วย รวมไปถึงสระว่ายน้ำแบบเอ้าท์ดอร์ขนาดกลางๆ พร้อมจากุชชี่ขนาดใหญ่ให้ลงไปแช่น้ำพร้อมชมวิวได้อย่างสบายอุรา
และที่นี่ยังมีห้องรีดผ้าติดแอร์จัดไว้ให้ มีตู้เก็บน้ำแข็งส่วนกลาง แขกทุกคนสามารถพกถังน้ำแข็งในห้องตัวเองมาตักที่นี่ไปได้อีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่ยังมี Executive Lounge ให้แขกของโรงแรมสามารถใช้บริการได้ด้วย ซึ่งในห้องเล้าจน์ที่มีทั้ง หนังสือพิมพ์ แมกาซีน ให้อ่านรวมไปถึงมีเบเกอรี่ คุกกี้ ชากาแฟ ให้ทานทั้งวันด้วย (10:00 – 22:00)
California Steak
ส่วนห้องอาหารหลักอยู่ที่ชั้นล่างของโรงแรม ชื่อ California Steak ผนังด้านนอกของห้องอาหารเป็นกระจกใสบานใหญ่ ทำให้บรรยากาศดูโปร่งโล่ง โอ่โถง
ที่นี่ใช้เป็นที่รับประทานอาหารเช้าซึ่งถือว่าจัดเต็มมากๆอาหารมื้อเช้าของที่นี่ถือว่าใช้วัตถุดิบที่ดี สดมาก โดยเฉพาะผักสลัดที่ใช้ผักจากโครงการหลวง สด และมีผักหลากหลายให้เลือก มีอาหารไทย อาหารนานาชาติ และอาหารญี่ปุ่นให้เลือกทาน รวมไปถึงมีซุ้มสารพัดไข่ให้สั่งได้ ถือว่ามีอาหารให้เลือกทานมากพอควรเลย
สำหรับช่วงอื่นๆของวันที California Steak นั้นจะให้บริการแบบ All day dining สามารถสั่งอาหารได้ทั้งวัน โดยจะบริการอาหารทั้งไทย นานาชาติ และญี่ปุ่น ซึ่งในแต่ละวันจะมีโปรโมชั่นที่ไม่เหมือนกัน บางวันอาจจะจัดเป็น Steak Buffet เป็นต้น จุดเด่นของที่นี่คืออาหารราคาถูก (ราคาใกล้เคียงร้านอาหารตามห้าง) และรสชาติอาหารดีมาก เพราะโรงแรมในเครือเคปและแคนทารีนั้นจะมีเชฟมากฝีมือจากหลากหลายชาติ ซึ่งแต่ละคนจะประจำตามสาขาที่ต่างกันไป แต่จะมีการหมุนเวียนเชฟไปสาขาต่างๆ เพื่อฝึกอบรมให้เชฟหลักประจำโรงแรมแต่ละที่ด้วยนั่นเอง
วันที่ไปผมได้ทานที่ห้องอาหารในเย็นวันศุกร์ จะเป็นโปรโมชั่น Buffet Salad Bar ราคาอยู่ที่หัวละ 210 บาท ซึ่งถือว่าไม่แพง คุ้มมากๆ เมื่อเทียบกับคุณภาพและความหลากหลายของไลน์อาหาร และหากเราสั่งเป็นสเต็กก็จะได้ฟรีสลัดบาร์ไปด้วยครับ (วันอื่นๆจะไม่มีให้นะครับ)
วันที่ไปผมสั่งเป็นแซลมอนย่าง สเต็กเนื้อฟิเลมิยอง มาทานกันแล้วก็สั่งตัวที่เป็นโปรโมชั่นประจำเดือนมาอีกอย่าง ถ้าจำไม่ผิดจะเป็นแฮมสเต็ก เรื่องรสชาติถือว่าทำได้ไม่ผิดหวังเลยครับ เนื้อใช้ส่วนที่ดี นุ่มชุ่มฉ่ำมากๆ จริงๆแทบไม่ต้องราดน้ำซอสพริกไทยดำก็ถือว่าอร่อยแล้ว ตัวแซลมอนย่างมาได้ดีราดด้วยซอสออกชีสๆ (ซึ่งคุณภริผมทานไม่ได้เพราะให้นมลูกอยู่) ส่วนแฮมสเต็กส่วนตัวแล้วเฉยๆครับ
