Dec-2019
RACHA residence ที่พักศรีราชา ทำเลดี เที่ยวง่าย นอนสบาย
RACHA residence ที่พักศรีราชา
ทำเลดี เที่ยวง่าย นอนสบาย
หลังจากมีลูกเราให้ความสำคัญเรื่องทำเลที่พักค่อนข้างมาก เพราะพาลูกไปเที่ยวทั้งที จะให้เดินทางนั่งรถไปๆมาๆ คงไม่สนุกเท่าไหร่ การพาลูกไปเที่ยวครั้งล่าสุดเราเลือกจะไปพักที่ RACHA residence เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ที่ตัวเมืองศรีราชา
พัทยา เป็นหนึ่งจุดหมายที่ครอบครัวเราชอบพาลูกไปเที่ยว เพราะเดินทางง่ายสะดวกขับมอเตอร์เวย์แป๊บเดียวถึง ที่พักไม่แพง แถมยังมีสถานที่ที่พาลูกไปเที่ยวได้เยอะอีกด้วย ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาลูกเราชื่นชอบการไปสวนสัตว์ให้อาหารสัตว์ที่สวนสัตว์เปิดเขาเขียว แถมพึ่งได้เห็นรูปที่อากงไปถ่ายรูปกับลูกเสือมาอีก จากที่เมื่อก่อนนางกลัวเสือครั้งนี้ ยางมาบอกเองจ้าว่าอยากไปถ่ายรูปกบเสือเบบี๋
รอบนี้เราจึงตัดสินใจมาพักกันที่ อ.ศรีราชา เพราะที่นี่แม้จะดูว่าใกล้พัทยาก็จริง แต่จากที่เราเคยมานอนพัทยาแล้วจะกลับมาเที่ยวสวนเสือศรีราชา หรือสวนสัตว์เปิดเขาเขียว เราพบว่ามันก็เสียเวลาขับรถบางครั้งเกือบชั่วโมง แต่กับการพักที่ ศรีราชา เราสามารถขับรถไปยังสวนเสือศรีราชาได้ในระยะเวลาเพียง 10-15 นาทีเท่านั้น
ศรีราชาเป็นเมืองที่มีคนญี่ปุ่นที่มาคุมโรงงานมาอาศัยอยู่ค่อนข้างมาก ดังนั้นที่พักที่นี่หลายที่จึงจะออกเป็นแนว Serviced Apartment ซึ่งข้อดีของห้องพักประเภทนี้คือ จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เสมือนพักอยู่ที่บ้านเลย ไม่ว่าจะมีห้องรับแขก ห้องน้ำ ห้องครัว ตู้เย็น ซึ่งค่อนข้างเหมาะสำหรับครอบครัวเรา การไปเที่ยวศรีราชาครั้งนี้เราเลือกพักที่ RACHA residence ซึ่งอยู่ในซอยแถวๆแยกอัสสัมชัญ ศรีราชาเลย
ตัวโรงแรมเป็นอาคารสูง 8 ชั้น มีห้องทั้งหมด 5 แบบให้เลือกคือ
- Superior Room
- Deluxe Room
- Junior Room
- Executive Suite (two Bedrooms)
- Family Suite (two Bedrooms
ชั้นล่าง ด้านหน้าจะเป็นล็อบบี้ รวมถึงร้านอาหารญี่ปุ่น Racha Tei ส่วน ด้านหลังจะเป็นฟ้องฟิตเนส และที่จอดรถใต้ตึก จอดได้ 6-7 คัน แต่ด้านข้างโรงแรมจะมีที่จอดที่สามารถจอดได้อีกเยอะเลย
ห้องฟิตเนสที่นี้ไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีเครื่องเล่นให้ใช้งานได้พอสมควร เปิดให้บริการถึงราว 4 ทุ่ม
