Man ho Restaurant บุฟเฟ่ต์ติ่มซำ @ JW Marriott Hotel Bangkok

เคยอยากทานติ่มซำแล้วไม่รู้จะไปทานที่ไหนมั๊ยครับ วันนี้ผมจะพาเพื่อนๆไปชมรีวิวอีกหนึ่งห้องอาหารที่ติ่มซำอร่อยที่สุดในเมืองกรุงกับ Man Ho Restaurant ที่โรงแรม JW Marriott Hotel Bangkok นั่นเองครับ

ห้องอาหาร Man Ho โรงแรม JW Marriott Hotel Bangkok นั้นพึ่งทำการปรับปรุงเมนูบุฟเฟ่ต์ติ่มซำไปเมื่อช่วงกลางเดือนก.ค.ที่ผ่านมา จากเดิมที่เมนูบุฟเฟ่ต์จะทานได้เฉพาะติ่มซำ แต่ปัจจุบันนั้นสามารถสั่งเมนู A la carte ได้แล้วด้วย ซึ่งเป็นเสมือนกับการฉลองการได้เชฟมือดีคนใหม่อย่าง Mr. Teng Kam Seng ซึ่งเป็นเชฟมากประสบการณ์ชาวมาเลเซีย ที่เคยได้รับรางวัลเหรียญเงินจากการแข่งขัน Championship of Chinese Cuisine มาแล้วด้วย

โรงแรม  JW Marriott Hotel Bangkok ตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 2 อยู่กลางกรุงเดินทางสะดวกได้ทั้งทางด่วน หรือหากใช้ BTS ก็สามารถลงได้ทั้งสถานีเพลินจิตและนานา ได้เลย

ห้องอาหาร Man Ho จะอยู่ที่ชั้น 2 ของโรงแรม หาไม่ยากครับ

เดินเข้าไปส่วนแรกเป็นเหมือนห้องรับแขก เลยเข้าไปจะเป็นส่วนของห้องอาหาร ซึ่งที่นี่จะมีห้องส่วนตัวให้สามารถจับจองได้ด้วย ผมไปทานวันอาทิตย์กลางวันถือว่าคนค่อนข้างแน่น ผมแนะนำว่าหากจะมาทานติ่มซำที่นี่ ควรจะต้องโทรมาจองล่วงหน้า เพราะที่นี่มีแขกประจำที่มาทานเกือบๆทุกอาทิตย์ค่อนข้างมากเลย ถ้าไม่จองมาก่อนอาจจะไม่มีโต๊ะได้ครับ

โดยสามารถสำรองที่นั่งได้ที่ โทร 02-656-7700 ต่อ 4245
และสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่

บุฟเฟ่ต์ติ่มซำ All You Can Eat  วันจันทร์-ศุกร์ ราคา 888 บาทเนท และ เสาร์-อาทิตย์ ราคา 1,150 บาทเนท ราคานี้รวมชาร้อน-เย็น และเก๊กฮวยร้อน-เย็นแล้ว โดยที่เมนูวันธรรมดาจะต่างจากเมนูวันเสาร์-อาทิตย์เล็กน้อย ภาพนี้เป็นเมนูวันเสาร์อาทิตย์ที่ผมไปทานมา จะเห็นว่านอกจากเมนูติ่มซำแล้ว ผู้ที่ไปทานสามารถเลือกเมนู A la carte ในหมวดต่างๆเหล่านี้ ออร์เดิร์ฟ, ซุป, เมนูพิเศษ, เมนูข้าวและก๋วยเตี๋ยว รวมไปถึง ของหวานได้คนละ 1 อย่างต่อ 1 หมวดอีกด้วย

วันที่ไปผมไปทานกัน 4 คน เลยสามารถสั่งมาได้หลายอย่างมาลองชิมๆกัน ส่วนมากอาหารแต่ละอย่างจะมาที่ 3 ชิ้นครับ อันไหนอร่อยก็มีสั่งเบิ้ล อิอิ

