When Typhoon come to TAIWAN : ตะลุยไต้ฝุ่นใน “ไต้หวัน”

ไต้หวัน ที่ที่ว่ากันว่าเป็นสถานที่ที่ปีๆหนึ่งเจอพายุมากจนเป็นเรื่องปกติของคนที่นั่น
แต่กับนักท่องเที่ยวอย่างเรา เมื่อไปเจอกับไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดในรอบ 100 ปีพัดเข้ามา
จะเป็นยังไงบ้างไปชมกันครับ

00-1-taiwan

สวัสดีเพื่อนๆทุกคนอีกครั้งครับ

เมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Travel Planet Xpereinces ได้รับเชิญจาก
การท่องเที่ยวไต้หวันประจำประเทศมาเลเซีย…   อ่ะๆ อย่าพึ่งงงครับ..
เนื่องจากประเทศไทยไม่มีออฟฟิศของการท่องเที่ยวไต้หวันอยู่
ผู้ดูแลโซนประเทศไทยจึงเป็นการท่องเที่ยวไต้หวันประจำประเทศมาเลเซียครับ

โดยไปเที่ยวทั้งหมด 5 วัน 4 คืนครับ ซึ่งทริปนี้เลื่อนไปเลื่อนมาหลายครั้งมากครับ
เนื่องจากผู้ร่วมทริปรวมทั้งผมเองติดงาน ติดทริปกัน มาลงวันที่ 6-10 สิงหาคม 2558
ตอนแรกก็ว่าจะไม่มีอะไรแล้วที่ไหนได้ ช่วงที่ผมไปเป็นช่วงที่พายุ Soudelor เข้าไต้หวันพอดี
แล้วเจ้าพายุที่ว่ามานี้ก็ดันเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในรอบกว่าร้อยปีเสียด้วย

แหม่…. อะไรจะเป๊ะขนาดนั้น ไปดูกันครับว่าในช่วงก่อนและหลังพายุ ไทเปไต้หวันเป็นยังไงกันบ้างครับ

00-2-taiwan


 

มุ่งหน้าสู่ “ไต้หวัน” ด้วยสายการบิน TigerAir Taiwan

สำหรับการเดินทางในครั้งนี้ผมใช้สายการบิน TigerAir Taiwan ครับ
ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำครับ ผมไปบินไฟลท์  IT 506 ออกจากดอนเมืองตอน 23:50 ครับ
และไปถึงไต้หวันตอน 4:20 ใช้เวลา  3:30 ชั่วโมงครับ (เวลาไต้หวันเร็วกกว่าไทย 1 ชม.ครับ)

แต่ทั้งนี้เวลาบินแต่ละวันจะไม่เหมือนกันนะครับยังไงลองตรวจเช็คจากเว็บไซต์ดูได้เลยนะครับ

01-Taiwan15-0523


อุปกรณ์การถ่ายภาพ การติดต่อสื่อสาร และการจองโรงแรมในทริปนี้

สำหรับทริปนี้เป็นทริปที่ผมพึ่งกลับจากทริปใหญ่ (ยุโรปตะวันออก) ได้แค่ไม่ถึง 1 อาทิตย์ครับ
การเดินทางครั้งนี้ผมเลยจัดอุปกรณ์ชุดเบาๆไปครับคือ

– Canon EOS 6D
– EF 16-35 f/2.8l II
– EF 24-70 f/2.8l II

และการเดินทางไปครั้งนี้ผมได้เราเอามือถือ Huawei Honor 6 Plus มาใช้งานด้วยครับ
ซึ่งมือถือตัวนี้จุดเด่นคือกล้องที่มากับมือถือนั้น กล้องหลังมี sensor  2 ตัวครับ
ตัวแรกใช้สำหรับการถ่ายทั่วไป และตัวที่สองเป็น sensor ที่ใช้สำหรับการถ่ายแบบรูรับแสงกว้างครับ
ซึ่งทำให้เราได้ภาพแบบหลังละลายฟรุ้งฟริ้งๆจากกล้องมือถือได้เลยครับ ส่วน Feature อื่นๆก็คล้ายๆมือถือรุ่นอื่นๆครับ
** สำหรับในรีวิวนี้ภาพไหนที่ใช้ภาพจากกล้อง Huawei Honor 6 Plus ผมจะใส่ Logo ของ Huawei ไว้ในภาพนะครับ ซึ่งภาพทั้งหมดนั้นถ่ายสดๆมาจากกล้องเลยครับไม่ได้นำมาแต่งด้วย LR ต่อแต่ประการใดครับ
สำหรับด้านการติดต่อสื่อสารที่ทุกวันนี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปแล้ว..
ด้วยความที่ว่าไฟลท์ของผมไปถึงเช้ามาก (4:30) ซึ่งซุ้มขายมือถือยังไม่เปิดครับ
และด้วยโปรแกรมที่แน่นนิดนึงที่ทาง การท่องเที่ยวของไต้หวันจัดไว้ให้
เพื่อไม่เป็นการวุ่นวายในการหาซิม ผมจึงเปิด  DTAC Roaming ไปครับ

สนนราคาอยู่ที่วันละ 450 บาท
หรือถ้าเป็นแพ๊คเกจ 3 วัน 1,299 บาท และ 5 วัน  2,099 บาทครับ
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่   DTAC Roaming for Taiwan

ซึ่งข้อสำคัญในการใช้งานคือเราจะต้องเซต operator ของเราเป็น Manual แล้วเลือก Chunghwa Telecom เท่านั้นครับ เพราะถ้าเซตเป็น Auto แล้วไปติดเป็นเจ้าอื่นจะโดนค่าใช้งานที่แพงมากครับ

สำหรับการจองโรงแรม เนื่องจากเป็นช่วงที่มีพายุเข้าพอดี ทำให้แผนการเดินทางมีการเปลี่ยนแปลงพอสมควร มีการเปลี่ยนโรงแรมหลายรอบ ผมเลยได้ใช้งาน Hotels Combined เป็นตัวช่วยในการหาโรงแรมครับ ซึ่งผมได้รีวิวไว้แล้วที่นี่ครับ คลิก

02-Taiwan15-0333


มื้อเช้าสไตล์ไต้หวันที่ Fu Hang Dou Jiang

พิกัด GPS : 25.044235 , 121.524835 / N25°2.6541 , E121°31.4901
การเดินทาง :  
MRT Shandao Temple, Exit 4 or 5