Superior Room
ห้อง Superior Room จะเป็นห้องไซส์เล็กสุดของที่นี่ แต่ขนาดว่าเล็กสุดก็มีพื้นที่กว้างถึง 30 ตารางเมตรเรียกว่าใหญ่ว่าคอนโดใน กทม.หลายๆแห่งเสียอีกห้องแบบนี้มีทั้งหมด 72 ห้องมีให้เลือกทั้งเตียว Twin และ Double ซึ่งครอบครัวเราก็เลือกพักห้องแบบนี้แหละ ข้อด้อยเมื่อเทียบกับห้องอีก 4 แบบของโรงแรมคือ ห้อง Superior จะรวมถึงส่วนอยู่ในห้องเดียว ไม่ได้มีการแยกห้องนอนออกจากส่วนห้องนั่งเล่นเหมิอนห้องอื่นๆนั่นเอง แต่สาวนตัวแล้วเราไม่ซีเรียสมาก เพราะเรานอนพักแล้วช่วงกลางวันออกพาลูกไปเที่ยว ช่วงกลางคืนถ้าจะทำงานเราก็หยิบ iPad ลงมาทำงานที่ล็อบบี้ของโรงแรมเอา
ห้องพักเมื่อเปิดเข้ามาจะเป็นส่วนของครัว ซึ่งตามสไตล์ของเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ก็จัดเต็มมีให้ครบ ทั้งเตา ซิงค์ร้านจาน จานชามช้อนส้อม จำนวนมาก ไมโครเวฟ และตู้เย็นไซส์ใหญ่ที่ใช้งานตามบ้านจริงๆ ไม่ใช้ตู้เย็นไซส์จิ๋วแบบที่หลายโรงแรมมีไว้แช่ได้เฉพาะน้ำอะไรแบบนั้น
ถัดมาเป็นส่วนของห้องนอน ตามด้วยโซฟา และโต๊ะอาหารเรียงกันไป ส่วนฝั่งปลายเตียงจะมีตู้เสื้อผ้าบานใหญ่ โต๊ะเครื่องแป้งและ ทีวี ซึ่งมีช่องให้เรียกดูพอสมควรเลยละ
เตียงที่นี่ก็ถือว่าใหญ่โตระดับหนึ่ง เรานอนกันสามคนพ่อแม่ลูกได้สบายๆ แต่อาจจะต้องหมุนๆตามลูกดิ้นบ้าง ฮา… ที่นี่ลูกเราชอบ เพราะตรงหัวเตียงแต่งด้วยกระจก ลูกเราชอบมายืนเล่นกระโดดๆบนเตียงแบแทมโบลีน แล้วส่องกระจกไปด้วย ฮา…
สำหรับห้องน้ำตามสไตล์คนญี่ปุ่นก็ต้องมี อ่างอาบน้ำไว้ให้แช่น้ำ แน่นอนส่วน Amenity มีประมาณหนึ่ง สำหรับชุดแปรงสีฟันยาสีฟันนั้นสามารถขอได้จากล็อบบี้เลยจ้า
Deluxe Room
ห้องไซส์ใหญ่ขึ้นมาจะเป็น Deluxe Room ซึ่ง Facility ต่างๆจะใกล้เคียงกับห้อง Superior Room แต่จะมีพื้นที่เพิ่มมาเป็น 35 ตารางเมตร และมีประตูเลื่อนกั้นระหว่างห้องนอนและห้องนั่งเล่น ห้อง Deluxe นี้จะมีเฉพาะเตียงแบบ Double มีทั้งสิ้น 12 ห้อง ห้องแบบนี้จะมีห้องน้ำ 1 ห้องซึ่งจะต้องเข้าจากห้องนั่งเล่น ดังนั้นหากเรานอนไปแล้วจะเข้าห้องน้ำ จพต้องออกมาด้านนอกก่อนนะ
เลย์เอ้าท์ห้องจะคล้ายๆกับห้อง Superior คือเปิดห้องมาจะเป็นส่วนของครัวก่อน
ส่วนที่เพิ่มเติมมาคือบริเวณด้านในจะกว้างขึ้น และจะแบ่งห้องเป็น 2 ฝั่งซ้ายขวา ฝั่งหนึ่งจะเป็นส่วนของห้องนอน อีกฝั่งหนึ่งเป็นห้องนั่งเล่น และโต๊ะกินข้าว โดยกั้นด้วยประตูเลื่อนไม้บานใหญ่ อ้อโต๊ะอาหารจะมาอยู่ฝั่งติดกับชุดครัว ซึ่งเราว่าตรงนี้เราว่าเป็นส่วนที่ดีกว่าห้องแบบ Superior นะ สำหรับเลย์เอ้าท์ห้องน้ำนี่ไม่ต่างกัน