Man ho Signature

มาเริ่มจากของเด็ดของห้องอาหารมานโฮกันก่อนเลยกับเมนูซิกเนเจอร์ พวกผมสั่งมาทานกัน 5 อย่างคือ

• ปอเปี๊ยะไส้กุ้งมะม่วง – เมนูนี้เป็นเมนูทอดที่ถือว่าเด็ดด้วยการผสมผสานมะม่วงเข้ามาซึ่งให้ความหวานและเปรี้ยวทำให้เป็นของทอดที่ทานแล้วไม่รู้สึกเลี่ยนแต่อย่างใด
• ฟองเต้าหู้ราดซอสเป๋าฮื้อ – รสชาติทั่วๆไป
• ฮะเก๋ากุ้ง – อันนี้เป็นอีกของเด็ดของที่นี่ฮะเก๋าชิ้นใหญ่แป้งบางๆเคี้ยวแล้วได้กุ้งเต็มๆคำ และเป็นกุ้งแบบกุ้งเน้นๆ ไม่ใช่แบบพวกกุ้งผสมหมูอะไรแบบนั้น
• ขนมจีบซิวหม่าย – อันนี้รสชาติทั่วไปแต่ตกแต่งสวยงามมีการโรยไข่กุ้งด้านบนของขนมจีบด้วย
• เกี๊ยวกุ้งนึ่งผักโขม – อันนี้ตัวแป้งทำได้ดีแป้งบางเหนียวนุ่มถือว่าใช้ได้ครับ
• งาทอดไส้ไหล – อันนี้ก็ถือเป็นเมนูที่ห้ามพลาดตัวแป้งด้านนอกเอาไปคลุกงาแล้วทอดแป้งอร่อยกัดปุ๊บไส้ด้านในไหลเยิ้มออกมา อร่อยฟิน

จริงๆแล้วอยากชิมก๋วยเตี๋ยวหลอดด้วยเพราะได้ยินมาว่าเป็นของเด็ดอีกอย่างของที่นี่ แต่น่าเสียดายที่วันที่ผมไปนั้นตัวซึ้งนึ่งสำหรับทำก๋วยเตี๋ยวหลอดส่งซ่อมอยู่ทำให้วันนั้นไม่มีเมนูก๋วยเตี๋ยวหลอดเลย

 ของทอด – Pan fried and Deep fried

สำหรับตระกูลของทอดและผัดผมสั่งมาทานกัน 5 อย่าง

• เผือกทอดยัดไส้หอยเชลล์ซอสวาซาบิ – อันนี้เป็นเมนูที่ไม่ควรพลาดครับภายนอกทอดมาได้บางกรอบกำลังดี ไส้ข้างในเพิ่มความอร่อยด้วยหอยเชลล์สดหวาน และมีวาซาบิตัดรสด้านนอก ทำให้ทานแล้วเพลินๆไม่รู้สึกว่าเลี่ยน
• ลูกชิ้นกุ้งทอดสอดไส้ชีส – อันนี้ก็อร่อยถ้าจำไม่ผิดด้านในนอกจากจะมีสอดใส้ชีสแล้วยังมีหนวดปลาหมึกให้เคี้ยวกรุบๆอีกด้วย
• ห่ามสุ่ยก๋อ – เมนูนี้ชื่อแปลกแต่รสชาติถือว่าอร่อยต้องลอง แป้งด้านนอกแปลกดีเคี้ยวแล้วหนึบหนับคล้ายๆแป้งของเมนู งาทอดไส้ไหล ไส้ด้านในอารมณ์หมูผัดซีอิ้วน้ำมันหอยที่ผสมผักและขิงลงไปครับ
• ฟองเต้าหู้ทอด – ตัวนี้ทอดมาได้ดีเลยครับ กรอบและไม่อมน้ำมัน(เท่าไหร่)
• ขนมผักกาด – จานนี้เป็นอีกจานที่ชอบผัดมาได้ดี และปรุงรสชาติได้กลมกล่อมเพราะมีการใส่พริกป่นลงไปด้วยนั่นเอง