สิ่งแรกที่ทางการท่องเที่ยวไต้หวันพาผมมาเป็นที่แรกคือ ให้มาชิมอาหารเช้าสไตล์ไต้หวันครับ
ซึ่งร้านนี้เป็นร้านที่ดังมากครับ ผมไปถึงที่ร้านตอน 5:30 ร้านอยู่ที่ชั้นสองของตึก
ปรากฎว่ามีคิวต่อแถวยาวออกมานอกตึกแล้ว…. โหวววว

03-Taiwan15-0010 04-Taiwan15-0016

ตัวของกินจะเป็นน้ำเต้าหู้มีทั้งร้อนและเย็นครับ โดยเค้าจะชงแบบจืดให้เราแล้วที่โต๊ะจะมีน้ำตาลให้เติมเอาเองครับ ส่วนของที่กินด้วยจะเป็นคล้ายๆกับปาท่องโก๋มีไส้ครับ เป็นแป้งทอด แป้งอบ (มีหลายแบบ) มีแบบแป้งอบห่อด้วยปาท่องโก๋ด้วย แล้วก็ยัดไส้มีทั้งหวานและเค็มครับ ตัวที่อร่อยหน่อยผมว่าเป็นข้าวเหนียวสอดไส้ครับ

ถามว่าโดยรวมอร่อยมั๊ย ก็ถือว่าใช้ได้ครับ ควรจะมาลองครับ แต่ถามผมว่าจะให้กลับไปกินอีกมั๊ยอาจจะไม่ เพราะส่วนตัวไม่ได้เป็นคนชอบกินอาหารพวกแป้งเท่าไหร่ 5555

edf

edf

สำหรับภาพอาหารผมใช้โหมดถ่ายชัดตื้น ถ่ายมาด้วยกล้องจาก Huawei Honor 6 Plus จะเห็นว่าหลังละลายฟรุ้งฟริ้งเลยครับ ถ้าผมจำไม่ผิดจะสามารถปรับได้ตั้งแต่ f/0.85 แต่อย่าเอาตัวเลขไปเทียบกับกล้อง DSLR นะครับมัน sensor คนละอย่างกันครับ

ซึ่งส่วนตัวแล้วผมชอบโหมดนี้ของกล้องมากครับ เพราะมันเอามาถ่ายอาหารแล้วสวยดีครับ (จริงๆแล้วเค้า Design มาให้เอามาถ่าย Portrait ให้หลังละลาย)


 

กู้กง พิพิธภัณฑ์แห่งชาติไต้หวัน

พิกัด GPS : 25.102355, 121.548525 / N25°6.1413 , E121°32.9115
การเดินทาง :
MRT Shilin ต่อรถบัสสาย R30, 255, 304, 815
ค่าเข้า 250 NT$
เว็บไซต์ http://www.npm.gov.tw/en/

หลังจากทานข้าวเช้าเจ้าดังเสร็จผมก็แว๊บไปเที่ยวต่อที่กู้กง หรือ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติไต้หวันครับ ที่นี่ว่ากันว่าในสมัยที่ เจียงไคเช็ค ย้ายจากจีนมาที่เกาะไต้หวันหลังจากการพ่ายแพ้ต่อคอมมิวนิสต์ของ เหมาเจ๋อตุง นั้นนอกจากเจียงไคเช็คจะพาคนฝีมือดีที่จะมาสร้างประเทศใหม่ที่ไต้หวันแล้ว ยังได้มีการนำวัตถุและศิลปะมีค่าทางประวัติศาสตร์ของจีนติดมาด้วย ซึ่งของต่างๆล้วนถูกเก็บรักษาอย่างดีที่  พิพิธภัณฑ์แห่งชาติไต้หวันนี่เองครับ ว่ากันว่าของทั้งหมดนี้มีอยู่ราวๆ 600,000 ชิ้นซึ่งมากเกินกว่าจะสามารถจัดแสดงได้ทั้งหมด ที่นี่จึงมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนของที่จัดแสดงทุกๆ 3 เดือนครับ

ภายนอกนั้นว่ากันว่ามีการสร้างตัวพิพิธภัณฑ์เหมือนกับพระราชวังต้องห้ามที่ปักกิ่งที่นี้จึงเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่ากู้กงนั่นเองครับ

08-Taiwan15-0073 09-Taiwan15-0091 11-Taiwan15-0067

จุดเด่นที่นักท่องเที่ยวมาชมกันมากที่สุดก็คือ หินรูปเนื้อหมูสามชั้น และหยกรูปผักกาดขาว ตัวหินรูปหมูสามชั้นนั้นเป็นหินที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติที่เกิดการไล่สีของชั้นหินซึ่งเมื่อเอามาแกะสลักแล้วจึงมีความเหมือนหมูสามชั้นเป็นอย่างมากครับ ซึ่งเจ้าหินก้อนนี้ถือว่าหาชมยากมากๆๆๆๆ ครับ ส่วนหยกรูปผักกาดขาวนั้นเกิดจากหยกธรรมชาติสองสีคือสีขาวและเขียวครับ ซึ่งแน่นอนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นยากมาก และเมื่อได้ช่างแกะสลักมือดีมาแกะสลัก จึงทำให้หยกก้อนนี้มีความเหมือนผักกาดขาวอย่างยิ่งครับ (สำหรับสาเหตุที่เค้าแกะสลักเป็นรูปผักกาดขาวเพราะเขาเชื่อว่ามันเป็นผักที่ใช้ในงานมงคลอะไรประมาณนั้นครับ)

ทั้งนี้ภายในพิพิธภัณฑ์ที่นี่ห้ามถ่ายรูปอย่างเด็ดขาดครับ ผมเลยไม่มีภาพสวยๆมาฝากกันครับ ซึ่งเค้าจะมีตู้ Locker ให้สามารถฝากของได้ครับ

ปล. ภาพที่ถ่ายมาฟ้าใสและแดดแรงมากครับ… จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือสภาพอากาศก่อนพายุจะเข้าเพียง 1 วัน


 

Top of Taipei : Taipei 101

พิกัด GPS : 25.033961, 121.564488 / N25°2.03766 , E121°33.86928
การเดินทาง :  
MRT Taipei 101 / World Trade Center
ค่าเข้า 500 NT$
เว็บไซต์ http://www.taipei-101.com.tw/en/index.aspx

สำหรับคนที่มาเที่ยวไต้หวันแล้วไม่ได้มาที่นี่ก็เหมือนว่ามาไม่ถึงครับ ใช่ล่ะครับ มันคือตึกไทเป 101 ซึ่งเป็นตึกที่สูงที่สุดในไทเปแห่งนี้ครับ ซึ่งที่ผ่านมาตึกนี้เคยเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกครับ (ปัจจุบันอยู่อันดับที่ 7 ครับ)

