Dec-2015
บ้านพักประวัติศาสตร์ หลวงราชไมตรี .. ที่ที่สายน้ำจะไหลย้อนกลับ
. . บ้านพักประวัติศาสตร์ หลวงราชไมตรี . .
ที่ที่สายน้ำจะไหลย้อนกลับ
จะดีมั๊ยถ้าโรงแรมที่เราพักเกิดจากการรวมตัวของคนในชุมชนแทนที่จะเป็นนายทุน
จะดีมั๊ยถ้าเงินแต่ละบาทที่เราจับจ่ายใช้ในการนอนโรงแรมที่เราไปเที่ยว จะกลับคืนสู่ชมุชน
เพื่อเป็นการอนุรักษ์วิถีชุมชนนั้นไว้ ให้คงอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน
ที่พักที่เป็นเหมือนดังความฝันแบบนี้เกิดขึ้นจริงแล้วที่นี่
“บ้านพักประวัติศาสตร์ หลวงราชไมตรี”
ณ ชุมชนริมน้ำจันทบูรจังหวัดจันทบุรีนั้น นอกจากจะมีที่เที่ยวเก๋ๆ
ที่จะทำให้เราได้ย้อนอดีตไปสู่ประวัติศาสตร์แล้ว
ที่นี่ยังมีที่พักน่ารักๆสไตล์บูทีคโฮเทลแห่งหนึ่งที่น่าสนใจมากครับ
ที่นี่คือ บ้านพักประวัติศาสตร์ หลวงราชไมตรี
ซึ่งพึ่งเปิดให้บริการเมื่อปลายปี 2557 ที่ผ่านมานี่เอง
โดยที่แห่งนี้เกิดจากความร่วมมือร่วมแรง และร่วมใจของ
ชมรมพัฒนาชุมชนริมน้ำจันทบูร ร่วมกับ สถาบันอาศรมศิลป์
ก่อตั้งเป็น “บริษัท จันทบูรักษ์ดีจำกัด”
ซึ่งการก่อตั้งบริษัทขึ้นมานั้น
หาใช่เป็นการก่อตั้งเพื่อมุ่งหวังกำไรเพียงอย่างเดียว
หากแต่เป็นการก่อตั้งบริษัทในรูปแบบ Social Enterprise
ที่เปิดโอกาสในคนในชุมชนรวมไปถึงคนทั่วไป
ได้มีโอกาสร่วมถือหุ้นเป็นเจ้าของบ้านหลวงราชไมตรีนี้ร่วมกัน
เพื่อเป็นการอนุรักษ์ “วิถีชุมชน” ของชาวจันทบูร
ให้คงอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืนครับ
บ้านพักประวัติศาสตร์ หลวงราชไมตรี เกิดจากการนำบ้านเก่าของหลวงราชไมตรี
ซึ่งเป็นหนึ่งในปูชนียบุคคลของจังหวัดจันทบุรีมาปรับเป็นที่พักครับ
ทำให้ที่นี่นอกจากจะเป็นบูทีคโฮเทลเก๋ๆแล้ว
ที่นี่ยังเป็นเสมือนพิพิทธภัณฑ์อีกด้วย
เพราะมีการนำเอกสารราชการรวมถึงหนังสือ และเครื่องใช้เก่าๆ
ในสมัยก่อนมาจัดแสดงอยู่ในบ้านพักแห่งนี้ด้วย
และที่เก๋กว่านั้นคือที่บ้านพักประวัติศาสตร์ หลวงราชไมตรี นั้น
จะมีการทำเป็นห้องพักทั้งหมด 12 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องจะมีชื่อที่แตกต่างกันไป
ชื่อห้องแต่ละห้องนั้นจะมีการตกแต่งแสดงถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ต่างๆ
รวมไปถึงเรื่องราวการดำเนินชีวิตของหลวงราชไมตรี
ส่วนตัวแล้วผมได้มีโอกาสมาพักที่บ้านพักนี้ในปีที่ผ่านมาถึง 3 ครั้ง
ซึ่งในแต่ละครั้งก็ได้พักในห้องที่แตกต่างกันไปคือ
“ห้องวิถีจันท์” “ห้องของป่าสมุนไพร”และ “ห้องอีสต์เอเชียติค”
“ห้องวิถีจันท์”
ห้องวิถีจันท์นั้นเป็นห้องที่อยู่ชั้นสองทางด้านหน้าของบ้านพัก
ซึ่งอยู่ที่หัวมุมทำให้จากห้องพักนี้สามารถมองเห็นวัดโบสถ์
และเห็นวิถีชาวจันท์ผ่านชุมชนจันทบูร
คุณนายผมกะลังชมวิถีจันท์เพลินเลย…
ห้องนี้ขนาดไม่ใหญ่นักสามารถนอนได้ 2 คนราคาสุทธิต่อคืนอยู่ที่ 1,800 บาท
“ห้องของป่าสมุนไพร”
ห้องสมุนไพรจะมีการจัดแสดงถึงสมุนไพรที่สามารถหาได้จากป่าที่จังหวัดจันทบุรี