ของนึ่ง – Steamed

หมวดนี้ดูเผินๆในเมนูอาจจะเอะทำไมเมนูดูน้อยจัง แต่จริงๆแล้วเมนูนึ่งถูกนำไปใส่ในเมนูซิกเนเจอร์แล้วหลายเมนูนั่นเอง ซึ่งเมนูนึ่งผมได้สั่งมาทานหลายเมนูเลย (ปกติผมชอบสั่งเมนูนึ่งมากกว่าเมนูทอดอยู่แล้ว)

• ฮะเก๋ากุ้งและหอยเชลล์ – ตัวนี้ถือเป็นติ่มซำฟิวชั่นที่เอาหอยเชลล์มาเพิ่มให้กับฮะเก๋าปกติ ทำให้เมนูดูน่าตื่นตาตื่นใจดี แต่ใครชอบฮะเก๋า ผมแนะนำว่าให้สั่งฮะเก๋าปกติจะดีกว่านะ คือไม่ใช่ว่าเมนูนี้ไม่อร่อยนะ แต่แอบรู้สึกว่าพอมันมีหลายอย่างแล้วรสชาติมันแย่งกันเด่นครับ เมื่อเทียบกับฮะเก๋าปกติของที่ห้องอาหารมานโฮที่ให้เนื้อกุ้งมาแบบแน่นๆ ผมเลยแอบชอบฮะเก๋าธรรมดามากกว่า
• ลูกชิ้นกุ้งนึ่งกระเพาะปลา – เมนูนี้แปลกดีครับ แต่ส่วนตัวผมเป็นคนไม่ชอบทานกระเพาะปลาเท่าไหร่ เลยเฉยๆกับเมนูนี้
• เนื้อปลาเก๋าอบวุ้นเส้น – ปลาเก๋าชิ้นใหญ่ที่สดมากและไม่มีกลิ่นคาวเลย ห่อด้วยวุ้นเส้นที่หอมหวนชวนกินมากๆ เมนูนี้ผมชอบ
• ซี่โครงหมูนึ่งเต้าซี่ – เมนูนี้เป็นการนึ่งซี่โครงหมูแบบไม่ได้เอาไปหมักซีอิ้วทำให้ได้รสชาติเต้าซี่เต็มๆ แต่ทานแล้วแอบรู้สึกว่ามีบางชิ้นที่หมูเหนียวไปหน่อย และกระดูกอ่อนแอบแข็ง
• ข้าวเหนียวห่อใบบัว – เมนูนี้ผมชอบนะ ตัวข้าวเหนียวทำมาคล้ายๆกับบ๊ะจ่างผสมผสานกับความหอมละมุนจากใบบัว ถ้าไม่ติดว่าเป็นเมนูข้าวที่กินเยอะแล้วตัดกำลัง มีสั่งเบิ้ล
• ซาลาเปาไข่เค็ม (ลาวา) – ซาลาเปาไข่เค็มกัดไปทีไส้เยิ้มๆทะลักออกมา ได้กลิ่นไส้หอมหวานมาก รสชาติเค็มนิดๆเข้ากันดีกับตัวเนื้อแป้ง แนะนำว่าควรต้องลอง

 Appetizer and BBQ (เลือกได้คนละ 1 อย่าง)

เมนูในหมวดนี้จะสั่งทานได้คนละ 1 อย่างวันนั้นผมไปกัน 4 คนก็เลยสั่งมา 4 อย่างมาแบ่งกันชิมครับ

• หมูแดงอบน้ำผึ้ง – ในบรรดา 4 อย่างที่สั่งมาผมชอบอันนี้มากที่สุด หมูอบมาได้หอมมากๆ โดยเฉพาะตรงส่วนเนื้อที่ติดมันที่อบแล้วมันไหม้นิดๆ มันมีกลิ่นหอมมากๆ
• เป็ดย่างฮ่องกง – อันนี้ธรรมดาหากินได้ทั่วไป
• ไก่แช่เหล้าแบบเซี่ยงไฮ้ – เป็นเมนูที่ปกติไม่ค่อยได้ทานวันนี้ลองทานแล้วเนื้อไก่นุ่มมากครับ
• ยำแมงกระพรุน – เมนูนี้เพื่อนสั่งมายังไม่ทันทานมัวแต่ถ่ายรูปอยู่หันมาหมดไปซะแล้ว 555