12-Taiwan15-0155

ที่ชั้นชมวิวนั้นจะเป็นการชมวิวในอาคารนะครับ สามารถใช้ขาตั้งกล้องได้ (แต่ก็ขอให้ไม่ไปเกะกะผู้เยี่ยมชมคนอื่นนะครับ) ดูแล้วมาถ่ายช่วงกลางคืนวิวก็ใช้ได้เลยครับ

13-Taiwan15-0119 14-Taiwan15-0123

ช่วงตอนออกจากตึกจะมีผ่านลูกตุ้มอันนึงครับ ซึ่งเค้าบอกว่าตัวนี้เป็นตัวที่ใช้ช่วยในการบาลานซ์ตึกเวลาที่เจอลมแรงอย่างพายุเข้ามาครับ ซึ่งหลังจากพายุ Soudelor พัดผ่านไปว่ากันว่าเป็นช่วงที่เจ้าลูกตุ้มนี้แกว่งเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์เลยครับ นั่นเป็นสิ่งที่ยืนยันความรุนแรงของพายุนี้ได้เป็นอย่างดี

15-Taiwan15-0128


 

ชิมเสี่ยวหลงเปาต้นตำรับที่ Din Tai Fung

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบ เสี่ยวหลงเปา แล้วคงพลาดไม่ได้กับการทาน Din Tai Fung ครับ ซึ่งก็ไม่ต้องไปหาที่ไหนไกลเลย เพราะมันอยู่ที่ใต้ตึก Taipei 101 พอดีครับ

ที่นี่คนจะเยอะมากครับ เพราะทัวร์ส่วนใหญ่ที่พานักท่องเที่ยวมาขึ้นตึกก็มักจะลงมาทานต่อกันที่นี่ล่ะครับ แต่ตัวร้านในนี้ก็ใหญ่โตกว้างขวางอยู่ครับ ตัวร้านจะเป็นห้องกระจกให้เห็นกรรมวิธีการปั้นเกี้ยวเลยครับ

sdr

dav

 

สำหรับอาหารรสชาติอร่อยมากครับ เครื่องเคียงก็อร่อยครับ ตัวเกี๊ยวและเสี่ยวหลงเปา ก็อร่อยดีครับ ตัวที่ผมชอบที่สุดจะเป็นเสี่ยวหลงเปาที่เป็นซุปปูครับ น้ำซุปข้างในหวานมากกกกกก

18-Taiwan15-0134 22-Taiwan15-0145


 

 Toucheng Leisure Farm @ อี๋หลัน เมืองตากอากาศของชาวไต้หวัน

สำหรับโปรแกรมวันแรกหลังจากเที่ยวในไทเปเสร็จแล้วผมไปที่เมือง อี๋หลัน (Yilan) กันก่อนครับ เมืองนี้อยู่ทางชายฝั่งตะวันออกของประเทศไต้หวัน ซึ่งเป็นเมืองแรกๆที่จะเจอพายุครับ เรียกว่าเราไปรับพายุกันเลย 5555
จริงๆแล้วไม่ใช่ครับ เพราะยังพอมีเวลาก่อนพายุจะเข้าตะหากครับ ตามพยากรณ์แล้วพายุจะเข้าในอีกวันช่วงเย็นๆค่ำๆ ซึ่งทำให้จากโปรแกรมเดิมที่ผมจะไปที่ อี๋หลัน 2 คืนเราเลยต้องลดเหลือแค่ 1 คืนครับ

ซึ่งวันที่ไปผมได้ไปพักที่ Toucheng Leisure Farm ครับ ซึ่งที่นี่จะอยู่ริมเขามีพื้นที่กว้างมาก ถ้าบอกว่าคนกรุงเทพฯ วันหยุดจะไปพักที่เขาใหญ่ ที่นี่ก็คงเป็นเขาใหญ่ของของไต้หวันนั่นล่ะครับ แต่ต่างกันตรงที่ อี๋หลัน นั้นนอกจากเขาสวยๆสบายๆแล้วยังมีชายหาดอีกด้วยครับ เรียกว่าผสมผสานระหว่างเขาใหญ่และหัวหินเข้าด้วยกันอะไรประมาณนั้นเลยครับ

สำหรับที่  Toucheng Leisure Farm นั้นถือว่าเป็นที่เที่ยวที่พักที่ค่อนข้างครบเครื่อง มีการจัดกิจกรรมต่างๆเยอะมาก มี Workshop นั่นนี่ให้ทำ เหมาะกับการพาเด็กๆมาเที่ยวมากๆครับ

พิกัด GPS : 24.907214, 121.850288 / N24°54.43284 , E121°51.01728
การเดินทาง : 
TRA Toucheng – มีรถจากโรงแรมมารับส่ง
เว็บไซต์ http://www.tcfarm.com.tw/

24-Taiwan15-0173 25-Taiwan15-0161 26-Taiwan15-0163

ฟ้ายังคงใสกิ๊งตอนผมไปถึง… ใสแบบไม่น่าเชื่อว่ามันจะมีพายุ 5555

สำหรับกิจกรรมแรกของการไปเที่ยวที่นี่คือการกินครับ 55 ที่นี่เค้าใช้ผลผลิตต่างๆที่ทางโรงแรมเป็นคนทำเองทั้งหมดครับ ซึ่งล้วนเป็นผลิตภัณฑ์แบบออแกนิคครับ คนที่มาพักที่นี่มื้อเย็นเค้าจะจัดเป็น BBQ Buffet ให้ครับ โดยในไลน์บุฟเฟต์จะมีอาหารท้องถิ่นให้ลองเพียบเลยครับ อย่างแรกที่ลองคือเจ้านี่ครับ ผมจำชื่อไม่ได้ละเป็นหมั่นโถวใส่หมูสามชั้นต้มซีอิ้วแล้วโรยด้วยงาและผักดอง เห็นหน้าตาแบบนี้ แต่อร่อยมากกกก… อร่อยจนลืมๆไปก่อนว่ากำลังกินหมูสามชั้นอยู่ 555

dav

ส่วนอาหารอื่นๆก็อร่อยครับ.. หลายอย่างที่ผมไม่ทันตักกินก็หมดซะแล้ว… เพราะแขกคนอื่นมาตักกันเร็วจริงๆ 5555 นอกจากนี้ยังมีอาหารแบบ Live Station เป็นพวกก๊วยเตี๋ยวครับ อร่อยมากกกก และที่เด็ดสุดคือ BBQ ครับเห็นหน้าตาดูธรรมดาแต่เนื้อเค้าสดและหมักได้ดีจริงๆครับ และอย่างที่บอกไปครับ เค้าใช้วัตถุดิบที่เค้าผลิตเองทั้งหมดเลยครับเลยสดจริงอะไรจริง

dav edf

 