Junior Room
สำหรับห้อง Junior Room จะเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดสำหรับการไปพักแบบ 1 ห้องนอน ห้องนี้กว้างมากถึง 42 ตารางเมตรเลยทีเดียวมีทั้งหมด 5 ห้องมีเตียงเฉพาะแบบ Double เลย์เอ้าท์ด้านหน้าเหมือนกับห้อง 2 แบบแรกคือเป็นส่วนของครัวและห้องน้ำ
ถัดมาเป็นส่วนของห้องรับแขกที่กว้างมาก จนเราแอบรูสึกว่ากว้างไปหน่อย แต่กว้างๆแบบนี้เนี่ยเด็กๆชอบเลยละ เด็กๆสามารถวิ่งเล่นวนรอบห้องได้อย่างสนุกเลย
สำหรับในส่วนของห้องนอนจะมีทีวีเพิ่มมีอีกหนึ่งเครื่อง ทำให้ห้องนี้มีทีวีรวม 2 เครื่องมีทั้งในส่วนของห้องนั่งเล่นและห้องนอนเลย
Executive Suite (two Bedrooms)
สำหรับห้องแบบ Executive Suite (two Bedrooms) นั้นมีพื้นที่มากถึง 68 ตารางเมตร และมีห้องทั้งหมด 13 ห้อง รูปแบบการวางเลย์เอ้าท์ใกล้เคียงกับห้อง Deluxe แต่ใหญ่มากขึ้น คือแบ่งห้องเป็น 2 ฝั่ง คือฝั่งหนึ่งเป็นห้องรับแขก อีกฝั่งเป็นห้องนอน ซึ่งห้องนี้จะมีห้องนอนเป็น 2 ห้องแทน และแต่ละห้องจะใช้ประตูทั่วไปแทนประตูเลื่อนรวมถึงขนาดห้องนอนที่ใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม ในส่วนของห้องรับแขกก็จะมีชุดโซฟาที่ใหญ่โตขึ้นโดยจัดเข้าเซตเป็นตัวแอล แต่ตัวโต๊ะอาหารจะถูกจัดไว้ที่ริมหน้าต่างแทน
สำหรับครัวไซส์เท่าๆกับห้องอื่นแต่ว่าตัวตู้เย็นจะเป็นตู้เย็นขนาดที่ใหญ่ขึ้น เป็นตู้เย็นแบบ 2 ชั้นที่แยกส่วนเย็นและส่วนแข็งออกจากกันไปเลย
ห้องนอนของห้องแบบนี้จะมี 2 ห้อง แต่ตัวห้องน้ำจะเป็นแบบห้องน้ำรวมที่ด้านนอก
Family Suite (two Bedrooms)
สำหรับห้องขนาดใหญ่ที่สุดของที่นี่คือ ห้อง Family Suite (two Bedrooms) ห้อง มีพื้นที่ 76 ตารางเมตรมีทั้งหมด 2 ห้อง ซึ่งห้องนี้สิ่งที่เพิ่มมาจากห้อง Executive Suite คือตรงห้องครัวจะมีตู้จานชามเพิ่มเติมมาอีก 1 ตู้และห้องน้ำจะมีเป็น 2 ห้องแยกกันไปเลย ไม่ต้องใช้รวมเหมือนห้อง Executive รวมไปถึงห้องแบบนี้จะมีเครื่องซักผ้าเพิ่มมาให้ในห้องด้วยเลย (ห้องแบบอื่นๆ ต้องไปใช้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญที่ชั้น 1)