Soup (เลือกได้คนละ 1 อย่าง)

วันที่ไปซุปหลายอย่างหมดสั่งมา 2 อย่าง

• ซุปข้าวโพดเนื้อปู – ส่วนตัวแล้วผมชอบตัวนี้นะ ซุปข้นหอมหวานเนื้อปูถือว่าให้มาไม่น้อยเลย
• ซุปหอยสังข์ไก่ดำตุ๋นยาจีน – ถ้วยนี้ก็ใช้ได้ซุปหอมยาจีนตามสไตล์ หอยสังข์เนื้อหวานเคี้ยวหนุบหนับๆ อร่อย

Specialties  (เลือกได้คนละ 1 อย่าง)

เมนูหมวดนี้เป็นเมนูใหม่ที่เป็นสูตรลับเฉพาะของเชฟคนนี้ สั่งมา 2 อย่างคือ

• เต้าหู้โฮมเมดเห็ดชิเมจิซอสเป๋าฮื้อ – เมนูนี้อร่อยมาก เต้าหู้นุ่มๆหยุ่นๆแต่ตรงขอบทอดพอให้มีความกรอบหอม เสิร์ฟพร้อมกับซอสเป๋าฮื้อทานพร้อมเห็ดชิเมจิและผักอร่อยมาก เป็นเมนูที่สั่งเบิ้ลเลยจ้า
• กุ้งทอดครีมสลัด – อร่อยมาตรฐานสั่งก็ได้ไม่สั่งก็ไม่พลาดอะไร

Rice & Noodles (เลือกได้คนละ 1 อย่าง)

หมวดนี้มี 4 อย่างก็สั่งมาลองทานทั้ง 4 อย่างเลย

• ข้าวผัดทะเลซอสเอ็กซ์โอ – ผัดมาร้อนแห้งๆ ตามสไตล์ข้าวผัดแบบจีน ซึ่งเป็นสไตล์ที่จะให้ความหอมของข้าวเป็นอย่างดี  ใส่เครื่องมาอย่างไม่มีงก แต่ผมแอบไม่ชอบตรงก้านคะน้าที่รู้สึกว่ารสชาติมันไม่เข้ากับข้าวผัดเท่าไหร่
  
• บะหมี่เกี๊ยวน้ำแบบฮ่องกง – เกี๊ยวชิ้นตู้ม รสชาติทั่วไป เหมาะกับเอามาซดน้ำให้คล่องคอ
• ราดหน้าหมูย่างกับเนื้อปลา – อันนี้เครื่องจัดเต็มที่สุดในบรรดา 4 จานล่ะแต่ผมเป็นคนไม่ชอบทานราดหน้าเลยแอบเฉยๆ
• โจ๊กลี่วาน – เช่นเดียวกับราดหน้าคือผมเป็นคนไม่ชอบทานโจ๊กไม่ว่าจะเจ้าดังแค่ไหนก็ตาม แต่เท่าที่เพื่อนบอกคือโจ๊กจานนี้เนื้อเนียนอร่อย

Desserts (เลือกได้คนละ 1 อย่าง)

หลังจากจัดหนักของคาวกันไปแล้วก็ปิดท้ายกันด้วยของหวานในเมนูมี 5 อย่างเราสั่งกันมา 4 อย่างตามโควต้าคือ