สำหรับรอบดึกหลังจากอิ่ม (มาก) แล้วเค้ามี Workshop ลอยโคมกันครับ เค้าจะมีโคมลอยแบบที่บ้านเราลอยช่วงลอยกระทงอ่ะครับ เค้าจะให้เราเขียนตกแต่งโคม โดยใส่คำอธิษฐานลงไปครับ หลังจากนั้นก็ไปลอยโคมกันประมาณนั้น งานนี้เด็กๆที่มาที่นี่สนุกใหญ่เลยครับ

32-Taiwan15-0177 33-Taiwan15-0182

 

สำหรับอาหารเช้าก็จะเป็นข้าวต้มสไตล์ไต้หวันครับ ก็อารมณ์ข้าวต้มกุ้ยนั่นล่ะครับ แต่บอกเลยอร่อยมากกก

edf

ช่วงสายๆของวันที่สองผมไปเดินเล่นในฟาร์มของที่นี่ครับซึ่งอย่างที่บอกครับเป็นฟาร์มออแกนนิค ผักหลายอย่างชิ้นใหญ่มากๆ อ้อที่นี่เค้ามีเลี้ยงหนอนผีเสื้อด้วยนะครับ ผมลองเอา Huawei Honor 6 Plus มาถ่ายเจ้าหนอนดูด้วยพบว่ามันสามารถถ่ายมาโครได้ใช้ได้เลยครับ สามารถซูมเข้าไปถ่ายได้ใกล้มากๆๆๆๆ นอกจากนั้นที่นี่ยังมีโรงเก็บไวน์ด้วยนะครับ ที่นี่เค้าตกแต่งสไตล์จีนๆ เอาไวน์ใส่ในไหผมล่ะนึกว่าสาโท 5555

36-Taiwan15-0193 edf

39-Taiwan15-0224

ที่ฟาร์มนี้เค้ามีจัดกิจกรรมต่างๆ เยอะแยะมากครับครับ เช่นจุดนึงเค้าให้ลองโม่แป่งเอง ซึ่งหลังโม่เสร็จแล้วเค้าก็เอาแป้งนั้นไปทำเป็นก๊วยเตี๋ยวให้เราทานต่อเลยครับ

38-Taiwan15-0212

ที่นี่จริงๆแล้วสำหรับคนไต้หวันแล้วสามารถมาเที่ยวเล่นอยู่ได้ 2-3 วันสบายๆเลยครับ เพราะพื้นที่และกิจกรรมเยอะมากครับ แต่ช่วงที่ผมไปอย่างที่บอกครับว่าเป็นช่วงที่พายุเข้าพอดี เช้าวันนี้เริ่มมีลมแรง และมีฝนโปรยปรายลงมาบ้างแล้ว สายๆเลยรีบออกจากที่นี่เพื่อหนีพายุกันครับ


ทานสุกี้ไต้หวันที่ Tea & Rice Resort

พิกัด GPS : 24.655280, 121.762114 / N24°39.3168 , E121°45.72684
เว็บไซต์ http://www.tea-riceresort.com.tw/

จริงๆแล้วที่ อี๋หลัน ยังมีจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือเป็นพื้นที่ปลูกข้าวของไต้หวันครับ ที่นี่ถือเป็นพื้นที่ที่มีการทำนาข้าวเยอะที่สุดแห่งหนึ่งของไต้หวันเลยทีเดียว 40-Taiwan15-0258

ทำให้เมืองนี้มีกิจกรรมอีกอย่างที่ครอบครัวชาวไต้หวันมาเด็กๆมาเที่ยวกันคือ การทำ Workshop DIY ข้าวพอง ครับใช่ครับฟังไม่ผิดล่ะครับทำข้าวพองกัน โดยเริ่มจากการสีขาวและเอาข้าวไปอบจนได้สำเร็จออกมาเลยครับ ได้ข้าวพองที่ผมเป็นคนทำเองเป็นที่เรียบร้อย… เอามา Selfie ซะหน่อย 555

สำหรับกล้องหน้าของ  Huawei Honor 6 Plus นั้นมีความฉลาดอย่างนึงคือพอเราปรับมาใช้กล้องหน้าที่มีขนาดที่ 8 ล้านพิกเซลเท่ากันกับกล้องหลังนั้น มันจะมีฟังก์ชั่นหน้าเนียนมาทันที ก็เนอะเราใช้กล้องหน้าก็เพราะจะถ่าย Selfie อยู่แล้วนี่นาจริงมั๊ยครับ (ปล. ขนาดหน้าเนียนแล้วผมยังได้เท่านี้ ชีวิตมันเศร้า…. 555)

41-Taiwan15-0269 42-Taiwan15-0273 bty

 

แต่สำหรับการมาที่นี่จริงๆแล้วไม่ได้กะมาแค่ทำข้าวพองหรอกครับ ทีเด็ดของที่นี่คือ สุกี้สไตล์ไต้หวันครับ ซึ่งที่นี่ก็เช่นกันพืชผักที่เค้าเอามาเสิร์ฟเรานั้นเป็นผักออแกนิคทั้งหมดครับ ที่เห็นนี่คือ 1 ชุดสำหรับ 1 คนนะครับ รูปนี้ผมใช้  Huawei Honor 6 Plus โหมดรูรับแสงกว้างเหมือนเดิมแต่ปรับกล้องให้รูแคบลงมานิดนึงที่ f/2 เพื่อให้เห็นอาหารชัดทั้ง 2 ที่ครับ ผมว่าเจ้ามือถือตัวนี้ เอามาถ่ายเล่นแบบนี้ก็สนุกดีนะ

edf


Vigor Kobo: No.1  Feng Li Su

พิกัด GPS : 25.0673933,121.4376485 / N25°4.043598 , E121°26.25891
การเดินทาง :  MRT Xinpu, Exit 5, ต่อรถบัส No. 805 or 813 ไปทาง Far Eastern Logistics Co.
เว็บไซต์ http://www.vigorkobo.com

