Oct-2015
เที่ยวทั่วไทยไปกับ AccorHotels ถูกสนุกแถม “ลดหย่อนภาษี” ได้ด้วย
ปลายปีใกล้เข้ามาแล้ว… นั่นแปลว่าที่ประเทศไทยบ้านแสนอบอุ่นของเราจะเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวไฮซีซั่นอีกแล้วนั่นเอง.. เพื่อนๆได้มีการวางแผนไปเที่ยวช่วงปลายปีที่ไหนแล้วหรือยังครับ ถ้ายังผมจะชวนเพื่อนๆออกไปเที่ยวกันครับ… เพราะนอกจากการท่องเที่ยวของพวกเราจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ผมจะมาเตือนเพื่อนๆว่า ค่าโรงแรมที่เราจ่ายไปนั้นเราสามารถนำไป “ลดหย่อนภาษี” ได้ด้วยจ้าาาา…..
เที่ยวทั่วไทยไปกับ AccorHotels ถูกสนุกแถม “ลดหย่อนภาษี” ได้ด้วย
ช่วงปลายปีมักเป็นช่วงที่ทุกคนออกเดินทางไปท่องเที่ยวทั่วประเทศ เพราะเป็นช่วงที่ทั้งอากาศ และบรรยากาศเป็นใจต่อการเฉลิมฉลอง แต่เพื่อนๆทราบหรือไม่ครับในปี 2558 นี้ (จริงๆเริ่มตั้งแต่ ธันวาคม 2557 แล้ว) เป็นปีที่มีมาตรการภาษีที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวภายในประเทศด้วยครับ ประกาศจากกรมสรรพากร นั้นมีการระบุว่า ค่าบริการนำเที่ยวภายในประเทศ หรือ ค่าที่พักโรงแรมภายในประเทศ สามารถนำมา “ลดหย่อนภาษี” ได้ด้วย ดังนั้นในปลายปีนี้ถ้าเพื่อนๆจะจองโรงแรมไปเที่ยวกันอย่าลืมใช้สิทธิ์เรื่องการลดหย่อนภาษีกันด้วยนะครับ
แต่ไม่ใช่ว่าทุกที่พักหรือทุกโรงแรม จะสามารถนำใบเสร็จมาลดหย่อนภาษีได้นะครับ วันนี้มาดูกันว่าเกณฑ์การ “ลดหย่อนภาษี” ในส่วนของ ค่าที่พักโรงแรมภายในประเทศ เป็นอย่างไร ปลายปีนี้เพื่อนๆทุกคนจะได้สามารถเที่ยวได้อย่างฟินๆ แถมยังมีเงินเหลือจากการ “ลดหย่อนภาษี” อีกด้วยจ้า
เกณฑ์การ “ลดหย่อนภาษี” จากมาตรการภาษี
- ใบเสร็จรับเงินจะต้องลงวันที่ในวันที่ 1 มกราคม 2558 – 31 ธันวาคม 2558 (ดังนั้นถ้าไปเที่ยวเค้าท์ดาวน์ รีบจ่ายเงินและขอใบเสร็จลงวันที่ก่อนสิ้นปีนะคร้าบบบบ
- ข้อมูลในใบเสร็จจะต้องมี
- ชื่อ – นามสกุล ตามข้อมูลทะเบียนบ้าน
- ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน
- เลขประจำตัวประชาชนของผู้เสียภาษี
- ผู้ที่จะขอลดหย่อนภาษีจะต้องเป็น บุคคลธรรมดา หากเป็นนิติบุคคลจะไม่สามารถลดหย่อนภาษีได้จ้า
- ค่าใช้จ่ายที่สามารถลดหย่อนภาษีได้คือไม่เกิน 15,000 บาท / คน
- ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม (โรงแรมที่จะไปพัก) ต้องเป็นโรงแรมที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม ซึ่งทางสรรพากรทำรายชื่อโรงแรมกว่า 9,000 แห่งไว้ให้ ที่นี่แล้วจ้า
- กรณีจองที่พักผ่านเอเยนซี่ต่างๆ ใบเสร็จที่ออกโดยเอเยนซี่นั้น จะต้องเป็นบริษัทที่อยู่ในประเทศไทยเท่านั้น เช่น หากจองไปพักที่ Mercure Pattaya Ocean Resort ซึ่งเป็นโรงแรมที่มีชื่ออยู่ในรายการที่สรรพากรระบุว่าสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ แต่หากเราจองผ่านเอเยนซี่ และมีการชำระเงินผ่านเอเยนซี่ไป ถ้าใบเสร็จที่เอเยนซี่ออกให้เป็นบริษัทที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทย เช่น สิงคโปร์ กรณีเช่นนี้ไม่สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้จ้า