นอกจากการลงมาทานที่ห้องอาหารแล้ว ที่นี่ยังสามารถสั่งอาหารขึ้นไปทานที่ห้องได้ด้วยนะครับ ผมมีโอกาสใช้บริการ 2 รอบ รอบแรกคือวันที่ไปถึงเลย แบบว่ากลางวันทานมาน้อย ขับรถมาถึงหิวๆ แต่ลูกหลับอยู่เลยสั่ง โอโคโนมิยากิ และปลาไข่ย่างมาทานเล่น เพราะเห็นว่าที่นี่เป็นโรงแรมที่ญี่ปุ่นมาพักเยอะ น่าจะทำอาหารญี่ปุ่นอร่อย ซึ่งอาหารที่ทำมาที่นี่ถือว่าใช้ได้ครับ รสชาติค่อนข้างดี แต่โอโคโนมิยากิแป้งเยอะไปสักหน่อย
ส่วนอีกมื้อคือมื้อเย็นวันเสาร์ตอนแรกจะลงไปทานที่ห้องอาหาร แต่ลงไปแล้วระหว่างรอลูกเริ่มงอแงเลยเปลี่ยนใจให้ห้องอาหารเอาขึ้นไปเสิร์ฟให้ที่บนห้องแทนครับ มื้อนี้ผมสั่งเป็นอาหารไทยมาทานมีปลากะพงนึ่งมะนาว ต้มยำเห็ด ผักผักรวมหมูกรอบ และฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ ผมพบว่าที่นี่ทำอาหารไทยอร่อยนะ ส่วนตัวผมชอบมากกว่าสั่งเป็นสเต็ก สั่งเป็นอาหารญี่ปุ่นอีก ใช้วัตถุดิบที่สดใหม่ และปรุงรสชาติได้จัดจ้านแบบไทยๆดี
บทสรุปโรงแรม Kantary Hotel Ayutthaya
- ค่าเข้าพักราคาเหมาะสม ไม่แพง ห้องพักสะดวกสบาย สามารถมาเป็นครอบครัวมีเด็กเล็กได้ มีครัวให้ทำอาหารด้วย
- มี Exclusive Lounge ซึ่งมีอาหารว่างบริการพร้อมชากาแฟให้ทาน สามารถใช้บริการได้ทั้งวัน
- Facility ด้าน Fitness ถือว่าจัดเต็มมีซาวน่าและสตรีมให้ใช้ด้วย
- โรงแรมตั้งอยู่ในทำเลที่ดีเดินทางสะดวก
- ห้องอาหารทำอาหารได้อร่อย ราคาไม่แพง ใช้วัตถุดิบที่ดี สลัดบาร์ราคาเพียง 210 บาท หากทานสเต็กในคืนวันศุกร์ฟรีสลัดบาร์
- อุปกรณ์อำนวยความสะดวกอเมนนิตี้ในห้องพักครบครัน
- สามารถขอ Baby Cot / อุปกรณ์ที่นอนเพิ่มเติมได้
- อาหารเช้าจัดเต็ม อาหารในมื้ออื่นๆรสชาติดีและราคาสมน้ำสมเนื้อ โดยเฉพาะอาหารไทยที่ทำได้ดีมาก
- เด่นเรื่องเบเกอรี่ มีร้านเบเกอรี่อร่อยๆ (Cafe Kantary) อยู่หน้าโรงแรม
ด้วยทั้งหมดที่ว่ามานี้เลยเป็นสาเหตุให้ผมเลือก โรงแรมแห่งนี้เป็นทริปแรกที่พาลูกน้อยของผมมาเที่ยวนั่นเอง
สำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้
- เว็บไซต์โรงแรม http://www.capekantaryhotels.com
- เช็คราคาและจองที่พักผ่าน expedia.co.th
- เช็คราคาและจองที่พักผ่าน Agoda.com
- เช็คราคาและจองที่พักผ่าน Booking.com
Voucher Code ลด 10% ของ expedia.co.th