หลังกินสุกี้ไต้หวันเรียบร้อยพวกผมก็รีบบึ่งหนีพายุเข้ามาที่ไทเปกันครับ ที่ไทเปนั้นพายุยังมาไม่ถึงครับ โปรแกรมที่ทางการท่องเที่ยวพาไปคือพาไปทำ พายสัปปะรด ครับ คือแบบว่าทริปนี้ DIY สุดฤิทธิ์ 555 ที่ไต้หวันนั้นเนื่องจากมีการปลูกสัปปะรดเยอะมากเค้าจึงมีการนำสัปปะรดมาแปรรูปและทำเป็นของฝากกันในระดับประเทศกันเลยทีเดียวครับ ซึ่งคนไต้หวันเค้าบอกว่า สัปปะรดนั้นเป็นตัวแทนของ ความสำเร็จ ความมั่งคั่ง ความร่ำรวย และความรัก…

จึงทำให้ในไต้หวันนิยมใช้ของฝากเป็นพายสัปปะรดกัน ซึ่งร้านที่ผมได้ไปนี้ถือเป็นร้านดังมากของไต้หวันชื่อร้าน เว่ยเก๋อ มีหลายสาขา และปัจจุบันบริษัทได้จดทะเบียนเข้าตลาดหุ้นด้วยครับ

จุดเด่นของพายสัปปะรดที่นี่คือเค้าจะไม่ใส่สารกันบูดครับ ซึ่งนอกจากการมาซื้อเป็นของฝากแล้วที่นี่ยังมีกิจกรรมให้มาทำด้วยคือเค้าจะให้เรามาปั้นพายสัปปะรดเองครับ ใส่แม่พิมพ์เองแล้วเอาไปอบครับ สุดท้ายได้พายสัปปะรดที่เราเป็นคนทำเองกลับมาด้วยครับ

45-Taiwan15-0293 46-Taiwan15-0296

นอกจากพายสัปปะรดแล้ว ผมขอแนะนำอันนี้ครับเด็ดมากห้ามพลาดเด็ดขาดคือ ไอติมสัปปะรดครับ ผมสั่งแบบที่เป็นรสรวมวนิลา+สัปปะรด รูปนี้ลองเปิดใช้อีกฟังก์ชั่นนึงของ Huawei Honor 6 Plus นั่นคือการถ่ายภาพด้วยรอยยิ้มครับ.. พอเปิดโหมดนี้แล้วถือมือถือ ไม่ต้องกดครับแค่ยิ้ม กล้องมันจะถ่ายเองเลยครับ ซึ่งเท่าที่ลองใช้ผมถ่ายแบบว่าเยอะมากถ่ายติดๆกันมาหลายรูปเลย.. คืออารมณ์ว่ากล้องเห็นเราเหมือนจะยิ้มเมื่อไหร่ หรือทำปากใกล้เคียงการยิ้มมันก็จะถ่ายอัตโนมัติมาเลยครับbty


 

สำรวจร่องรอยความเสียหายจากพายุไต้ฝุ่น Soudelor ที่ย่านซีเหมินติง

วันที่สองนั้นผมไปพักที่โรงแรมแถวๆสถานีรถไฟ Taipei Main ครับก่อนพายุจะมาได้มีโอกาสมาถ่ายรูป Twilight หน้าโรงแรมแว๊บนึงครับหลังจากนั้นก็หมกตัวอยู่ในโรงแรมยาวเลยครับ เพราะพายุจะเข้ามาเต็มที่ช่วงราวๆ 4-5 ทุ่มครับ และก็ยาวไปยันเที่ยงอีกวันนึงเลยครับ..

ซึ่งถือว่าโชคดีที่ผมได้พักโรงแรมดี 5 ดาวเพราะตึกที่พักอยู่นั้นแข็งแรงดีมากๆครับ และอีกหนึ่งความโชคดีคือห้องผมอยู่ฝั่งตะวันตก (พายุเข้าทางฝั่งตะวันออก) ช่วงกลางคืนที่พายุเข้าก็เลยไม่รู้สึกอะไรเลยนอกจากเสียงหน้าต่างที่มีปึ้งปั้งเป็นครั้งคราว แต่เพื่อนที่อยู่ห้องอีกฝั่งบอกว่าเสียงพายุน่ากลัวมากกกก

49-Taiwan15-0351

ช่วงบ่ายวันที่สามหลังจากพายุพัดผ่านไทเปไปแล้ว เหลือแต่ลมที่ยังค่อนข้างแรงอยู่ ผมเลยมีโอกาสไปเดินสำรวจความเสียหายที่ย่าน ซีเหมินติง ซึ่งเป็นเสมือนสยามบ้านเราครับ เดินๆอยู่ก็พบว่า ต้นไม้ต่างๆล้มระเนระนาดครับ นี่ขนาดช่วงที่ผมออกไปบ่ายๆเนี่ยเค้าเริมมีการเก็บกวาดแล้วนะครับ แต่ก็ยังเห็นร่องรอยของพายุอยู่ไม่ใช่น้อยเลยครับ สมแล้วที่เป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในรอบกว่า 100 ปีของไต้หวันครับ

dav dav


 

金獅大酒樓 ร้านอาหารสไตล์ฮ่องกงย่านย่านซีเหมินติง

พิกัด GPS : 25.045230, 121.506500 / N25°2.7138 , E121°30.39
การเดินทาง : MRT Ximen, Exit 6

หลังจากเดินเล่นสำรวจร่องรอยความเสียหายจากพายุแล้ว… ผมก็รู้สึกว่ากะเพาะผมเริ่มเสียหายจากน้ำย่อยแล้วเช่นกัน มื้อกลางวันเลยไปหาของทานกันครับ.. เพราะโปรแกรมเที่ยวทั้งหมดในวันนี้ปลิวไปกับพายุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คงเหลือแต่โปรแกรมกินอย่างเดียวล่ะครับ ผมเลยให้คุณไกด์แนะนำร้านใกล้ๆโรงแรมครับก็ได้ร้าน 金獅大酒樓 มาครับร้านนี้เป็นร้านอาหารสไตล์ฮ่องกงที่ดังพอสมควรครับ แต่ในวันที่ผมไปเนื่องจากหลังพายุเข้า ลิฟท์หลักเลยเสียต้องเดินขึ้นลิฟท์อีกตัวนึงแล้วก็ต่อด้วยเดินบันไดหนีไฟในตึกซึ่งสภาพเน่ามากๆ 5555 แต่พอไปถึงร้านพบว่าคนมาที่นี่เยอะมากๆๆครับ แสดงว่ามันคงดังจริงๆล่ะ มาเริ่มจากติ่มซำกันก่อนเลยจ้า…

edf

 

ส่วนอาหารมื้อนี้ผมสั่งแบบเป็นเซตมาครับมีอะไรบ้างไปดูกันครับ…

edf edf edf

 