จะเห็นว่ามีเกณฑ์การลดหย่อนเล็กน้อยซึ่งก็ไม่ได้มากมายอะไรครับ แต่ข้อที่ต้องดูให้ดีๆคือข้อ 5 และ ข้อ 6 ครับ ว่าโรงแรมที่เราไปพักนั้นอยู่ในรายชื่อที่สรรพากรให้ลดหย่อนภาษีได้ และเรามีการจ่ายเงินให้กับผู้ประกอบการที่อยู่ในไทยหรือไม่นั่นเองครับ
จองโรงแรมกับเครือ AccorHotels พักปลอดภัยมีมาตรฐานและสามารถ “ลดหย่อนภาษี” ได้ชัวร์ๆ
จากเกณฑ์ข้อ 5 หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องเอาเฉพาะโรงแรมตามรายการที่สรรพากรกำหนดด้วย คำตอบก็คือ โรงแรมตามที่สรรพากำหนดนั้น เป็นโรงแรมที่ได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง ซึ่งแปลว่าเป็นโรงแรมที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับการพักครบถ้วนตามเกณฑ์ของพระราชบัญญัติโรงแรมนั่นเองครับ ซึ่งหนึ่งในเครือที่มีโรงแรมในประเทศไทยจำนวนมาก (56 โรงแรมทั่วประเทศไทย) และทุกโรงแรมมีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง ที่จะสามารถนำใบเสร็จไป ลดหย่อนภาษี ได้แน่นอนคือเครือ AccorHotels นั่นเองครับ
ซึ่งเพื่อนๆสามารถหาโรงแรมที่อยากไปพักได้ที่ http://www.accorhotels.com/th/thailand/index.shtml และโรงแรมทุกโรงแรมในเครือ AccorHotels ก็สามารถการันตีเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยและเรื่องของการ “ลดหย่อนภาษี” ได้ 100% แน่นอนครับ
จองตรงกับโรงแรม ถูกและคุ้มค่า กว่าการจองผ่านเอเยนซี่จริงหรือ ??
ปกติแล้วเอเยนซี่ต่างๆจะมีการทำข้อตกลงกับทางโรงแรมเลยว่าห้ามโรงแรมขายห้องในราคาถูกกว่าเอเยนซี่ (เป็นโมเดลธุรกิจการโรงแรมที่เหมือนกันทั่วโลก) คำถามคือ ถ้าอย่างนั้นเราไปจองผ่านเอเยนซี่ อาจจะได้ราคาถูกกว่าดีไหม เพื่อให้เห็นภาพชัดๆ ผมขอเทียบให้ดูกันเห็นๆเลยครับกับ 3 เว็บที่ผมเองใช้เป็นประจำคือ Agoda.com , Booking.com และ Expedia.co.th
ตัวอย่าง… ผมลองค้นหาโรงแรม ไอบิสภูเก็ตป่าตอง ในวันที่ 10-12 พฤศจิกายน 2558 ดูครับจะเห็นว่าราคาห้องจากเว็บ AccorHotels เท่ากันกับทั้ง 3 เว็บเป๊ะๆที่ 3,798.40 บาท ซึ่งทั้งหมดเป็นราคาแบบ non-refund เหมือนกัน แต่ Agoda.com Booking.com รวมไปถึง Expedia.co.th ที่แม้จะเป็นเว็บ .co.th และมี Office ในเมืองไทยก็ตาม แต่เวลาออกใบเสร็จจะออกใบเสร็จในนามของบริษัทที่มีที่ตั้งอยู่ต่างประเทศ (สิงคโปร์) ซึ่งแน่นอนว่าเราจะไม่สามารถนำมาหักภาษีได้ครับ
นั่นแปลว่าแม้ราคาที่จองผ่าน AccorHotels จะเท่ากันแต่ในปีนี้ก็เสมือนว่าถูกกว่าเพราะใบเสร็จที่ออกจากโรงแรมนั้นสามารถนำไป “ลดหย่อนภาษี” ได้ด้วยนั่นเองอย่างผมเองฐานภาษีอยู่ที่ 20% นั่นแปลว่าผมจองผ่าน AccorHotelsผมจะประหยัดเงินภาษีไปถึงเกือบๆ 760 บาทเลยทีเดียวครับ
ดังนั้นปลายปีนี้ผมเลยขอชวนเพื่อนๆไปเที่ยวไทยกันครับ ทั้งเพื่อความสนุกสนานของตัวเอง แล้วยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้มีการใช้จ่าย เงินสะพัด และถ้าจองโรงแรมกับ AccorHotels แล้วเพื่อนๆยังสามารถเอาใบเสร็จไป “ลดหย่อนภาษี” ได้อีกด้วยครับ และยิ่งกว่านั้นตอนนี้เครือ AccorHotels นั้นยังมีแคมเปญจน์ จองทริปเดียวลุ้นเที่ยว 3 ทริปในฝัน! อีกด้วยครับ
รู้อย่างนี้แล้ว… ปลายปีนี้ออกไปเที่ยวทั่วไทยกับ AccorHotels กันดีกว่าครับ