อาทิ กระวาน นอกจากนั้นยังมีเอกสารต่างๆที่แสดงให้เห็นว่า
หลวงราชไมตรีนั้นได้มีการติดต่อเพื่อนำสมุนไพรเหล่านั้นขายไปยังต่างประเทศ
สำหรับห้องนี้ห้องจะแบ่งเป็นสองชั้น โดยที่ด้านล่างจะเป็นโต๊ะทำงาน
และด้านบนจะเป็นฟูกนอน ซึ่งอาจจะไม่เหมาะสำหรับผู้สูงอายุเพราะต้องปีนบันได
สนนราคาห้องนี้อยู่ที่ 1,550 บาท
“ห้องอีสต์เอเชียติค”
ห้องอีสต์เอเชียติค เป็นห้องที่กล่าวถึงบริษัทคู่ค้า ของหลวงราชไมตรี
ที่เป็นส่วนสำคัญทำให้ยางพาราจากจันทบุรี ขายออกไปทั่วโลก
สำหรับห้องนี้ถือเป้นห้องขนาดใหญ่ และที่พิเศษที่สุดคือมีระเบียงให้สามารถออกไปนั่งเล่น
ชมบรรยากาศของริมน้ำจันทบูรได้ครับ
สนนราคาห้องนี้อยู่ที่ 3,090 บาท
สำหรับเพื่อนๆที่อยากมาพักที่นี่นั้นหากเป็นวันเสาร์อาทิตย์
แนะนำว่าต้องจองล่วงหน้านะ
เพราะว่าห้องพัก 12 ห้องนั้นจะรองรับผู้เข้าพักได้เพียง 25 คนเท่านั้นครับ
และที่นี่เนื่องจากเป็นบ้านเก่าที่ยังคงใช้โครงสร้างเดิมทั้งหลัง
ซึ่งถือว่ามีความเปราะบาง ที่นี่จึงมีกฎง่ายๆคือ
“ห้ามวิ่ง” เนื่องจากเป็นพื้นไม้ที่เชื่อมทั้งหลังการวิ่งจะเสียงดังและรบกวนผู้อื่น
การอาบน้ำจะต้องปิดผ้าม่านทุกครั้งเพื่อไม่ให้น้ำกระเด็นโดนไม้ซึ่งอาจสร้างความเสียหายได้
และการที่บ้านพักแห่งนี้ตั้งอยู่ในชุมชนริมน้ำจันทบูร
ช่วงเช้าจึงสามารถตื่นมาตักบาตรได้ครับ เพราะเป็นชุมชนที่มีประชาชนอาศัยอยู่
โดยฝั่งตรงข้ามบ้านพักฯ จะมีชาวบ้านที่อาศัยอยู่ทำอาหารเป็นชุดไว้สำหรับใส่บาตรครับ
ซึ่งคนขายเองก็ทำขึ้นมาเพื่อตักบาตรเองด้วยเช่นกัน
สำหรับมือเช้าปกติแล้วทางบ้านพักจะมีหลากหลายแบบให้เลือกครับ
แต่ว่าแต่ละวันอาจจะมีให้เลือกแตกต่างกันไป
เพราะอาหารแต่ละแบบนั้นก็ล้วนมาฝีมือจากชาวบ้านในชุมชนจันทบูรนั่นเองครับ
อาทิ “ข้าวต้มจันทบูร” ซึ่งจะเป็นเหมือนข้าวต้มหมูสับ
แต่จะโรยด้วยไข่เจียวซอยและหัวไชโป้วซอยครับ
รวมไปถึง “ก๋วยจั๊บป้าไหม” ซึ่งร้านอยู่เยื้องๆบ้านพักฯนี่เองครับ
ส่วนขนมอร่อยอีกอย่างที่ไม่ควรพลาดคือ “ขนมไข่ป้าไต๊” ครับ
ซึ่งที่บ้านพักเองก็ได้มีการนำขนมไข่ ป้าไต๊มาเป็น มินิบาร์ของห้องพักด้วยครับ
คุณป้าไต๊แม้ปัจจุบันจะอายุอานามไป 80 กว่าปีแล้ว
แต่แกยังคงนั่งทำร่วมกับทายาทของแกอยู่ครับ
ขนมไข่ป้าแกหอมกรอบมากๆครับ
สำหรับการจองห้องพักนั้นสามารถจองได้ 3 ช่องทางครับคือ
ซึ่งการจองทั้งสามแบบนี้เท่าที่ผมดูราคาให้จะราคาเท่ากันครับ ส่วนตัวผมอยากให้เพื่อนๆจองตรงกับทางบ้านพักฯ เลย เพราะสามารถเลือกห้องที่ต้องการได้ และเพื่อให้โรงแรมได้รับเงินอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยโดยที่ไม่ถูดเอเยนซี่หักเปอร์เซนต์ เพื่อจะได้นำรายได้กลับไปพัฒนาชุมชนได้อย่างเต็มที่ด้วยนั่นเองครับ
เสน่ห์ของบ้านพักประวัติศาสตร์ หลวงราชไมตรีนั้น นอกจากตัวบ้านพักเองแล้ว
ก็เห็นจะเป็นชุมชนที่อยู่โดยรอบนี่แหละครับที่จะทำให้เราเสมือนได้ย้อนเวลาไปยังอดีต
ได้ใช้ชีวิตอย่างช้าๆและเรียบง่ายนั่นเอง สมกับคอนเซปต์ของที่นี่