แน่นอนว่าหลังจากโปรแกรมเที่ยวยกเลิกไปหมดแล้ว โปรแกรมวันนี้ก็เลยเปลี่ยนเป็นไปช้อปปิ้งแทนครับ ผมเลยไปซื้อรองเท้าโอนิซึกะที่ห้าง Sogo ครับหลังจากซื้อเสร็จตอนเย็นเลยถ่าย Twilight มาจากตึก Sogo นั่นล่ะครับเห็น Taipei 101 อยู่ไกลๆ

61-Taiwan15-0379

หลังจากนั้นก็ไปกินข้าวเย็นที่ ซีเหมินติง อีกรอบ เย็นวันนั้นเริ่มมีคนออกมาเดินเล่นกันบ้างแล้ว เดินเล่นทั้งๆที่ยังมีซากจากพายุนั่นล่ะครับ ช่วงเดินเล่นนี่บางช่วงลมพัดมาแรงๆนี่ก็ยังดูน่ากลัวอยู่ครับผมเลยไม่ค่อยได้ควักกล้องมาถ่ายอะไรเท่าไหร่ มีแว๊บไปลองชิมไก่ทอด Hot Star แบบต้นตำรับครับ อร่อยดีชิ้นใหญ่มากกกกกก

sdr


Ice Monster ต้นตำรับ

พิกัด GPS : 25.041563, 121.555218 / N25°2.49378 , E121°33.31308
การเดินทาง : MRT Sun Yat-Sen Memorial Hall , Exit 1
เว็บไซต์: http://www.ice-monster.com/

วันที่ 4 ของการเดินทาง แรกทีเดียวโปรแกรมนั้นเราจะไปที่ จิ่วเฟิ่น ก็ถูกยกเลิกไปเพราะพายุ ทำให้วันนี้เลยต้องเดินเล่นกันอยู่ในไทเปแทนครับ ตอนเช้าๆสายๆกะจะแวะไปที่ Songshan Culture and Creative Park แต่เดินไปถึงก็ปิดครับ เพราะภายในสวนยังเคลียร์พื้นที่ไม่เรียบร้อยดี ยังมีซากต้นไม้ใหญ่โค่นอยู่เป็นจำนวนมากครับ (ผมเองก็พึ่งมาทราบว่าต้นไม้ใหญ่ๆรอบนอกเมืองโค่นเยอะมาก ซึ่งต่างจากในเขตเมืองที่ผมเดินเมื่อวานถือว่าภาพที่เห็นความเสียหายจริงๆนี่น้อยกว่าความเป็นจริงไปเยอะเลยครับ)

ก็เลยเปลี่ยนโปรแกรมกันเล็กน้อยไปเริ่มด้วยการกิน (อีกแล้ว) กับ Ice Monster แบบต้นตำรับจากไต้หวันแท้ๆครับ คือสั่งกันบ้าเลือดมากๆ  5555

edf

อ้อระหว่างทางมาร้านผมเจอร้านคิตตี้ขายพายสัปปะรดด้วยครับน่ารักดี

edf


Have Hot Pot ชาบูหม้อไฟสไตล์ไต้หวันดั้งเดิม

พิกัด GPS : 25.057981, 121.520490 / N25°3.47886 , E121°31.2294
การเดินทาง : MRT Shuanglian , Exit 2

คือยังไม่ทันจะหายอิ่มจาก Ice Monster ดีคุณไกด์ผมก็พามาร้านพิเศษที่จองเอาไว้แบบว่าเลื่อนโปรแกรมไม่ได้ด้วย นั่นก็คือร้าน Have Hot Pot ครับ เป็นร้านเก่าแก่ของกรุงไทเปที่ทำชาบูชาบู สไตล์ไต้หวันแบบดั้งเดิมครับ… ตัวร้านเองก็เป็นอาคารเดิมดูเก่าแก่และขลังทีเดียวครับ

sdr

มื้อนี้จัดมาแบบพิเศษครับกับกุ้ง Lobster ตัวโต และซีฟู๊ดแบบจัดเต็มมากๆ… น้ำซุปหวานอร่อยมากๆ อาหารก็สดครับ โดยรวมถือว่าดีเลยครับ แนะนำว่าใครมาไทเปให้มาลองทานร้านนี้ดูครับ…

edf edf


ตั้นสุ่ย  เมืองปากแม่น้ำไทเป – แหล่วชิวของชาวไต้หวัน

พิกัด GPS : 25.169599, 121.441600 /N25°10.17594 , E121°26.496
การเดินทาง : MRT Tamsui

ช่วงบ่ายหลังกินกันอย่างหนักหน่วงในช่วงเช้ามาแล้ว.. ผมไปเดินเล่นที่ปากน้ำของไทเปครับที่เมืองตั้นสุ่ย (Tamsui) ซึ่งสามารถนั่งรถไฟ MRT ยาวจากในเมืองไปได้เลยครับ ใช้เวลาจากในเมืองราวๆ 40 นาทีครับ ถ้าจะให้เปรียบกับบ้านเราก็คงเหมือนนั่งจากสยามไปบางปูอะไรแบบนั้นครับ มาถึงที่สถานีก็มีคนมาแสดงโชว์เต็มไปหมดครับ

69-Taiwan15-0411

สำหรับที่นี่จริงๆแล้วมีที่เที่ยวเยอะเลยครับ สามารถนั่งเรือล่องแม่น้ำไปเที่ยวได้แต่ผมมีเวลาไม่มาก เพราะช่วงเย็นผมกะว่าจะไปปีนเขาช้างเพื่อถ่ายรูปตึก Taipei101 ครับ ผมเลยเดินเที่ยวแค่ช่วงตลาดเก่าเท่านั้นครับ ที่นี่ก็จะออกแนวตลาดนัดอะไรแบบนั้นมีร้านอาหาร มีปลาหมึกตัวยักษ์ทอดแบบไต้หวัน (ซึ่งตอนนี้มีเข้ามาขายในไทยแล้วด้วย) และขายของทั่วไปเยอะแยะเลยครับ

70-Screen Shot 2558-10-06 at 9.43.36 PM 71-Taiwan15-0425


ขึ้นเขาช้าง Xiangshan ชมวิวมหานครไทเป

พิกัด GPS : 25.026840, 121.575025 / N25°1.6104 , E121°34.5015
การเดินทาง : MRT Xiangshan Exit 2