• วุ้นขิงไข่ขาว – จริงๆแล้วตอนถามที่ห้องอาหารให้เขาแนะนำของหวานเขาบอกว่าเมนูนี้จะเป็นเมนูธรรมดาที่ไม่แนะนำเท่าไหร่ แต่ด้วยความที่ไปหลายคนเลยลองสั่งมาชิมปรากฏว่าอร่อยกว่าที่คาดเอาไว้ รสชาติอารมณ์เต้าฮวยพุดดิ้ง ตัวเนื้อสัมผัสทำได้เนียนมากๆ หอมขิงอ่อนๆ ทานแล้วสดชื่นดีครับ
• พุดดิ้งมะม่วง – เนื้อเนียน อร่อย แต่ส่วนตัวเป็นคนไม่ชอบทานมะม่วงเท่าไหร่
• สาคูมะม่วง – อย่างที่พึ่งบอกไปว่าไม่ชอบทานมะม่วง แต่ของหวานก็มะม่วงจังเลย 555 ตัวสาคูทำได้หอมหวานดีครับ
• บัวลอยงาดำน้ำขิง – เมนูนี้ที่ห้องอาหารแถมมาให้เป็นเมนูที่ไม่มีอยู่ในเมนู บัวลอยแป้งบางกำลังดีกัดเข้าไปงาดำทะลักออกมาได้รสชาติที่เข้ากันดีกับน้ำขิงร้อนๆ
• โอวหนี่แปะก๊วย – มาในจานทรงสวยที่เชพเป็นคนไปช้อปปิ้งด้วยตัวเอง ปกติผมเป็นคนชอบทานเมนูนี้มากเวลาไปทานอาหารจีน เพราะผมว่ามันเป็นเมนูที่หวานและอิ่มดี 5555 ซึ่งที่นี่ก็ทำรสชาติออกมาได้มาตรฐานดีครับ

บทสรุป Man ho Restaurant บุฟเฟ่ต์ติ่มซำ @ JW Marriott Hotel Bangkok

สำหรับห้องอาหารมานโฮถือว่าเป็นห้องอาหารจีนอีกที่หนึ่งที่เสิร์ฟอาหารได้คุ้มค่าราคา ไม่ว่าจะสั่งเป็นแบบ A la carte หรือจะมาทานบุฟเฟ่ต์แบบที่ผมมาทานด้วยคุณภาพของวัตถุดิบแล้วถือว่าไม่ได้แพงเลย

• เมนูมีให้เลือกหลากหลายและแปลกใหม่หลายเมนู
• ใช้วัตถุดิบที่ดีสดใหม่ และไม่งกวัตถุดิบ
• มีเมนู A la carte ให้สามารถสั่งได้ และจานที่สั่งไปจะทำมาเป็น Portion ขนาดทานพอดี 1 คน ไม่ได้ทำมาจานปกติ ทำให้สามารถลองทานได้หลากหลายเมนูโดยไม่อิ่มเกินไป (กรณีไปกันหลายคน)
• เชฟใส่ใจในการปรุงอาหาร อาหารจะเป็นการปรุงสดใหม่ทุกเมนู ไม่มีการทำเตรียมเอาไว้ก่อนอย่าง A la carte ที่เห็นว่าเป็นจานเล็กๆนั้น ก็เป็นการปรุงสดใหม่ทุกครั้ง ทำให้บางครั้งบางเมนูอาจจะใช้เวลาในการทำซักนิด
• พนักงานบริการดี ยิ้มแย้ม ยินดีให้เราสอบถามข้อมูลแต่ละเมนู
• ห้องอาหารกว้างขวางโปร่งสบาย แม้วันที่ไปคนจะแน่นแต่ก็ไม่รู้สึกอึดอัด
• การไปทานอาหารที่นี่ ต้อง โทรจองล่วงหน้าเพราะห้องอาหารโดยเฉพาะวันอาทิตย์ค่อนข้างแน่นเนื่องจากที่นี่มีลูกค้าประจำค่อนข้างมาก (ประจำถึงขนาดมีป้ายชื่อแบบถาวรเอาไว้จองโต๊ะกันเลยทีเดียว)

สนนราคาติ่มซำบุฟเฟต์อยู่ที่ 1,150 เนทรวมเครื่องดื่มแล้ว (ชาร้อน-เย็น, และเก๊กฮวยร้อน-เย็น)เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ลด 50%  ห้องอาหารเปิดเวลา 11.30-14.30 น. ไม่จำกัดเวลาทาน สำรองที่นั่ง โทร 02-656-7700 ต่อ 4245