สำหรับห้องนอนใหญ่ก็จะมีห้องน้ำในตัวซึ่งเราว่าวางเลย์เอ้าท์ได้ดีนะคือเอาไปซ่อนไว้หลังกำแพงตรงทีวี จะมีซอกให้เดินเข้าไปซึ่งจะมีตู้เสื้อผ้าเป็นส่วนของ Closet ไปในตัวด้วยเลย แต่ห้องน้ำอันนี้จะเป็นฝักบัวนะไม่ใช่อ่างอาบน้ำ ถ้าเป็นอ่างอาบน้ำจะเป็นห้องน้ำด้านนอก
สำหรับห้องอาหารของโรงแรมชื่อว่า Racha Tei อยู่ชั้น 1 ของโรงแรมช่วงเช้าเปิดให้บริการอาหารเช้าตั้งแต่ 5:15 ซึ่งถือว่าเช้ามากๆ ส่วนหนึ่งเพราะลูกค้าโรงแรมเป็นคนที่มาทำงานแล้วเช่นรายเดือนรายปี ดังนั้นเค้าเลยตื่นมาทานแต่เช้าแล้วไปทำงานเช้าอะไรแบบนั้น
อาหารถือว่ามีให้เลือกทานเยอะพอสมควรเลยละ
หลังจากมื้อเช้าที่นี่จะเป็นห้องอาหารหลักของโรงแรมเปิดถึง 3 ทุ่ม โดนธีมจะเป็นห้องอาหารญี่ปุ่นราคาประหยัดโดยช่วงที่ครอบครัวเราไปเที่ยวกันนั้นจะมีโปรอาหารเซตราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 149 เท่านั้น รสชาติโดยรวมจะออกมาทางลิ้นคนไทยนิดนึง ด้วยความที่ลูกเราชอบทานอาหารญี่ปุ่นอยู่แล้ว เราเลยฝากท้องไว้ที่นี่อยู่ 1 วันตอนวันที่ไปถึงเพราะขี้เกียจออกไปร้านอาหารข้างนอก
ตัวที่เราว่าทำได้อร่อยเลยคือพวกเสียบไม้ย่างหรือยากิโทริ นั่นละ ส่วนตัวเบนโต๊ะและชุดสเต็กอย่างที่บอกไปรสชาติออกแนวลิ้นคนไทยนิดนึง ข้าวผัด (ของลูกที่เราแอบไปแย่งชิม) รสชาติดีเลย
บทสรุป RACHA residence ที่พักศรีราชา
ทำเลดี เที่ยวง่าย นอนสบาย
- ห้องพักกว้างขวาง มีให้เลือก 5 แบบตามตามต้องการ
- เนตไวไฟแรง เราสามารถดูบอลทางเนตได้โดยไม่หลุด มีตัวปล่อยไวไฟแยกให้แทบทุกห้อง
- หน้าโรงแรมมีมินิมาร์ท (Lawson)
- มีที่เที่ยวใกล้ๆสำหรับเด็กหลายที่ อาทิ Harbour Land ที่ตึกคอม สวนเสือศรีราชา สวนสาธรารณะเกาะลอย และสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ซึ่งมีแค่นี้สำหรับการพาลูกเที่ยวช่วงศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ก็ถือว่าเหลือๆแล้ว
- มีฟิตเนสให้บริการ
- ห้องอาหารในโรงแรมเป็นธีมอาหารญี่ปุ่นมีโปรโมชั่นราคาถูก (ชุดละ 149 บาทเท่านั้น)
สำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้
- เว็บไซต์โรงแรม
- โทรศัพท์\(+66) 038 323 444
- Line ID : racharesidence
- Facebook https://www.facebook.com/racharesidence/
หากคุณชอบรีวิวของเราเพียงแค่คอมเม้น แชร์ก็จะเป็นกำลังใจอย่างยิ่งหรือหากอยากติดตามประสบการณ์ดีๆไปกับพวกเราเพียงBookmark http://www.travelplanetx.com หรือติดตามได้ที่ Facebook Fan Page: Travel Planet Xperiences