ช่วงเย็นวันนั้นผมนั่งรถไฟสายสีแดงยาวจาก Tamsui มาสุดสายอีกฝั่งหนึ่งที่สถานี Xiangshan เพื่อจะไปปีนเขาขึ้นเขาช้างไปชมวิวของไทเปกันครับ ซึ่งตอนแรกคุณไกด์ไม่ยอมให้ผมมา เพราะเค้ากลัวเรื่องความอลดภัยในการปีนขึ้นเขาหลังพายุพึ่งผ่านไปครับ กลัวว่าจะมีพวกดินสไลด์อะไรแบบนั้น แต่ผมไม่ยอมครับ เพราะมาเที่ยวนี้ยังไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเลย.. เลยแยกกลุ่มกับเพื่อนอีกกลุ่มนึงไปที่ Chiang Kai‑shek Memorial Hall ส่วนผมกับเพื่อนอีกคนนึงแอบแว๊บมาที่เขาช้างกันครับ…

ในวันที่ไปช่วงที่ออกจากสถานีเดินผ่านสวนสาธารณะ Zhongqiang พบว่าต้นไม้ใหญ่ๆแบบอายุไม่น่าจะต่ำกว่า 50 ปีโค่นเป็นจำนวนมาก แบบว่าสวนสาธารณะแห่งนั้นเละเทะไปเลยครับ แต่พอเดินไปถึงตีนเขา แม้จะเห็นร่องรอยของพายุ แต่ทางการเค้าก็เคลียร์พื้นที่สำหรับเดินขึ้นเขาไว้ค่อนข้างดีเลยครับ การปีนเขาช้างนั้นระยะคร่าวๆ ก็คือสูงประมาณครึ่งหนึ่งของความสูงของตึก Taipei 101 หลังจากผมปีนถึงจุดถ่ายรูปเปิด App Health ในมือถือดูมันบอกว่าผมปีนเขาขึ้นมาเท่ากับปีนตึก 45 ชั้น คือเอาจริงๆก็ไม่ได้สูงมากนะ… เพราะผมเคยปีนเขาสูงกว่นี้เยอะ แต่วันนั้นด้วยความที่ว่าพระอาทิตย์กำลังจะตกแล้ว เลยต้องขึ้นแบบไม่มีเวลาพัก… เหนื่อยมากกกกก เล่นเอาขาสั่นอ่ะครับ 555

แต่กับวิวที่เห็นแล้วผมว่าโคตรคุ้มครับ วิวบนนี้สวยมากกกกกกกกกกก วิวแบบนี้แหละแปลว่าผมมาถึงไต้หวันแล้วววว

72-Taiwan15-0432 73-Taiwan15-0448-Panorama

อ้อวันที่ผมขึ้นมา คนบนนี้เยอะมากครับ มีตากล้องมากมายปีนเขามาถ่ายรูปกันครับ รวมถึงผู้เฒ่าผู้แก่ก็มาเดินออกกำลังกายด้วย หลังจากฟ้ามืดไปซักพักคนเริ่มน้อยลงพอมีพื้นที่ผมเลยได้มีโอกาสเอา Huawei Honor 6 Plus ออกมาเล่นอีกครั้งครับ โดยคราวนี้ลองปรับเป็นโหมดถ่ายกลางคืน ซึ่งพบว่าถ้ามีขาตั้งกล้อง หรือมีที่วางแบบนิ่งๆ เจ้า Huawei Honor 6 Plus สามารถทำได้ไม่เลวเลยครับ นี่ขนาดผมใช้วิธีวางพิงกระเป๋ากล้องซึ่งไม่ค่อยนิ่งเท่าไหร่ แต่ภาพที่ได้ออกมาก็ถือว่าไม่เลวเลยครับ (การถ่ายโหมดนี้ถ้าแบบออโต้มันจะใช้เวลาถ่ายประมาณ 5-20 วินาทีครับ แต่จริงๆแล้วเราสามารถเซตแบบ Full Manual ได้ด้วยครับแต่ด้วยผมไม่ได้เอาที่จับมือถือไป มันเลยไม่สามารถลองถ่ายแบบนิ่งๆ 100% บนขาตั้งกล้องดูได้ครับ แต่ในภาพรวมแล้วผมว่าทำได้ไม่เลวครับ

74-2015-08-09 18.19.58


ตลาดปลาไทเป

พิกัด GPS : 25.018395, 121.497499 / N25°1.1037,E121°29.84994
การเดินทาง :  MRT Zhongshan Junior High School ต่อ Taxi ประมาณ 80 NT$ หรือเดินราว 2 กม.

เช้าวันสุดท้ายก่อนกลับผมมีโอกาสไปเดินเล่นที่ตลาดปลาของไทเปมาครับ แต่ตลาดปลาไทเปนั้นจะไม่เหมือนกับที่ญี่ปุ่นนะครับ ที่นี่เป็นตลาดปลาไฮโซติดแอร์ครับ เอาจริงๆแล้วผมว่าเหมือนกับซูเปอร์มากกว่า แต่ที่นี่ก็ถือว่ามีของสดเยอะแยะมากมายเลยครับ โดยเฉพาะปูดูน่ากินมากกกก

77-Taiwan15-0474 edf 80-Taiwan15-0481

ที่นี่มีร้านอาหารด้วยนะครับเปิดประมาณ 10 โมงครับ ช่วงเปิดคนมาแน่นร้านมากครับ แน่นจนต้องรอคิวอ่ะครับ

81-Taiwan15-0482

ผมไม่ได้ลองกินแบบร้านอาหารครับ แต่ใช้วิธีเลือกซื้อของที่อยากกินที่เค้าขายอยู่ในซูเปอร์แทนครับได้จานนี้มาชิมครับ เนื้อแซลมอนเยอะและสดมากครับ ราคาราวๆ 250 NT$ เรียกว่าโคตรคุ้มครับ

82-Taiwan15-0486


“ไม่ซ่อม” ตู้ไปรษณีย์เอียง Landmark แห่งใหม่ของกรุงไทเป

พิกัด GPS : 25.052420, 121.540409 / N25°3.1452 , E121°32.42454
การเดินทาง :  Nanjing Fuxing Station เดินประมาณ​300 เมตรอยู่ตรงข้าม Office ของ  China Airlines

ท่ามกลางวิกฤติก็ยังมีเรื่องอะไรที่ขบขันและน่ารักๆเสมอ… หลังจากพายุ SOUDELOR ผ่านพ้นไป ก็พบร่องรอยพายุอีกจุดหนึ่งนั้นคือ ตู้ไปรษณีย์ที่ถูกแรงลมพัดป้ายโฆษณาหล่นมาทับตู้จนเอียงกะเท่เร่ จนชาวไต้หวันตั้งชื่อให้ว่าน้องแอ่นเอว..  (彎腰郵筒) ซึ่งพอมีคนไปถ่ายรูป Selfie ด้วยเยอะเข้า เพียงแค่วันเดียวก็กลายเป็นไวรัลจนคนแห่ตามมาถ่ายรูปด้วยเต็มไปหมด

ทางการไต้หวันเลยตัดสินใจบอกว่า “ไม่ซ่อม” และจะให้น้องแอ่นเอวกลายเป็น Landmark แห่งใหม่ของกรุงไทเปไปเลย และไม่เพียงเท่านั้นทางการยังส่งเจ้าหน้าที่มาประจำในช่วงนั้นเพื่ออำนวยความสะดวกในการถ่ายรูปด้วยครับ… และแน่นอนแกก็จะเข้ามาร่วมแจมในการถ่ายรูปกับเราด้วย

83-Taiwan15-0512-2 84-Taiwan15-0512

เท่าที่ผมทราบมา เนื่องจากการที่คนไปถ่ายรูปที่นี่กันมากเลยทำให้บริเวณนี้รถติดอย่างหนักครับ..ปัจจุบันมีข่าวว่าทางการไต้หวันได้ย้ายน้องแอ่นเอวไปที่ใหม่ อยู่ที่ด้านหน้าของตึกทำการไปรษณีย์ Chunghwa # MRT สถานี Beimen สายสีเขียวครับ (แต่ยังไงลองเช็คข่าวดูดีๆนะครับ) ผมไม่แน่ใจว่าเค้าย้ายช่วงไหนยังไงเหมือนกันครับ


บ๊ายบายไต้หวัน แล้วเราจะได้เจอกันใหม่

หลังจากได้ไปถ่ายกับตู้ไปรษณีย์สมใจแล้วผมก็ได้เวลาที่จะต้องกลับล่ะครับ.. ขากลับก็เช่นเคยครับผมกลับด้วยสายการบิน Tigerair Taiwan ไฟลท์ 4 โมงเย็นครับ และกลับมาถึงดอนเมืองประมาณ 1 ทุ่มตรงครับ

85-Screen Shot 2558-10-06 at 9.58.15 PM

ซึ่งวันนี้ผมเองเกือบจะตกเครื่องบินครับ.. เพราะหลังจากเช็คอินเสร็จแล้วผมก็เดินถ่ายรูปเล่นอยู่ด้านนอก ส่วนเพื่อนๆเข้าไปกันหมดแล้ว ตอนผมจะเข้าไปผมแวะไปซื้อชาให้เพื่อนแล้วก็เผลอวาง Passport  ไว้ที่แคชเชียร์มารู้ตัวอีกทีตอนกำลังจะเข้าเกท อ้าวเฮ้ย… Passport หายตอนแรกจิตตกมาก แล้วก็ตั้งสติว่าครั้งสุดท้ายเราจับมันคือเมื่อไหร่ ก็นึกได้ว่าจับสองครั้งตอนเข้าห้องน้ำและตอนไปซื้อชา ไปหาที่ห้องน้ำไม่เจอ วูบแรกก็คิดว่าจะต้องไปแจ้งประชาสัมพันธ์แล้วเพราะคุยกับป้าที่ห้องน้ำก็ไม่รู็เรื่อง สุดท้ายเอ๊ะขึ้นมา ว่ามีอักจุดที่หยิบออกมาคือที่ร้านขาใบชา ก็เลยขึ้นไปดูแล้วก็ไปเจอที่แคชเชียร์นั่นเอง

เรื่องเหมือนจะจบ… แต่ยังครับ.. ผมเดินไปที Security ที่ตรวจก่อนเข้าตม. ปรากฎว่าที่สนามบินที่ไต้หวันเค้าไม่ให้เอาขาตั้งกล้องขึ้นเครื่องครับ.. ผมก็เห้ยยย ทำไงล่ะต้องวิ่งลงไปที่เค้าท์เตอร์เช็คอิน เรื่องยังไม่จบเท่านั้นมันสามารถเช็คอินได้แต่ผมถือขาตั้งกล้องเปล่าๆ ซึ่งสายการบินจะไม่สามารถเช็คอินให้ได้ถ้าไม่มีสิ่งห่อหุ้มผมเลยต้องไปซื้อหาเค้าเตอร์ห่อของต่อซึ่งก็โชคดีที่มันอยู่ตรงข้ามกับเค้าท์เตอร์ของ Tigerair Taiwan เลย …
แต่เรื่องยังไม่จบเพราะตอนนั้นผมมีเงินไต้หวันติดตัวแค่ 100 NT$ แต่ค่าห่อขาตั้งกล้องผมเค้าคิดที่ 150 NT$ แถมไม่รับบัตรเครดิตด้วย… โอวววววว… สุดท้ายเลยต้องวิ่งไปที่เค้าเตอร์แลกเงินเจอค่าชาร์จมหาโหดไป แต่ก็ยังดีที่กลับมาทัน.. และโหลดขาตั้งกล้องทันเวลาแบบเฉียดฉิวมากกกกก…. จากนั้นก็โกยเลยครับ วิ่งไปเกทแบบว่าไฟนอลคอลแล้วว  ก็ได้กลับบ้านในที่สุด เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้รู้เลยว่าสติสำคัญที่สุดเวลาเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น

86-Taiwan15-0525

สำหรับไต้หวันนั้นผมเองได้มีโอกาสสัมผัสไปไม่มากเท่าไหร่ เพราะมัวแต่ไปติดพายุอยู่ แต่เท่าที่ได้สัมผัสรู้สึกว่าเป็นประเทศนี้มีความผสมระหว่างจีนและญี่ปุ่นหลายอย่างมาก โดยเฉพาะพวก Infographic มีความน่ารักคล้ายคลึงกับญี่ปุ่น แต่ก็เป็นประเทศที่ได้รับอิทธิพลจากจีนมาเยอะมากซึ่งก็ดูทั้งกลมกลืนและขัดแย้งในตัวเองดี 555

พูดถึงที่เที่ยวก็ยังมีอะไรน่าสนใจอีกหลายอย่างมากที่ผมยังไม่ได้เที่ยว และคิดว่าในเร็วๆนี้จะหาโอกาสกลับไปเที่ยวให้ได้เลยครับ… เพื่อนๆถ้ามีโอกาสก็ลองไปเที่ยวไต้หวันดูนะครับ รับรองว่าไม่มีผิดหวังแน่นอนครับ

สำหรับวันนี้ก็ขอลาเพื่อนๆไปแต่เพียงเท่านี้ สวัสดีและขอบคุณที่ติดตามรีวิวกันมาโดยตลอดครับ

0

 likes / 2 Comments
Share this post:

Archives

> <
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec
Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec